ผู้คนจากทั่วสารทิศร่วมบริจาคช่วยเหลือ "คุณยายแมะเอียด" วัย 63 ปีจาก อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี หลังสื่อหลายแขนงตีแผ่ชีวิตสุดรันทด ต้องแบกรับภาระเลี้ยงลูกที่ป่วยเป็นโรคแขนขาอ่อนแรง และหลานชายวัยกำลังเรียน ทั้งๆ ที่ครอบครัวมีฐานะยากจน กระท่อมที่อยู่ก็ผุพัง ทั้งบ้านมีเงินแค่ 3 บาท หลานไปโรงเรียนก็ไม่มีเงินให้ไป
กระท่อมหลังเล็กและผุพังใน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ของยายแมะเอียด สะนิ วัย 63 ปี แทบไม่มีสภาพของการเป็นที่อยู่อาศัยหลงเหลืออยู่เลย...
"ฉันตั้งชื่อลูกไว้แล้วว่า ด.ช.อิรฟาน ทิพยอและ ขอขอบคุณทุกคน ขอบคุณคนไทยที่ไม่ทิ้งกัน"
ภาพเด็กๆ และวัยรุ่นมุสลิมที่ชายแดนใต้พร้อมใจกัน "ชูสามนิ้ว" ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ไม่ใช่สัญลักษณ์ของการขับไล่เผด็จการ หรือปกป้องสถาบันหลักของชาติ เหมือนที่กลุ่มเยาวชนปลดแอก และอาชีวะช่วยชาติ ใช้เป็นสัญลักษณ์ระดมมวลชนของกลุ่มพวกตน
วันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา หรือ "วันรายอฮัจยี" ของพี่น้องมุสลิมในปีนี้ หรือปีฮิจเราะห์ศักราช 1441 ตรงกับวันศุกร์ที่ 31 ก.ค.2563
"ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่คิดว่าเราเป็นคนวางระเบิดหรือเปล่า ถึงไม่มีใครมาเยี่ยมเรา ไม่มาถามเหตุการณ์อะไรเลย เราอยากได้กำลังใจ พ่อแม่เราก็ตายแล้ว เราไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ไม่รู้จะคุยกับใครนอกจากคนในบ้านซึ่งเป็นเด็กๆ ทั้งหมด ผู้นำในพื้นที่ก็ไม่มีใครมาสักคน"
ท่ามกลางสถานกาณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง เพราะมีการลอบวางระเบิด 2 วันซ้อนใน 2 อำเภอของปัตตานี อีกด้านหนึ่งก็มีปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ไล่ติดตามจับกุมบุคคลต้องสงสัยและทลายแหล่งกบดานของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ในกระแสที่ชาติตะวันตกโดยเฉพาะอังกฤษรณรงค์ให้แบนสินค้าไทยที่ผลิตจากมะพร้าว โดยอ้างเหตุผลว่าใช้แรงงานลิง ซึ่งเข้าข่ายเป็นการทรมานสัตว์นั้น
เปิดฉากเดือน ก.ค.63 ฝ่ายต้านและฝ่ายสนับสนุนโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ในฐานะ "เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต" เปิดหน้าชนกันชัดเจนขึ้น โดยปักหมุดเคลื่อนไหวในส่วนกลาง ทั้งที่อาคารรัฐสภาและทำเนียบรัฐบาล เพื่อหวังเรียกความสนใจจากคนไทยทั้งประเทศ
กรมอุทยานแห่งชาติฯ สั่งย้ายผู้อำนวยการส่วนฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่อนุรักษ์ฯ ที่ถูกกล่าวหารีดเงินลูกจ้างทีโออาร์รายละ 1,000-3,000 บาททุกเดือน เปิดทางสอบสวนเอาผิดโดยคณะกรรมการ 2 ชุด