"...ว่ากันว่า ‘ยศชนัน’ เคยถูกวางตัวให้มานำทัพพรรคเพื่อไทยมาแล้ว แต่ด้วยกติการัฐธรรมนูญ และกลไกทางการเมืองขณะนั้นไม่เอื้ออำนวย ทำให้ ‘นายใหญ่’ ตัดสินใจใช้แผน ‘แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย’ แทน แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ และแผนดัน ‘ยศชนัน’ ก็ถูกพับไป ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2566 ก็มาดัน ‘แพทองธาร’ ลูกสาวแท้ ๆ แทน เพราะมีอายุเกิน 35 ปี สามารถนั่งเก้าอี้นายกฯได้แล้ว..."
ฝุ่นควันเริ่มจางลง พลันจบศึกแย่งชิงเก้าอี้รัฐมนตรี ในการปรับ ครม.แพทองธาร ชินวัตร 1/2 นานราว 1 สัปดาห์ หลังจาก ‘ภูมิใจไทย’ ประกาศถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากถูก ‘เพื่อไทย’ ในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หักปฏิญญา ‘ช็อคมินต์’ ปิดฉากหวานอมขมกลืน กับปฏิบัติการทวงคืนเก้าอี้ ‘มท.1’
ประเด็นที่น่าสนใจ พรรคร่วมรัฐบาล เวลานี้มีเสียง สส.สนับสนุน ทั้งแบบ ‘เป็นทางการ’ และแบบ ‘ไม่เป็นทางการ’ อย่างน้อยราว 260 เสียง ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน ‘แท้จริง’ อาจเหลือเพียง 4 พรรค รวม สส.ได้ราว 235 เสียง ได้แก่ พรรคประชาชน (ปชน.) พรรคภูมิใจไทย (เพิ่งมาล่าสุด) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคเป็นธรรม
สำหรับ ‘โผ ครม.’ มีการขยับเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่ง ที่อาจยังเขย่า ‘ไม่ลงล็อค’ เช่น เก้าอี้ ‘มท.1’ เดิมวางตัว ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ สส.โคราช มากคอนเนกชั่น มานั่งรมว.มหาดไทย แต่ล่าสุดได้โยก ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ จาก รมว.กลาโหม มานั่งเก้าอี้ร้อนตัวนี้แทน ส่วน ‘ประเสริฐ’ คาดว่ายังนั่งเก้าอี้ รมว.ดีอีเอส หรือไม่ก็โยกไปนั่ง รมว.แรงงาน และขยับ จักรพงษ์ แสงมณี มานั่ง รมว.ดีอีเอส แทน
เรื่องนี้ส่งผลให้มี สส.อีสาน หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ และขุดประเด็นเรื่อง ‘นักรบห้องแอร์’ ออกมาพูดถึงอีกครั้งว่า คนที่จะนั่งเก้าอี้ มท.1 ควรเป็น ‘สส.เขต’ เนื่องจากได้ดูแลพื้นที่ เข้าใจประชาชน เพื่อสร้างฐานเสียง มากกว่าเอา ‘นักรบห้องแอร์’ มานั่งทำงานเชิงยุทธศาสตร์อย่างเดียว
เช่นเดียวกับโควตา รมว.กลาโหม คนใหม่ ที่บางแหล่งว่ากันว่าจะให้ ‘นายกฯ’ นั่งควบ รมว.กลาโหม แต่ทว่ากระแสข่าวมาแรงล่าสุดคือต้องการชงให้ ‘ทหาร’ เข้าไปกำกับดูแลกันเองมากกว่า เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ลดรอยร้าวจาก ‘คลิปเสียง’ ของนายกฯแพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน
ภาพ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แพทองธาร ชินวัตร จาก www.innnews.co.th
ขณะนี้มี 3 ชื่อที่มาแรงคือ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม คนปัจจุบันน้องรักและเป็นโควตาส่วนตัวของ ‘ลุง ต.’ กับ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีต ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ตท.21 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ ‘ทวี สอดส่อง’ รมว.ยุติธรรม และ ‘น้องเลิฟ’ ของ ‘บิ๊กทหารชื่อดังในอดีต’ และสุดท้ายคือ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งน่าจะเบียดสู้กันอย่างสูสี ต้องรอดูในโผไฟนอลก่อนทูลเกล้าฯอีกครั้ง
โดย พล.อ.สุนัย ก่อนหน้านี้ในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมา เขาลงสมัครชิงนายก อบจ.ลพบุรี ภายใต้สีเสื้อพรรคเพื่อไทย ผ่านการสนับสนุนของ ‘สุชาติ ลายน้ำเงิน’ สส.ลพบุรี หลายสมัย แม้ว่าจะพ่ายแพ้ แต่ก็ได้คะแนนเสียงมาจำนวนหนึ่ง ขณะที่ล่าสุดปรากฏภาพ ‘บิ๊กสุนัย’ เดินทางลงพื้นที่ไปกับเพื่อน ตท.21 อย่าง ‘ทวี สอดส่อง’ ด้วย
อีกด้านหนึ่งศึกในพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระหว่าง ‘ก๊วนลุงพี-ขิง’ ที่มี สส.ในมือ 18 คน รบกับ ‘กลุ่ม 18’ ของ ‘สปอนเซอร์ใหญ่’ ที่เชิด ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ มานำมี สส. 18 คนเช่นกัน ยังคงบาดหมางร้าวลึกแบบผีไม่เผาเงาไม่เหยียบ โดยล่าสุด ‘กลุ่ม 18’ ออกมาจี้นายกฯจัดสรรโควตาเก้าอี้ ครม.สัดส่วน รทสช.ใหม่ เพราะมองว่า ‘ก๊วนลุงพี-ขิง’ ที่สบช่องยื่นหนังสือจี้นายกฯลาออกปมคลิปเสียงฉาว กลับได้ 2 รัฐมนตรีว่าการ แต่ ‘กลุ่ม 18’ ซึ่งยืนหยัดอยู่กับนายกฯ กลับได้เพียง 1 รัฐมนตรีว่าการ และ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ เท่านั้น
อย่างไรก็ดีโผล่าสุดว่ากันว่า อาจไม่มีการปรับโควตาใหม่ของ รทสช. และยืนยันแบ่งโควตาตามเดิม เพราะ ‘พีระพันธุ์’ มีสัญญาใจ และเป็นคนคอยเชื่อม ‘สัญญาณพิเศษ’ บางอย่างให้กับ ‘ฝ่ายรัฐบาล’ ในการเดินหน้าทางการเมือง และขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ
@ โผ ครม.ล่าสุด
สำหรับ โผ ครม.ล่าสุดมีดังนี้
1.โควตาพรรคเพื่อไทย
ภูมิธรรม เวชยชัย เป็นรองนายกฯ ควบ รมว.มหาดไทย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.มหาดไทย (มท.2) ส่วนโผกระทรวงกลาโหม ยังต้องลุ้นกันในโค้งสุดท้ายถึง 3 คนคือ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ และ พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม
@ ภูมิธรรม เวชยชัย
ขณะที่โควตาที่ยังไม่ไฟนอล เช่น ประเสริฐจันทรรวงทอง มีทางเลือก 2 กระทรวงคือ รมว.ดีอีเอส เดิม หรือไม่ก็ รมว.แรงงาน ส่วน จักรพงษ์ แสงมณี มี 2 ทางเลือกเช่นกันคือ รมว.ดีอีเอส ไม่ก็ รมต.ประจำสำนักนายกฯ
ส่วนกระทรวงศึกษาธิการ น่าจับตาเป็นอย่างมากเพราะปรากฏชื่อของ ‘ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์’ ลูกชาย ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ มานั่งเก้าอี้ รมว.ศึกษาธิการ ค่อนข้างแน่นอนแล้ว
2.โควตาพรรค รทสช.แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
‘กลุ่มลุงพี-ขิง’ ยังโควตาเก้าอี้เดิมคือ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ ควบ รมว.พลังงาน และ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม
‘กลุ่ม 18’ ส่ง ‘ปลัดตุ๋ม’ จตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ถือเป็น ‘สายตรง’ ของ ‘สปอนเซอร์’ มานั่งเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ ส่วนอีก 1 คนคือ ‘สุชาติ ชมกลิ่น’ ต้องรอดูการเกลี่ยเก้าอี้อีกครั้งว่า เขาจะได้นั่ง รมช.พาณิชย์ หรือได้รับการขยับนั่ง รมว.แรงงาน
3.โควตาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ได้เก้าอี้เพิ่มมาอีก 1 รมช. ทำให้มีเก้าอี้ 1 รมว. และ 2 รมช. โดยคาดกันว่า ‘เฉลิมชัย ศรีอ่อน’ จะเป็นรัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง แต่ยังไม่เคาะว่านั่งกระทรวงเดิม หรือโยกกระทรวงใหม่ ส่วน 2 รมช.จะแบ่งเป็น ‘มือซ้าย-มือขวา’ ของเขา คือ ‘เดชอิศม์ ขาวทอง’ จากเดิม รมช.สาธารณสุข จะโยกไปนั่ง รมช.มหาดไทย (มท.3) และดัน ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ มานั่ง รมช.สาธารณสุข แทน
4.โควตาพรรคกล้าธรรม
คาดว่าจะชง อรรถกร ศิริลัทธยากร มือไม้คนใกล้ชิด ‘ผู้กอง’ เข้าไปนั่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับโยก นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ไปนั่ง รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ส่วน ‘อนุดิษฐ์ นาครทรรพ’ ที่เพิ่งย้ายมาซบกับพรรคนั้น คาดว่าจะนั่ง รมช.ศึกษาธิการ
5.โควตาอื่น ๆ
ในโผ ครม.ล่าสุดยังมีชื่อของ ‘ฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์’ ลูกชาย ‘ฐากร ตัณฑสิทธิ์’ อดีตแกนนำพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) โดยคาดว่าอาจได้นั่งเก้าอี้ รมช.ศึกษาธิการ แต่ขณะนี้ยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมีบางแหล่งระบุว่า อาจเอา ‘อนุดิษฐ์ นาครทรรพ’ นั่งเก้าอี้ตัวนี้แทน
@ลูกชาย ‘เจ๊แดง’ ผงาด รมต. จับตาคุมทัพ ‘ชินวัตรรุ่น 4’
แน่นอนว่าชื่อที่ได้รับจับตามากที่สุดใน ครม.แพทองธาร 1/2 ครั้งนี้หนีไม่พ้น ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่ามานั่ง รมว.ศึกษาธิการ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำกลุ่มวังบัวบาน น้องสาว ‘ทักษิณ ชินวัตร’ สทร.แห่งก๊กแดง กับสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ
โดยบทบาทของ ยศชนัน ที่ผ่านมา คลุกคลีอยู่ในแวดวงวิชาการ เขาจบปริญญาโทด้านวิศวกรรมไฟฟ้า จบปริญญาเอกด้านคลื่นสมอง ทำดุษฎีนิพนธ์เรื่องการใช้สัญญาณสมองมาช่วยเหลือผู้พิการ เคยเป็นอาจารย์ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชา Biomedical Engineer มหาวิทยาลัยมหิดล
@ ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์
ทั้งนี้ในปี 2561 ว่ากันว่า ‘ยศชนัน’ เคยถูกวางตัวให้มานำทัพพรรคเพื่อไทยมาแล้ว แต่ด้วยกติการัฐธรรมนูญ และกลไกทางการเมืองขณะนั้นไม่เอื้ออำนวย ทำให้ ‘นายใหญ่’ ตัดสินใจใช้แผน ‘แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อย’ แทน แต่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ และแผนดัน ‘ยศชนัน’ ก็ถูกพับไป ต่อมาในการเลือกตั้งปี 2566 ก็มาดัน ‘แพทองธาร’ ลูกสาวแท้ ๆ แทน เพราะมีอายุเกิน 35 ปี สามารถนั่งเก้าอี้นายกฯได้แล้ว
ทว่าด้วยมรสุมทางการเมือง และวิกฤติศรัทธาจากประชาชนกับ ‘แพทองธาร’ อาจทำให้รัฐบาลอายุสั้นกว่าที่คิด ดังนั้น ‘ก๊กแดง’ จำเป็นต้องเตรียมแผนใหม่ พร้อมกับเฟ้นหา ‘แม่ทัพคนใหม่’ เพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งถัดไป หากจะยังใช้ ‘ลูกสาว’ ตัวเอง ซึ่งบอบช้ำทางการเมืองไปมากแล้ว อาจเพลี้ยงพล้ำทางการเมืองได้ นั่นจึงทำให้ชื่อ ‘ยศชนัน’ ถูกนำเสนอให้มานำทัพ ‘ชินวัตร’ อีกครั้ง
@ฝ่ายค้านแบ่ง 2 ขั้ว เดินเกมหน้าฉาก-ใต้ดินรบรัฐบาล
ฝ่ายค้านปัจจุบันก็ไร้เอกภาพไม่แตกต่างจากฝ่ายรัฐบาล เพราะพรรคประชาชนประกาศจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่รวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลแข่ง และไม่เข้าไปเป็นฝ่ายบริหารภายใต้รัฐบาลชุดนี้ นั่นจึงทำให้เส้นการทำงานของพรรคประชาชน และพรรคภูมิใจไทย ฝ่ายค้านน้องใหม่ ถูกขีดแบ่งกันอย่างชัดเจน
พรรคประชาชน ยังยันจุดยืนเรื่องการไม่ใช้ ‘นิติสงคราม’ เล่นงานรัฐบาล โดยจะร้องเรียนเฉพาะกรณีการส่อทุจริตเท่านั้น เช่น กรณีตั๋ว PN และกรณีโรงแรมเทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่ ของนายกฯ ที่ร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่จะไม่มีการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ถอดถอนนายกฯ หรือยุบพรรคเพื่อไทย
แตกต่างกับ ‘ภูมิใจไทย’ ที่เป็นอดีตนักเลือกตั้งประเภท ‘เขี้ยวลากดิน’ เมื่อถูกอัปเปหิพ้นรัฐบาลอย่างนี้ แน่นอนว่า เครือข่ายองคาพยพ ‘สีน้ำเงิน’ ย่อมไม่อยู่เฉย เบื้องต้นบรรดา สว.สีน้ำเงิน ยื่นร้อง ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญ สอยเก้าอี้ ‘นายกฯ’ แล้ว โดย ป.ป.ช.ได้รับเรื่องไว้ไต่สวนเบื้องต้นไว้เรียบร้อย ขณะที่ 1 ก.ค.นี้ ต้องจับตาในการประชุมศาลรัฐธรรมนูญว่า จะมีคำสั่งอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่
@ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวในการปรับ ครม.แพทองธาร 1/2 ครั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ร้อนแรงทั้ง ทั้งสถานการณ์โลกที่ผันผวน สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังตึงเครียด ร
วมถึงสถานการณ์การเมืองที่ยังไม่นิ่ง ต้องจับตาว่า ‘แพทองธาร’ จะนำมารัฐนาวาลำนี้ไปได้อีกไกลจนครบเทอม
หรือว่าจะมีเหตุต้อง ‘ยุบสภาฯ’ ในอีกไม่นานนี้?