
เปิดปฏิบัติการสะบ้าย้อย! ที่แท้ปิดล้อมไล่ล่า 2 แกนนำป่วนใต้ “ฮุสนี-กอเซ็ง” ยิงปะทะเดือดกลางป่ายาง แม่ทัพแจงดำเนินการจากเบาไปหาหนัก เจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว แต่กลับเจอยิงสวน ก่อนคนร้ายอาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้ เจอแต่ที่พักชั่วคราว เสบียง และยุทโธปกรณ์
จากกรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมจังหวัดปัตตานี/สงขลา เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ป่ายางพาราบนเนินเขา บ้านห้วยเต่า หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อเวลา 05.30 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.ย.68 จนทำให้มีการยิงปะทะกับกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยภายหลังมีการรายงานว่า ไม่มีความสูญเสียทั้งสองฝ่ายนั้น
ต่อมา “ทีมข่าวอิศรา” ตรวจสอบข้อมูลในรายละเอียดจนทราบว่า ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นครั้งนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มก่อความไม่สงบเข้าไปใช้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสถานที่พักพิงเพื่อเตรียมก่อเหตุรุนแรง เจ้าหน้าที่จึงส่งกำลังเข้าไปพิสูจน์ทราบ
แต่ในระหว่างการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้เผชิญหน้ากับกลุ่มคนร้ายประมาณ 4-5 คน ซึ่งเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน ทำให้เกิดการยิงปะทะกันขึ้น แต่เนื่องจากกลุ่มคนร้ายมีความชำนาญพื้นที่ สามารถอาศัยความชุลมุนหลบหนีขึ้นไปบนเนินเขาที่ปกคลุมไปด้วยป่ารกทึบได้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากตำรวจและกำลังพลจากกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กกล.ทพ.จชต.) เข้าควบคุมพื้นที่โดยรอบ เพื่อสกัดการหลบหนี และดูแลความปลอดภัยของประชาชน
หลังจากเข้าควบคุมพื้นที่แล้ว เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมให้กลุ่มคนร้ายวางอาวุธและเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม แต่การเจรจาไม่เป็นผล กลุ่มคนร้ายยังคงยิงตอบโต้เป็นระยะ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระชับวงล้อมเพื่อจำกัดเสรีการปฏิบัติของกลุ่มคนร้าย แต่กลุ่มคนร้ายก็อาศัยความชำนาญภูมิประเทศ สามารถเล็ดลอดหนีการปิดล้อมไปได้

จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่พักพิงของคนร้ายอย่างละเอียด เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการพักอาศัย, เสบียงอาหาร และอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุรุนแรงจำนวนหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
@@ แม่ทัพภาค 4 แจงใช้ปฏิบัติการจากเบาไปหาหนัก
ด้าน พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวกับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว และได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายตามหลักฐานที่ตรวจพบอย่างโปร่งใส โดยให้ยึดหลัก “จากเบาไปหาหนัก” และ “คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด”

นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวถึงเหตุการณ์รถหุ้มเกราะทางทหาร REVA ที่ประสบอุบัติเหตุตกข้างทางระหว่างเดินทางเข้าพื้นที่ว่า เป็นเหตุสุดวิสัยจากความไม่คุ้นชินเส้นทาง และสภาพภูมิประเทศที่ลาดชัน ซึ่งกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บทุกนายขณะนี้อาการปลอดภัย และอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิด
@@ ล่าตัว 2 แกนนำป่วนใต้มีหมายจับ

สำหรับปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ในครั้งนี้ เป็นการมุ่งเป้าติดตามจับกุม นายฮุสนี ยีกะเส็ม อายุ 34 ปี สมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา) 1 หมาย และ นายกอเซ็ง ลาเตะยามา อายุ 35 ปี สมาชิกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบระดับหัวหน้า มีหมายจับ ป.วิอาญาถึง 7 หมาย
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวในพื้นที่ เปิดเผยว่า การปิดล้อมในครั้งนี้มีมูลเหตุมาจากการขยายผลของปฏิบัติการเมื่อวันที่ 19 ส.ค.68 ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 4302 (ร้อย ทพ.4302) ตรวจพบแหล่งพักพิงลักษณะเป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ป่าสวนยางพารา หมู่ 1 ต.ช้างให้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จำนวน 3 จุด มีร่องรอยของการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ
จากการตรวจพบหลักฐาน ได้นำมาสู่การวิเคราะห์และวางแผนเพื่อเข้าปฏิบัติการปิดล้อมในครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่อาจมีการเคลื่อนไหวข้ามพื้นที่ ระหว่าง จ.ปัตตานี และ 4 อำเภอรอยต่อของ จ.สงขลา (จะนะ เทพา สะบ้าย้อย นาทวี)
