
“อาหารไทย” คือ ซอฟต์พาวเวอร์ที่ทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะการส่งต่อวัฒนธรรมการกินและรสชาติอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ และมีอัตลักษณ์ ไม่เว้นแม้แต่ในดินแดนที่มีภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมแตกต่าง…อย่างมาเลเซีย
นี่คือภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า การขับเคลื่อน “ซอฟต์พาวเวอร์” ด้านนี้ ไม่มีพรมแดน และเป็นโอกาสสำหรับคนไทย
เมื่อเร็วๆนี้ ทีมงานจาก กองประสานและเร่งรัดการพัฒนาพื้นที่พิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำโดย อภินันต์ หนูพรหม ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและเร่งรัดการพัฒนา ได้เดินทางลงพื้นที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อเยี่ยมเยียนผู้ประกอบการร้านอาหารไทย พร้อมทั้งร่วมสำรวจโอกาสในการส่งเสริมและต่อยอดศักยภาพของธุรกิจอาหารไทยในต่างประเทศ

ภารกิจในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของ “คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ” ที่ขอความร่วมมือจาก ศอ.บต. ในการดำเนินการเชิงรุก สนับสนุนการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลอย่างเป็นระบบและครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับ “ร้านต้มยำกุ้ง” ในประเทศมาเลเซีย และขยายต่อไปยังประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญด้านตลาดอาหารฮาลาลในภูมิภาคอาเซียน
@@ อาหารไทยต้นตำรับ ชูอัตลักษณ์ในมาเลย์

สำหรับการลงพื้นที่ในครั้งนี้ เริ่มต้นที่ร้านอาหารไทย “Thai Smile” และ “Bangkok Station” ซึ่งตั้งอยู่ที่ ปูลัวปีนัง (เมืองเอกของเกาะปีนัง หรือรัฐปีนัง) ประเทศมาเลเซีย ดำเนินกิจการโดย บูรเฮนธ์ สาเมาะ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่จากประเทศไทย
บูรเฮนธ์ สามารถสร้างแบรนด์ร้านอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างงดงาม ด้วยจุดเด่นเรื่องรสชาติอาหารไทยแท้ และการออกแบบร้านที่สวยงามมีสไตล์ สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย ควบคู่กับมาตรฐานฮาลาลอย่างลงตัว

โอกาสนี้ บูรเฮนธ์ สาเมาะ เจ้าของร้าน “Thai Smile” และ “Bangkok Station” ได้บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจในการเปิดร้านอาหารไทยในประเทศมาเลเซียว่า จุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจที่อยากเผยแพร่อัตลักษณ์และเสน่ห์ของอาหารไทยให้ชาวมาเลเซียและนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลอง โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงประเทศไทย แต่สามารถสัมผัสรสชาติแบบต้นตำรับได้ในพื้นที่ใกล้บ้าน
“ผมอยากให้คนมาเลเซียได้รู้จักอาหารไทยในแบบที่แท้จริง ไม่เพี้ยนไปจากรสดั้งเดิม คนที่ไม่เคยไปเมืองไทยก็ยังสามารถเข้าถึงรสชาติและวัฒนธรรมอาหารของเราได้ง่ายขึ้น” บูรเฮนธ์ เผยถึงแนวคิดที่เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจร้านอาหารในปีนัง
@@ ผลพลอยได้ “แรงงานไทย” ทำงานถูกกฎหมาย - ช่วยเกษตรกร

อีกด้านหนึ่ง บูรเฮนธ์ เล็งเห็นถึงบทบาทของธุรกิจร้านอาหารไทยในการผลักดันแรงงานไทยในมาเลเซียให้สามารถทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับการคุ้มครองในสิทธิพื้นฐานต่างๆ อย่างเหมาะสม พร้อมๆ กับการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคการเกษตร ซึ่งใช้เป็นวัตถุดินในร้านอาหารไทยในต่างแดน
“แม้เราจะเปิดร้านในมาเลเซีย แต่วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการปรุงอาหาร เช่น หอมแดง กระเทียม ตะไคร้ สมุนไพร รวมถึงเนื้อไก่สด กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เรานำเข้ามาจากประเทศไทยทั้งหมด เพราะต้องการสนับสนุนเกษตรกรไทยให้มีรายได้จากการส่งออก และเพื่อให้รสชาติอาหารยังคงความเป็นไทยแท้ไว้อย่างครบถ้วน”

