
เปิดผลตรวจปลอกกระสุนเหตุยิงถล่ม ชคต.เกียร์ สุคิริน มากถึงกว่า 700 ปลอก ถูกยิงจากอาวุธปืน 24 กระบอก เป็นปืนเวียนของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ใช้ก่อเหตุในนราธิวาส ปัตตานีมาแล้ว 101 คดี ส่วนรถยนต์เก๋งถูกเผาวอดที่รือเสาะ เชื่อมโยงเครือข่ายแก๊งบึ้ม 3 จังหวัดอันดามัน
ความคืบหน้าเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายจำนวนหลายสิบคน พร้อมอาวุธปืนครบมือ และระเบิดไปป์บอมบ์ ซึ่งข่าวบางกระแสระบุว่ามีถึง 50 คน บุกโจมตีฐานปฎิบัติการชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ (ชคต.เกียร์) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านไอยามู หมู่ 2 ต.มาโมง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 2 นาย คือ จ.ส.อ.อภิสิทธิ์ ศรีอนุรักษ์ และ อส.แวฮัมรัน แวสาเมาะ
เหตุการณ์ดังกล่าวถูกพูดถึงอย่างมาก เพราะกลุ่มคนร้ายระดมกำลังกันเข้าตีฐาน ชคต. เหมือนกำลังทดสอบปฏิบัติการอะไรบางอย่าง เนื่องจากเป็นการรวมพลครั้งใหญ่ และใช้อาวุธ กระสุน รวมถึงวัตถุระเบิดแสวงเครื่องแบบไม่อั้น
ล่าสุดมีรายงานผลการตรวจพิสูจน์ปลอกกระสุนปืนที่คนร้ายใช้ยิงจากอาวุธปืนถล่มฐาน ชคต. พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 702 ปลอก โดยใช้ก่อคดีหมุนเวียนมาแล้วทั้งสิ้น 101 คดี ในพื้นที่ 9 อำเภอของจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นราธิวาส 8 อำเภอ คือ อ.ยี่งอ อ.ระแงะ อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร อ.รือเสาะ อ.จะแนะ อ.ตากใบ และ อ.สุไหงปาดี ขณะที่ จ.ปัตตานี 1 อำเภอคือ อ.ยะรัง
โดยพบว่าปลอกกระสุนปืนทั้งหมดยิงมาจากอาวุธปืนจำนวน 24 กระบอก ตามรายละเอียดดังนี้
1.ปลอกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม.นาโต้ จำนวน 201 ปลอก จากอาวุธปืน 1 กระบอก ซึ่งพบเคยใช้ก่อคดีมาแล้ว 14 คดี
2.ปลอกกระสุนปืนขนาด 7.62 มม. RUSSIAN จำนวน 15 ปลอก จากอาวุธปืน 1 กระบอก ซึ่งพบเคยใช้ก่อคดีมาแล้ว 4 คดี
3.ปลอกกระสุนปืนเล็กกล ขนาด 5.56 มม. จำนวน 400 ปลอก จากอาวุธปืน HK33, AK33, AK102 และ M16 รวม 19 กระบอก ซึ่งพบเคยใช้ก่อคดีมาแล้วรวมทั้งหมด 76 คดี
4.ปลอกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 70 ปลอก อาวุธปืน 3 กระบอก พบเคยใช้ก่อคดีมาแล้ว 7 คดี
5.ปลอกกระสุนปืนพก ขนาด 9 มม. ซึ่งยังไม่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ รวมทั้งสายส่งกระสุนปืนแบบ M13 ใช้กระสุน 7.62 มม. จำนวน 115 อัน
@@ ปืนเวียนยิง จนท. - ประชาชนไม่เลือกศาสนา
จากคดีทั้งสิ้น 101 คดีที่คนร้ายใช้อาวุธเหล่านี้ก่อเหตุนั้น ส่วนใหญ่พบว่าเป็นการก่อคดีในลักษณะยิงถล่มฐานปฏิบัติการ, ยิงจุดตรวจ, ยิงเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และ อส. ตลอดจนยิงชาวบ้านทั้งไทยพุทธและมุสลิม รวมทั้งยิงถล่มซ้ำเจ้าหน้าที่ หลังจากก่อเหตุลอบวางระเบิด
โดยกลุ่มคนร้ายจะใช้อาวุธปืนเหล่านี้หมุนเวียนก่อเหตุในพื้นที่เป้าหมาย ตามที่ประชุมวางแผนและล็อกเป้าเอาไว้ เมื่อก่อเหตุเสร็จแล้ว จะมีการนำอาวุธปืนไปซุกซ่อนในพื้นที่อำเภอที่ก่อเหตุ โดยมีสมาชิกแนวร่วมอีกกลุ่มหนึ่งเป็นผู้มานำอาวุธปืนไปซุกซ่อน เพื่อนำไปใช้ก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป เป็นลักษณะการใช้อาวุธปืนหมุนเวียน
@@ เผาเก๋งแบล็กลิสต์คาร์บอมบ์โยงเครือข่ายแก๊งบึ้มอันดามัน

ส่วนความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงเผารถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีเทา ป้ายทะเบียน 1 กอ 397 กรุงเทพมหานคร จนได้รับความเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดบนถนนใกล้สะพานบาลอ หมู่ 5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค.68 ที่ผ่านมานั้น
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ล่าสุดพบว่า รถยนต์คันดังกล่าวไม่ได้มีการขูดลบหมายเลขเครื่องหรือตัวถังแต่อย่างใด ส่วนที่ประเมินในเบื้องต้นว่า คนร้ายมุ่งเป้าทำลายหลักฐาน หลังรถยนต์คันดังกล่าวอยู่ในแบล็กลิสต์เฝ้าระวัง “คาร์บอมบ์” ซึ่งหากจอดไว้ที่บ้านผู้ใด ก็กลัวว่าหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบแล้วจะมีความผิดนั้น
ล่าสุดแหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงแจ้งว่า รถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไม่สามารถตรวจสอบการแจ้งหายได้ว่าหายจากพื้นที่ใด และอยู่นอกระบบของกรมการขนส่งทางบก แต่ทราบว่ารถยนต์คันนี้อยู่ในแบล็กลิสต์เฝ้าระวัง เนื่องจากการขยายผลการซักถามของบุคคลที่ร่วมก่อเหตุและมีส่วนพัวพันการกับลอบวางระเบิดที่สนามบินภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมส่งศูนย์ซักถาม ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.)
โดยบุคคลที่ร่วมก่อเหตุ ให้การว่า มีรถยนต์เก๋งคันนี้ที่คนร้ายเตรียมใช้ประกอบคาร์บอมบ์เพื่อก่อเหตุในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา หรือไม่ก็ในพื้นที่ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นเขตติดต่อกัน
แต่หลังเจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลและเร่งสืบสวนหาข่าวเบาะแสเกี่ยวกับรถยนต์คันนี้ จนทราบว่ามีผู้พบเห็นรถยนต์วิ่งอยู่ในพื้นที่ อ.ศรีสาคร ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ อ.รือเสาะ อีกที แล้ววันต่อมาก็พบรถคันดังกล่าวถูกวางเพลิงเผาทิ้งบนถนน
