
ผู้แสวงบุญกว่า 40 ราย เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เอาผิดบริษัทลอยแพไปอุมเราะห์ แฉก่อนเดินทางยังเรียกเก็บเงินเพิ่ม อ้างวีซ่าไม่ออก คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 9 ล้านบาท จากผู้เสียหายทั้งหมดกว่า 100 ชีวิต
จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 ต.ค.68 ที่มีกลุ่มผู้แสวงบุญอุมเราะห์กว่า 100 คน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เตรียมออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ เพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์ ที่เมืองมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่กลับไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากถูกบริษัท (แซะห์ : บริษัทที่ให้บริการการทำฮัจญ์และอุมเราะห์) ลอยแพ ทำให้ได้รับความเสียหายทั้งเสียเงิน และกระทบเทือนจิตใจเป็นอย่างมาก
การประกอบพิธีอุมเราะห์ ถือเป็นการประกอบพิธีฮัจญ์เล็ก แม้จะไม่สำคัญเท่าการประกอบพิธีฮัจย์ แต่ก็มีความสำคัญทางจิตใจอย่างมากกับพี่น้องมุสลิมทั่วโลกที่มีทุนทรัพย์น้อย และต้องการไปประกอบพิธีอุมเราะห์สักครั้งในชีวิต
วันอังคารที่ 14 ต.ค.68 กลุ่มผู้เสียหายที่ถูกบริษัทลอยแพในการไปทำอุมเราะห์ รวมตัวกันกว่า 40 คน เดินทางไปที่ สภ.เมืองปัตตานี เพื่อเข้าแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท รุส ฮัจย์ แอนด์ ทราเวล จำกัด ซึ่งอยู่ตั้งหมู่ 1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
ทัั้งนี้ พล.ต.ต.สันทัศน์ เชื้อพุฒตาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี (ผบก.ภ.จว.ปัตตานี) พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผู้กำกับการ สภ.เมืองปัตตานี ได้มาอำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งเก็บรวมรวมพยานหลักฐานต่างๆ ของผู้เสียหาย เพื่อใช้ในการดำเนินคดีกับบริษัทฯต่อไป

บรรยากาศของการเข้าแจ้งความในครั้งนี้ ผู้เสียหายต่างสวมกอดกันร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะหลายรายหวังว่าจะได้เดินทางไปประกอบพิธีอุมเราะห์เป็นครั้งแรกในชีวิต
จากการสอบถามผู้เสียหายทราบว่า การเดินทางทำอุมเราะห์ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯได้เก็บเงินสำหรับผู้เดินทางรายละ 79,000 บาท มีผู้ที่ร่วมเดินทางรวมกว่า 100 ราย ได้ชำระเงินแล้วครบจำนวนตามที่บริษัทฯแจ้ง แต่เมื่อถึงวันก่อนเดินทางเพียง 1 วัน ก็คือวันที่ 12 ต.ค. บริษัทฯได้ขอเรียกเงินเพิ่มจากผู้แสวงบุญ อีกรายละ 15,000 บาท รวมกับของเดิมเป็นค่าเดินทางทั้งสิ้น 94,000 บาทต่อราย โดยอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับวีซ่าที่เพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นค่าเดินทางที่สูงมาก แต่ก็มีผู้แสวงบุญบางรายไม่ได้โอนเงินตามที่บริษัทฯร้องขอ เพราะถือว่าเป็นการผิดข้อตกลงที่ทำกันไว้ แต่บางรายไม่อยากมีปัญหา ก็ได้โอนเงินเพิ่มไปให้ตามที่บริษัทฯแจ้งม
เมื่อถึงวันเดินทาง คือวันที่ 13 ต.ค.68 ทางผู้แสวงบุญก็ได้เดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ เพื่อรอเดินทาง แต่ปรากฏว่าไม่มีตัวแทนของบริษัทฯมาประสานงานแต่อย่างใด ทำให้ผู้แสวงบุญกว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก คนแก่ ไม่สามารถเดินทางได้ เนื่องจากไม่มีตั๋วเครื่องบิน ทำให้ผู้แสวงบุญต่างเสียใจและบางรายถึงกับร้องไห้ที่ไม่สามารถเดินทางไปแสวงบุญได้ตามที่ตั้งใจ
จากการตรวจสอบความเสียหายของผู้แสวงบุญอุมเราะห์ที่ต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทไปแล้ว รวมเป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 9 ล้านบาท

