
ป.ป.ช เผยความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เอื้อประโยชน์ให้นักโทษต่างชาติบางราย กระทรวงยุติธรรมอยู่ระหว่างสอบวินัย-DSI ส่งสำนวนมาแล้ว-อยู่ระหว่างนำเรียนรักษาการเลขาฯ ป.ป.ช.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 ที่กระทรวงยุติธรรม นายพัฒนพงศ์ จันทร์เพ็ชรพูล ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รับมอบหมายจากนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รักษาการเลขาธิการป.ป.ช. เป็นผู้แทนเข้าพบนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เพื่อหารือในประเด็น การติดตามความคืบหน้ากรณีการกระทำความผิดในการเอื้อประโยชน์ให้กับนักโทษชาวต่างชาติบางรายเป็นกรณีพิเศษ ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (คดีคุก VIP) ที่มีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์เกี่ยวข้อง ประเด็นการประสานความร่วมมือในการนำมาตรการ Whistle Blower (การคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส) และการร่วมมือในการนำกฎหมาย Anti-Slapp Law ป้องกันการฟ้องปิดปากมาใช้บังคับ และหารือแนวทางการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพ
ภายหลังการหารือเสร็จสิ้น นายพัฒนพงศ์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
นายพัฒนพงศ์ กล่าวว่า ประเด็นคุก VIP ปรากฏว่าทางกระทรวงยุติธรรมได้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างสอบวินัย แต่ยังดำเนินการไม่เสร็จ เมื่อสอบวินัยเสร็จ ป.ป.ช. ก็จะขอให้ส่งสำนวนมาเพื่อใช้ประกอบการพิจารณา ในส่วนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ป.ป.ช. ก็ได้รับสำนวนแล้วเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ระหว่างนำเรียนรักษาการเลขาธิการ ป.ป.ช. และหลังจากนี้ขั้นตอนต่อไปของ ป.ป.ช. คือ การนำเสนอต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าจะรับเรื่องไว้ไต่สวนต่อเอง หรือจะส่งให้ DSI สอบสวน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเชิญหญิงชาวต่างชาติมาเป็นพยานหรือไม่ และมีอำนาจเชิญชาวต่างชาติมาหรือไม่
นายพัฒนพงศ์ ตอบว่า ต้องเชิญ ต้องหาตัวตน เพราะเป็นพยานหลักฐานสำคัญ แต่ก็ต้องดูว่าเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่ ถ้าเป็นผู้สนับสนุนก็จะเป็นผู้ถูกกล่าวหาด้วย พอเป็นผู้ถูกกล่าวหาก็ต้องเชิญมาไต่สวน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ ป.ป.ช. ก็มีอำนาจเชิญมาได้ ส่วนหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยังไม่มีการรายงานผลว่าเป็นอย่างไร แต่ถ้ารายงานกลับมาที่กระทรวงบุติธรรม ถ้าป.ป.ช.รับเรื่องไว้ไต่สวนก็จะมาขอข้อมูลไปใช้ประกอบการพิจารณา

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา