"...ผู้กล่าวหาเห็นว่าผู้ถูกล่าวหาที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จึงจ่ายเงินสดให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และบุคคลอื่น และโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ระหว่างเดือนมิถุนายน 2556 - เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นเงินทั้งสิ้น 29,600,000 บาท..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2565 ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดทางคดีอาญา นายวิฑูรย์ นามบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 กับพวกรวม 5 ราย กรณีถูกกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญาหรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่นและมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 2556 - 2557
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเสียงข้างมากเห็นว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร และพวก มีความผิดทางอาญาตามมาตรา 149,157 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ส่วนกรรมการ ป.ป.ช. เสียงข้างน้อย 1 เสียง เห็นว่า ไม่ผิดตามมาตรา 149
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการยืนยันข้อมูลรายละเอียดพฤติการณ์การกระทำความผิดในคดีนี้ เพิ่มเติมดังนี้
รายชื่อผู้ถูกกล่าวหา มีจำนวน 5 ราย คือ
1. นายวิฑูรย์ นามบุตร
2. นายกิตติศักดิ์ มุธุสิทธิ์
3. นางอาทิตยา ศรีสะอาด
4. นายธีระวัฒน์ ศรีสะอาด
5. นางพิกุล แสวงสาย
พฤติการณ์การกระทำความผิด
ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2556 นายวิฑูรย์ นามบุตร ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 อ้างว่าตนเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ในนามห้างหุ้นส่วนจำกัด ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง และมีทีมงานห้าเสียงเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการกระทำการแทนตน และตนในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี และเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 สามารถจัดสรรงบประมาณโครงการดังกล่าวให้ได้
โดยห้างหุ้นส่วนจำกัด ล. พานิชเขื่องในก่อสร้าง ได้รับงานโครงการดังกล่าวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือหลายจังหวัด และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นจำนวนมาก
แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันและต้องการผู้ร่วมลงทุน
จึงได้ชักชวนผู้กล่าวหา (ปกปิดรายชื่อ) ร่วมลงทุนดำเนินการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ของทางราชการ โดยผู้กล่าวหาต้องจ่ายเงินเพื่อเป็นการลงทุนและค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 จำนวน 30 ล้านบาท
ซึ่งผู้กล่าวหาเห็นว่าผู้ถูกล่าวหาที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเป็นกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จึงจ่ายเงินสดให้กับผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และบุคคลอื่น และโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น ระหว่างเดือนมิถุนายน 2556 - เดือนพฤษภาคม 2557 เป็นเงินทั้งสิ้น 29,600,000 บาท
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ล.พานิชเขื่องในก่อสร้างนั้น จากการตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2524 ทุนปัจจุบัน 150 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 165-166-167 หมู่ 5 ถนนแจ้งสนิท ตำบลเขื่องใน อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี แจ้งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง นาย กิตติศักดิ์ มุธุสิทธิ์ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ ณ 22 ตุลาคม 2558 นาย กิตติศักดิ์ มุธุสิทธิ์ นาย ชม ปกป้อง นาย บุญสวน นามบุตร ถือหุ้นเท่ากันคนละ 33.3333% หรือมูลค่า 50 ล้านบาท
น่าสังเกตว่า นาย กิตติศักดิ์ มุธุสิทธิ์ หุ้นส่วนผู้จัดการผู้มีอำนาจ หจก. ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีนี้ด้วย
ส่วนนายบุญสวน นามบุตร มีนามสกุลเดียวกับ นายวิฑูรย์ นามบุตร
ขณะที่ ในการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ตอนรับตำแหน่ง ส.ส. วันที่ 2 ส.ค.2554 (อิศรานำเสนอช่วงปี 2562 ) แจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 97,675,930.86 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 24,275,930.86 บาท ที่ดินใน จ.อุบลราชธานี 8 แปลง เนื้อที่ 41-2-36 ไร่มูลค่า 24,000,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (บ้าน 3 หลังใน จ.นนทบุรีและอุบลราชธานี) มูลค่า 48,000,000 บาท ยานพาหนะ 400,000 บาท ทรัพย์สินอื่นมูลค่า 1,000,000 บาท (พันธบัตรรัฐบาล) หนี้สิน 6,992,288.51 บาท (สถาบันการเงิน)
นางสุจรรยา คู่สมรส มีทรัพย์สิน 1,588,107.16 บาท ประกอบด้วย เงินฝาก 178,107.16 บาท ยานพาหนะ 300,000 บาท ทรัพย์สินอื่นมูลค่า 1,110,000 บาท (พันธบัตรรัฐบาลและเครื่องประดับ) ไม่มีหนี้สิน
บุตรไม่บรรลนิติภาวะมีทรัพย์สิน 1,043,087.72 บาท ประกอบด้วยเงินฝาก 43,087.72 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,000,000 บาท (พันธบัตรรัฐบาล)
ไม่ปรากฏข้อมูลการถือครองหุ้นใน หจก. ล.พานิชเขื่องในก่อสร้าง แต่อย่างใด?
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า การชี้มูลความผิดครั้งนี้ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่ถือเป็นที่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหา ยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายวิฑูรย์ นามบุตร เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ขณะที่ นายวิฑูรย์ ระบุว่า ยังไม่ทราบข่าวมติการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช.ดังกล่าว ว่า เป็นเรื่องอะไรกันแน่ คงต้องไปตรวจสอบในรายละเอียดก่อน
หากมีรายละเอียดคำชี้แจง นายวิฑูรย์ นามบุตร เพิ่มเติม จะนำมาเสนอให้สาธารณชนได้รับทราบต่อไป