น.ส.กุลยา เจะเลาะ หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า รู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากมีความตั้งใจมากที่จะเดินทางไปในครั้งนี้ และได้โอนเงินให้กับบริษัทครบตั้งเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แต่กลับมาบอกก่อนวันไปว่า วีซ่าไม่ออก ไม่มีวีซ่า ขอเงินเพิ่มอีกคนละ 15,000 บาท ซึ่งก็ยอมโอนให้ แต่พอไปถึงสนามบิน ก็ได้รับคำตอบว่าวีซ่าไม่ออก เดินทางไม่ได้
“ทำไมไม่บอกแต่แรกว่ามีปัญหา ปล่อยให้มารอที่สนามบิน เสียใจมาก จึงรีบมาแจ้งความทันที เพื่อไม่ให้ไปทำแบบนี้อีก และอยากให้บริษัทออกมารับผิดชอบ เพราะมันเป็นการทำร้ายความตั้งใจให้กับผู้ที่แสวงบุญมาก”
น.ส.ขนิษฐา หมัดสี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ก่อนเดินทาง แซะห์ (ผู้นำการเดินทาง) ได้ทักในไลน์กลุ่มที่มีอยู่ร้อยกว่าคนว่า ขอเงินเพิ่มอีกรายละ 15,000 บาท เพื่อนำไปจองตั๋วให้กับทุกคน ก็เลยงงว่าทำไมเพิ่งจอง ทุกคนก็เอะใจว่าผิดปกติ ซึ่งกรุ๊ปของตนไม่ได้โอนให้ เพื่อรอดูความเคลื่อนไหว แต่ก็มีบางส่วนประมาณ 14 คนที่โอนให้

“เขาอ้างว่าบางรายได้ตั๋วเครื่องบินไปซาอุฯ แต่ไม่มีตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพฯ จึงขอเพิ่ม แต่ฉันรู้สึกแปลก เริ่มไม่มั่นใจ จึงไม่ได้โอนเงินไปให้ และก็มั่นใจว่าไม่ได้บินแน่ ก็เพราะเห็นคนที่เดินทางก่อนในช่วงเช้าไม่ได้บิน ทำให้มั่นใจว่าครั้งนี้มีปัญหาแน่ๆ”
ผู้เสียหายรายเดิม กล่าวอีกว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก เพราะตั้งใจมากที่จะพาพ่อกับแม่ไปด้วย และบริษัทนี้เราก็เคยไปมาแล้ว และรอบนี้เป็นรอบที่ 3 จึงเกิดความไว้ใจ และมั่นใจในการบริการ พอเกิดเรื่องแบบนี้ก็ตกใจเหมือนกัน จึงอยากให้บริษัทฯคืนเงิน เพราะไม่ต้องการไปกับบริษัทนี้อีกแล้ว เพื่อจะได้นำเงินไปใช้เป็นค่าเดินทางต่อในปีหน้า
ด้าน บริษัท รุส ฮัจย์ แอนด์ ทราเวล จำกัด หลังเกิดเหตุการณ์ได้ออกมาแถลงชี้แจงว่า ทางบริษัทฯขอโทษที่ทำให้ผู้แสวงบุญไม่สามารถเดินทางได้ตามแผนที่กำหนดไว้ ทางบริษัทขอรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมดที่ทุกท่านได้ชำระไว้กับบริษัทฯ และทางบริษัทฯจะดำเนินการคืนและชดเชยให้ครบถ้วน โดยจะทยอยจ่ายชำระคืนไม่เกิน 5 เดือนนับจากวันที่ประกาศ คือวันที่ 13 ต.ค.68
