แฉคนร้ายซุกระเบิดฝ้าใต้หลังคาศาลาปฏิบัติธรรมบ้านจุฬาภรณ์ 5 อ.ระแงะ นราธิวาส ยอดทหารพรานบาดเจ็บพุ่งเป็น 7 นาย ล่าสุดสิ้นใจแล้ว 1 เผยถูกดักโจมตีขณะออกปฏิบัติหน้าที่ รปภ.การประชุมงานป่าไม้ที่ อบต.บองอ ซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดภายในศาลาศูนย์ปฎิบัติธรรมบ้านจุฬาภรณ์ 5 หมู่ 9 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4511 (ร้อย ทพ.4511) ได้รับบาดเจ็บหลายนาย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีที่ 23 ม.ค.68 นั้น
ล่าสุดมีรายงานจำนวนเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บ เพิ่มเป็น 7 นาย โดยหลังเกิดเหตุ ทั้งหมดได้ถูกส่งตัวไปปฐมพยาบาลและรักษาที่โรงพยาบาลระแงะ โดยมีเจ้าหน้าที่ 3 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส มีการประสานขอเฮลิคอปเตอร์เพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (โรงพยาบาล ม.อ.หาดใหญ่) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประกอบด้วย
1. อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) บุญชู นาคพัน อายุ 31 ปี ต่อมามีรายงานว่า อส.ทพ.บุญชู ได้เสียชีวิตลง เนื่องจากเสียเลือดมาก โดย อส.ทพ.รายนี้เป็นคนในพื้นที่ มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 6 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา
2. อส.ทพ.มะรือซู มะดีเย๊าะ อายุ 30 ปี
3. อส.ทพ.ศรนรินทร์ นันทจันทร์ อายุ 26 ปี
ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บที่เหลือ 4 นาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส ประกอบด้วย
1. จ.ส.อ.ครรชิต เสนาะกรรณ อายุ 43 ปี โดนสะเก็ดระเบิด มีแผลที่หัวไหล่ขวา, ใต้เข่าขวา, แน่นหน้าอก, หูอื้อ
2. อส.ทพ.ซาฮารี ยูเปาะนะ อายุ 34 ปี โดนสะเก็ดระเบิดมีแผลที่แก้มซ้ายและแขนซ้าย, แน่นหน้าอก, หูอื้อ
3. อส.ทพ.อดิศักดิ์ หนูเนตร อายุ 38 ปี มีอาการแน่นหน้าอก หูอื้อ
4. อส.ทพ.อัมมัร ดือราโพ อายุ 29 ปี มีอาการแน่นหน้าอก, หูอื้อ
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4511 ซึ่งมี จ.ส.ต.ครรชิต เป็นหัวหน้าชุด พร้อมกำลังพลรวม 7 นาย ใช้รถยนต์หุ้มเกราะเป็นพาหนะ เดินทางไปวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยการประชุมงานป่าไม้ ณ ที่ทำการขององค์การบริหารส่วนตำบลบองอ (อบต.บองอ)
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังจอดรถยนต์ บริเวณหน้าศาลาศูนย์ปฎิบัติธรรมบ้านจุฬาภรณ์ 5 เพื่อแบ่งภารกิจและหน้าที่ ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในละแวกดังกล่าว ได้ทำการจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ซุกซ่อนเอาไว้บนฝ้าเพดานใต้หลังคา บริเวณฝั่งขวาของบันไดทางขึ้นศาลา จนเกิดระเบิดขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังเกิดเหตุ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องงดการเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเส้นทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่ อบต.บองอ เป็นพื้นที่เปลี่ยว และเป็นเส้นทางบังคับทางเดียว เกรงว่าคนร้ายจะวางแผนลวงเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่ซ้ำ โดยให้ทำการปิดกั้นการจราจร และส่งทหารเข้าไปเคลียร์พื้นที่ให้แน่ใจว่าปลอดภัยก่อน จึงจะเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น (24 ม.ค.)
สาเหตุในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงซึ่งเคลื่อนไหวก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ เพื่อหวังก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบรายวัน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นเป้าหมาย