
‘บอร์ด กสทช.’ ไฟเขียวพัฒนาระบบแจ้งเตือน ‘ภัยพิบัติ’ ผ่านโครงข่ายฯ 'ทีวีดิจิทัล' ขณะที่ ‘พิรงรอง’ เร่งบอร์ดฯ หารือ Roadmap ‘ทีวีดิจิทัล’ ก่อนใบอนุญาตหมดอายุปี 72 ระบุต้องให้ 'ภาคอุตฯ' มีเวลาเตรียมการล่วงหน้า
.........................................
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีมติรับทราบรายงานผลการศึกษาและเตรียมการพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติหรือเหตุฉุกเฉิน (Emergency Warning System: EWS) ผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล
พร้อมทั้งมีมติเห็นชอบในหลักการแนวทางการดำเนินการ และแนวทางการสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ เพื่อให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ที่ใช้คลื่นความถี่ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล (MUX) ระดับชาติ ที่มีความพร้อมในส่วนของอุปกรณ์โครงข่าย โดยเป็นการสนับสนุนงบประมาณในการพัฒนาระบบ API (Application Programming Interface) และการจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้ในการดำเนินการฯ จะมาจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) และมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. รับไปดำเนินการ
ทั้งนี้ สำนักงาน กสทช. จะเสนอรายละเอียดโครงการต่อบอร์ด กสทช. หากได้รับความเห็นชอบ ก็จะเสนอบอร์ด กทปส.พิจารณา ก่อนจะเปิดให้ผู้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายฯ ขอรับสนับสนุนค่าใช้จ่ายภายใต้กรอบวงเงิน 15 ล้านบาท/ราย โดยจะนำร่องสนับสนุนผู้รับใบอนุญาตให้บริการโครงข่ายฯที่มีความพร้อม 2 ราย ได้แก่ ททบ. และไทยพีบีเอส ซึ่งให้บริการรวม 3 โครงข่าย 15 ช่องรายการ ซึ่งคาดว่าการแจ้งเตือนภัยดังกล่าวจะเข้าถึงประชาชนได้ 9.8 ล้านครัวเรือน
ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง รามสูต กสทช.ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ระบบ EWS เป็นการแจ้งเตือนเสริมและช่วยลดช่องว่างของระบบ Cell Broadcast โดยอาศัยจุดแข็งด้านพื้นที่การให้บริการและการเข้าถึงของประชาชนที่อาจไม่มีโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่รองรับ หากขณะนั้นประชาชนกำลังรับชมรายการโทรทัศน์อยู่ก็จะรับทราบการแจ้งเตือนเหตุได้อย่างรวดเร็ว แล้วไปติดตามข้อมูลได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น หากระบบสามารถเปิดใช้ได้ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชนได้เร็วขึ้นเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ททบ.ได้มีการทดสอบระบบ EWS ทั้งสิ้น 3 ครั้ง ดังนี้ 1.การทดสอบในระบบปิดระหว่างการประชุมคณะทำงาน EWS เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2568 2. การทดสอบในระบบปิดภายในงานแถลงข่าวการทดสอบ EWS เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2568 และ 3.การทดสอบในระบบเปิดบนโครงข่ายดิจิทัลทีวีที่ใช้งานจริงของ ททบ. ในพื้นที่ จ.พะเยา และ จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2568 เวลา 00.00-01.00 น. โดยผลการทดสอบทั้ง 3 ครั้งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. ครั้งที่ 38/2568 ซึ่งมีการประชุมต่อเนื่องในวันที่ 23-24 ธ.ค.2568 มีการบรรจุระเบียบวาระกว่า 80 วาระ เป็นเรื่องที่ค้างพิจารณา 24 วาระ ซึ่งรวมถึงร่างแผนที่นำทาง (Roadmap) กิจการโทรทัศน์และการแพร่ภาพและเสียงของประเทศไทย (พ.ศ. 2569-2573) เพื่อเตรียมการรองรับก่อนใบอนุญาตโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลหมดอายุในปี 2572
แนวทางที่เป็นไปได้และเหมาะสมในการจัดให้มีช่องทางการเข้าถึงกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินบนแพลตฟอร์มดิจิทัล (National Streaming Platform) และร่างแผนปฏิบัติการภายใต้แผนการจัดให้มีบริการกระจายเสียงและบริการโทรทัศน์พื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (พ.ศ.2566-2568)
“ก็หวังว่าอย่างน้อยจะได้มีการหยิบยกเรื่อง Roadmap กิจการโทรทัศน์ฯขึ้นมาพิจารณา เพราะเป็นสิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมทวงถามมาตลอด เนื่องจากก่อนที่ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ดิจิทัลจะหมดอายุ ทั้ง กสทช.และภาคอุตสาหกรรมเองต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า นี่ก็เหลือเวลาเพียง 2 ปีสำหรับ MUX และประมาณ 3 ปี สำหรับช่องรายการ ถ้าไปดูในร่างแผนที่นำทางจะพบว่ามีสิ่งที่ต้องเร่งทำตั้งแต่ต้นปี 2569 จะปล่อยให้ช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว” ศ.กิตติคุณ ดร.พิรงรอง กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา