
ป.ป.ช.บุรีรัมย์ เผยแพร่คำพิพากษาศาลฎีกาฯ คดี 'พุทธชาติ ศรีสุริยันโยธิน' อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินฯ เป็นเท็จ ปกปิดไม่แสดงรายการเงินลงทุน 7 แห่ง สั่งลงโทษจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี ปรับ 8,000 บาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เผยแพร่ข่าวคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีกล่าวหานางพุทธชาติ ศรีสุริยันโยธิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง โดยมิได้แสดงรายการเงินลงทุน จำนวน 7 แห่ง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น
ให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี และปรับ 8,000 บาท ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไป
สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดในกรณีจงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สิน ราย นางพุทธชาติ ศรีสุริยันโยธิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่ามีการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2555 และกรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2562 โดยมิได้แสดงรายการเงินลงทุน จำนวน 7 แห่ง ซึ่งเป็นทรัพย์สินที่อยู่ในความครอบครองของบุคคลอื่น
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้มีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 เป็นคดีหมายเลขแดงที่ อม.26/2568 พิพากษาว่า นางพุทธชาติ ศรีสุริยันโยธิน จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นความเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 114 วรรคสอง (1)
ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง นับแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นวันหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมาย ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหาตลอดไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ประกอบมาตรา 114 วรรคสาม กับมีความผิดตามมาตรา 167 จำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท
ไม่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
โทษจำคุกจึงให้รอ การลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา