"...นางสาวสุคนธ์ธา ให้การในชั้นไต่สวนว่า ช่วงปี 2557 ตั้งครรภ์ใกล้คลอด จึงตัดสินใจซื้อบ้านโครงการหมู่บ้านคาซ่า เลเจ้นด์ นายวิฑูรย์ได้จัดการซื้อบ้านให้ แหล่งที่มาของเงินมาจากนายวิฑูรย์ทั้งหมด โดยในช่วงที่ซื้อบ้านนางสาวสุคนธ์ธา มีอายุเพียงแค่ 22 ปี มีรายได้จากการรับงานเดินสายประกวด และงานอีเว้นท์เท่านั้น ส่วนนายวิฑูรย์ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า ได้เงินจำนวน 14,300,000 บาท มาจากการเล่นพนัน ที่ประเทศกัมพูชา ผ่านด่านศุลกากรช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ ชื่อบ่อนโอเสม็ด รีสอท คาสิโน และ บ่อนรอยัล คาสิโน..."
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2568 มีมติเอกฉันท์ชี้มูลความผิด นายวิฑูรย์ นามบุตร ในคดีร่ำรวยผิดปกติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (สส.) ปี 2554 เป็นจำนวนเงินรวม 58,900,000 บาท และเห็นควรให้ส่งสำนวนไต่สวน เอกสารหลักฐาน ให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
โดยเงินจำนวน 58,900,000 บาท แบ่งออกเป็น 3 รายการ ได้แก่ 1. เงินที่นำไปใช้ในการสร้างโรงเรือน จำนวน 1 หลัง จำนวน 15,000,000 บาท, 2. เงินที่นำไปมอบให้นางสาวสุคนธ์ธา หอมจันทร์ อดีตภรรยานอกสมรส เพื่อชำระค่าซื้อบ้าน จำนวน 14,300,000 บาท และ3. เงินที่ได้รับมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 29,600,000 บาท
- มติเอกฉันท์! ป.ป.ช.ชี้มูล 'วิฑูรย์ นามบุตร' คดีร่ำรวยผิดปกติ 58.9 ล. ช่วงเป็น สส.ปี 54
- เบื้องลึก! เงิน 14.3 ล.คดี 'วิฑูรย์' ร่ำรวยผิดปกติ อ้างเล่นพนันได้-โยงกรณีเรียกรับ 30 ล.
ทั้งนี้ ข้อมูลเกี่ยวกับเงินที่นำไปมอบให้ นางสาวสุคนธ์ธา หอมจันทร์ อดีตภรรยานอกสมรส เพื่อชำระค่าซื้อบ้าน จำนวน 14,300,000 บาท นั้น
สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า เป็นบ้านและที่ดิน ในกรุงเทพมหานคร แถวถนนราชพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบยืนยันข้อมูลพบว่า บ้านและที่ดิน ในกรุงเทพมหานคร แถวถนนราชพฤกษ์ แขวงตลิ่งชัน อยู่ในโครงการบ้านจัดสรร คาซ่า เลเจ้นด์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า
จากการตรวจสอบข้อมูลในเว็บไซต์กรมที่ดิน พบว่า บ้านหลังนี้ อยู่บนที่ดินเนื้อที่ประมาณ 72.1 ตารางวา ราคาประเมินที่ดิน 80,000 ต่อตารางวา
เมื่อตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับโครงการบ้านจัดสรร คาซ่า เลเจ้นด์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า พบว่า เป็นโครงการบ้านเดียว จำนวน 125 ยูนิต ระบุราคาขายอยู่ที่ 9,900,000 - 13,900,000 บาท ราคาต่อตร.ม.อยู่ที่ 42,910-49,632 บาท ต่อ ตร.ม.
บ้านที่มีราคาแพงที่สุด 13,900,000 บาท มี 3 ห้องนอน 4 ห้องรน้ำ ขนาด 313 ตร.ม.
อ้างอิงข้อมูลจาก https://www.ddproperty.com)
ขณะที่ในการไต่สวนข้อมูลของ ป.ป.ช. พบว่า นางสาวสุคนธ์ธา อดีตภรรยานอกสมรส ของนายวิฑูรย์ ซื้อบ้านและที่ดินหลังนี้ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2557 เป็นเงินจำนวน 14,300,000 บาท หลังจากที่นายวิฑูรย์ พ้นตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2556 ชำระเงินจองและงวดโอน 7 งวด มีทั้งการชำระเป็นเงินสด และซื้อแคชเชียร์เช็ค ของนางสาวสุคนธ์ธา และคนใกล้ชิด
นางสาวสุคนธ์ธา ให้การในชั้นไต่สวนว่า ช่วงปี 2557 ตั้งครรภ์ใกล้คลอด จึงตัดสินใจซื้อบ้านโครงการหมู่บ้านคาซ่า เลเจ้นด์ นายวิฑูรย์ได้จัดการซื้อบ้านให้ แหล่งที่มาของเงินมาจากนายวิฑูรย์ทั้งหมด โดยในช่วงที่ซื้อบ้านนางสาวสุคนธ์ธา มีอายุเพียงแค่ 22 ปี มีรายได้จากการรับงานเดินสายประกวด และงานอีเว้นท์เท่านั้น
ส่วนนายวิฑูรย์ ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า ได้เงินจำนวน 14,300,000 บาท มาจากการเล่นพนัน ที่ประเทศกัมพูชา ผ่านด่านศุลกากรช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ ชื่อบ่อน "โอเสม็ด รีสอท คาสิโน" และ บ่อน "รอยัล คาสิโน"
แต่จากการตรวจสอบข้อมูล ตม.สุรินทร์ และกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 4 ไม่พบว่าระหว่างปี 2549 - ปัจจุบัน มีข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกราชอามาจักร ณ ช่องทางจุดผ่านแตนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ และจากการตรวจสอบกับด่านศุลกากรช่องจอม ไม่พบข้อมูลรายการนำเข้า/ส่งออกเงินตราต่างประเทศ ระหว่างปี พ.ศ.2549-2560
ป.ป.ช.จึงเชื่อว่า นายวิฑูรย์ มีการโอน ย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน เงินจำนวน 14,300,000 บาท โดยให้ นางสาวสุคนธ์ธา ถือครองแทน และนำมาสู่มติชี้มูลคีดร่ำรวยผิดปกติ ของนายวิฑูรย์ พร้อมส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด (อสส.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับที่มาของเงินจำนวน 14,300,000 บาท สำนักข่าวอิศรา รายงานไปแล้วว่า มีความเชื่อมโยงกับคดีที่ นายวิฑูรย์ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาในช่วงปี 2565 กรณีถูกกล่าวหาพร้อมพวกรวม 5 รายว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น และมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด กรณีเรียกรับเงิน จำนวน 30 ล้านบาท ในการร่วมลงทุนและช่วยเหลือการก่อสร้างโครงการสิ่งสาธารณูปโภคของทางราชการ เมื่อปี 2556 - 2557 ซึ่งปัจจุบันคดีนี้ อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดีในชั้นศาลฯ
รายละเอียดเป็นอย่างไร ติดตามได้ในตอนต่อไป
อย่างไรก็ดี การชี้มูลความผิดของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ยังไม่สิ้นสุด ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะคำพิพากษาตัดสินชี้ขาดว่ามีความผิด