“ทางร้านยังคงยึดหลักการปรุงอาหารแบบต้นตำรับ เพื่อให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารรู้สึกเสมือนว่ากำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ที่ประเทศไทย เป็นการส่งต่อประสบการณ์ทางวัฒนธรรมผ่านรสชาติอาหาร พร้อมสร้างความภาคภูมิใจในความเป็นไทยให้คนไทยในต่างแดน และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในสายตาชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง” บูรเฮนธ์ บอก
@@ ชมไม่ขาดปาก...อร่อยมาก ช่วยบอกต่อ!

ด้านมุมมองของลูกค้าชาวมาเลเซีย หนึ่งในผู้ที่มารับประทานอาหารที่ร้าน เผยความรู้สึกว่า ประทับใจรสชาติอาหารไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมนูยอดนิยมอย่าง “ต้มยำกุ้ง” “ปลากะพงนึ่งมะนาว” และ “ข้าวผัดต้มยำ” ซึ่งล้วนแล้วแต่มีรสชาติกลมกล่อม เข้มข้น และถูกปากอย่างยิ่ง
“โดยส่วนตัวชื่นชอบอาหารไทยอยู่แล้ว เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทย มักจะหาร้านอาหารอร่อยๆ เพื่อแวะชิม แต่ตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่มีร้านอาหารไทยรสชาติต้นตำรับมาเปิดอยู่ใกล้ที่ทำงานในมาเลเซีย ทำให้สามารถแวะมาทานได้แทบทุกวัน และได้แนะนำเพื่อนร่วมงานให้มาลองด้วยกัน ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า…อร่อยมาก และรู้สึกเหมือนได้ไปเยือนเมืองไทยผ่านรสชาติอาหารเลย”
@@ ซอฟต์พาวเวอร์ “อาหารไทย” โชว์วัฒนธรรม-ผลักดัน ศก.

ความนิยมของลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวมาเลเซีย สะท้อนให้เห็นว่า อาหารไทยยังคงครองใจผู้บริโภคในระดับนานาชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้าน “Thai Smile” และ “Bangkok Station” ได้นำเสนอในรูปแบบที่ยังคงความเป็นไทยแท้ ทั้งรสชาติ วัตถุดิบ และบรรยากาศร้าน ส่งผลให้ร้านอาหารไทยในต่างแดนไม่เพียงแต่เป็นสถานที่รับประทานอาหาร แต่ยังเป็นพื้นที่ถ่ายทอดวัฒนธรรม และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศได้อีกด้วย
นอกจากนี้ อภินันต์ หนูพรหม ผู้อำนวยการกลุ่มงานประสานและเร่งรัดการพัฒนา ศอ.บต. บอกด้วยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงแค่การเยี่ยมผู้ประกอบการเท่านั้น แต่ยังเป็นการรับฟังปัญหา เสนอแนะแนวทาง และวางรากฐานความร่วมมือในอนาคต เพื่อให้ธุรกิจของพี่น้องจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ไปประกอบกิจการในต่างแดนสามารถเติบโตอย่างยั่งยืน และมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของพื้นที่บ้านเกิดอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ศอ.บต. มุ่งมั่นในการนำแนวคิด “ซอฟต์พาวเวอร์” มาเชื่อมโยงกับการพัฒนาพื้นที่อย่างสร้างสรรค์ โดยการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านอาหารไทยในต่างประเทศ ถือเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย และเสริมสร้างรายได้กลับสู่ชุมชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
