คนร้ายลอบวางระเบิดเพิงพักข้างบ้านร้างริมทาง พื้นที่บาเจาะ นราธิวาส ทหารพรานนาวิกโยธินเดินลาดตระเวนผ่าน รับเคราะห์ ตูมสนั่น บาดเจ็บสาหัส 1 นาย ส่วนที่ปัตตานี ยิงผู้หญิงทุ่งยางแดง ดับ 1 เจ็บ 2 สงสัยโยงมารดาเป็นลูกจ้างรัฐ 4,500 หรือไม่
สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีเหตุรุนแรงประทุษร้ายต่อเจ้าหน้าที่ ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์แบบรายวัน
โดยเมื่อเวลา 08.10 น. วันจันทร์ที่ 16 มิ.ย.68 พ.ต.อ.วิสันต์ รักมาก ผู้กำกับการ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 บริเวณบ้านยามูแรแน หมู่ 4 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินได้รับบาดเจ็บ จึงประสานนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านร้างชั้นเดียว ตั้งอยู่บริเวณที่ลุ่มใกล้คอสะพาน โดยสภาพบ้านร้างหลังดังกล่าว มีร่องรอยการต่อเติมฝาผนังด้านขวามือออกมาเป็นเพิงพัก ตรงจุดนี้พบหลุมระเบิดกลางเพิงพัก ลึก 60 เซนติเมตร กว้าง 1 เมตร และมีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ล้มตะแคงอยู่ โดยมีซากปรักหักพังของเพิงพักที่ต่อเติมเอาไว้ แต่พังเพราะแรงระเบิดล้มทับอยู่ด้านบนตัวรถจักรยานยนต์
นอกจากนั้น บริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในกล่องเหล็ก น้ำหนัก 5 กิโลกรัม กระจายเกลื่อน แต่ไม่พบตัวจุดชนวน
ส่วนที่บริเวณแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้านร้าง พบกองเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.)พันธกาน อินทะเขื่อน ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณใบหน้า แขนทั้ง 2 ข้าง และลำตัว อาการสาหัส เพื่อนทหารนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลบาเจาะ แพทย์ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ จำนวน 9 นาย เดินออกจากฐานที่ตั้ง บ้านอีโย๊ะ หมู่ 5 ต.บาเระเหนือ อ.บาเจาะ เพื่อปฏิบัติภารกิจเดินลาดตระเวนเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาความปลอดภัยให้คณะครูโรงเรียนต่างๆ ที่ใช้เส้นทางดังกล่าว เดินทางไปสอนหนังสือ เมื่อชุดทหารพรานเดินลาดตระเวนถึงจุดเกิดเหตุ อส.ทพ.พันธกาน ได้เดินลงไปสำรวจบริเวณเพิงพักที่ต่อเติมออกจากบ้านพักร้าง และมีรถจักรยานยนต์จอดอยู่ 1 คัน ทำให้รู้สึกน่าสงสัย จังหวะนั้นเอง คนร้ายที่ซุ่มดูอยู่ จึงกดจุดชนวนระเบิดที่นำมาซุกซ่อนไว้บริเวณเพิงพัก จนเกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้เพิงพักได้รับความเสียหาย และ อส.ทพ.พันธกาน ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เป็นการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบด้วยการลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่รายวัน
@@ ยิงหญิงชาวบ้านดับต่อหน้าลูก ขณะรอส่งขึ้นรถโรงเรียน
อีกเหตุการณ์หนึ่ง น่าสลดอย่างยิ่ง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 08.00 น.วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ทราบว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายจากการลอบยิงของคนร้าย 2 ราย พลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุดแล้ว ทราบชื่อคือ
1. น.ส.อาซูรา หะยีปูเต๊ะ อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าที่ขา
2. น.ส.นูรีซัน ดอเลาะ อายุ 30 ปี ถูกยิงที่แผ่นหลัง อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยจากบาดแผลของ น.ส.นูรีซัน คาดว่าเธอน่าจะถูกยิงจากด้านหลัง
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ไม่พบปลอกกระสุนปืน คาดว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 ทำให้ไม่มีปลอกกระสุนตกอยู่
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่ น.ส.นูรีซัน ดอเลาะ กำลังส่งลูกขึ้นรถโรงเรียน โดยรอรถอยู่บริเวณหน้าบ้าน และยืนคุยอยู่กับ น.ส.อาซูรา เพื่อนบ้าน โดยมีลูกสาวยืนอยู่ข้างๆ ปรากฏว่ามีคนร้ายจำนวน 2 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขับตรงเข้ามาหา แล้วคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าไปที่แผงหลังของ น.ส.นูรีซัน 1 นัดต่อหน้าลูกสาว ทำให้ น.ส.นูรีซัน ทรุดลงกับพื้น ก่อนที่คนร้ายจะยิงใส่อีก 1 นัด แต่กระสุนปืนพลาดไปถูกขาของ น.ส.อาซูรา จนได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุ คนร้ายจึงรีบขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้วิทยุด่วนแจ้งจุดตรวจจุดสกัดทุกจุดในพื้นที่ใกล้เคียง ให้เร่งสกัดจับและติดตามตัวคนร้ายทันที พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ส่วนสาเหตุของการลอบยิง เจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปแน่ชัด โดยยังไม่ฟันธงว่าเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ
โดยขณะนี้พบความเชื่อมโยงเดียวในประเด็นความมั่นคง คือ มารดาของ น.ส.นูรีซัน เป็นลูกจ้างในโครงการจ้างงานเร่งด่วน 4,500 บาท ซึ่งเป็นโครงการของรัฐ แต่แม่ของ น.ส.นูรีซัน ก็เสียชีวิตไปนานแล้ว และตัว น.ส.นูรีซัน เอง ก็ไม่ได้เป็นลูกจ้างโครงการรัฐ จึงยังไม่แน่ชัดว่าเป็นประเด็นความมั่นคงหรือไม่