
มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไม่ใช่เหตุการณ์น้ำท่วมธรรมดา แต่กำลังกลายเป็นโศนาฏกรรมจากจำนวนศพผู้เสียชีวิตที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ข่าวลือก่อนหน้านี้ว่ามีศพราวๆ 80 ศพ หรือมากกว่า 100 ศพ ซึ่งถูกโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ตั้งแต่วันสองวันแรกหลังน้ำท่วมใหญ่ ถูกปฏิเสธว่าเป็น “ข่าวปลอม”
กระทั่งช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย.68 โฆษกรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เดินสายให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโทรทัศน์หลายช่องก็ยังยืนยันตัวเลขผู้สูญเสียเป็น “หลักหน่วย” เฉพาะที่หาดใหญ่ ส่วนตัวเลข 33 ศพ ที่เป็นข่าวก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง นายสิริพงศ์ บอกว่าเป็นยอดผู้เสียชีวิตรวมจากเหตุอุทกภัยในภาคใต้รอบนี้
ขณะที่เสียงลือเสียงเล่าอ้าง บอกต่อๆ และส่งต่อๆ กันว่ามีผู้เห็นศพจำนวนมากที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่ในพื้นที่ มีการระบุตัวเลขกันหลักร้อย ไปจนถึงหลายร้อย สอดรับกับเสียงยืนยันจากบรรดา “ทีมกู้ภัย” และ “เจ็ตสกีจิตอาสา” ที่บอกว่า มีร่างไร้ลมหายใจผ่านมือพวกเขาจำนวนมาก ระหว่างการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากท้องน้ำสุดลูกหูลูกตา

กระทั่งบ่ายของวันพฤหัสบดีที่ 27 พ.ย. นายสิริพงศ์ในฐานะโฆษก ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ทำเนียบรัฐบาล ได้รายงานตัวเลขใหม่ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้ว 85 ราย เฉพาะใน จ.สงขลา แยกเป็นสาเหตุจากน้ำท่วม 55 ราย และจากสถานการณ์อื่น 30 ราย พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ปฏิเสธที่อาจจะมีตัวเลขตกหล่น และคาดว่าจะมีแน่นอน แต่ตัวเลขที่จะนำเสนอนั้นจะต้องได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน และจะไม่มีการกดตัวเลขให้ต่ำหรือสูง แต่จะสื่อสารตรงไปตรงมา
นายสิริพงศ์ ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับตัวเลขผู้สูญหายว่า ยังไม่สามารถรวบรวมได้ เพราะขณะนี้ยังรวบรวมตัวเลขไม่ได้ทั้งหมด เนื่องจากผู้ประสบเหตุบางส่วนยังไม่ได้อพยพออกมา
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจะมากกว่า 85 รายหรือไม่ นายสิริพงศ์ ยอมรับว่า มากกว่าแน่นอน และยังคงต้องติดตามดูหลังจากเข้าไปในพื้นที่ พร้อมยอมรับว่า ขณะนี้ประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิตไม่ถูก
@@ ผบ.ตร.สั่งตั้ง “ศูนย์พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล”

วันเดียวกัน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้สั่งการด่วนให้ตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล” ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. กำกับดูแลการปฏิบัติ เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลในกรณีพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์อุทกภัยที่ยังไม่สามารถยืนยันตัวตนได้
ทั้งยังสั่งการด่วนให้โรงพยาบาลตำรวจจัดทีมบุคลากรจากสถาบันนิติเวชวิทยา สนับสนุนทีมแพทย์ และเครื่องมือ พร้อมรถห้องเย็น ทั้งยังให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.ตร.) จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกับทีมนิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เป็นการด่วน หลังได้รับรายงานพบผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และในจำนวนนี้มีกว่า 20 รายที่ยังไม่สามารถยืนยันตัวตนได้ ต้องใช้วิธีพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล
@@ เพจ สตช.โพสต์ผู้เสียชีวิตน้ำท่วมกว่า 100 ราย

ขณะที่เพจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความระบุในเรื่องเดียวกันว่า ทางศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เผยพบร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ กว่า 100 ราย มีกว่า 20 รายต้องพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งระดมทีมนิติเวช พฐ.ตำรวจ (สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ) พร้อมห้องเย็นลงพื้นที่แล้ว เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (27 พ.ย.)
จากข้อความที่ถูกโพสต์ทางเพจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งยังเป็นปริศนา และแต่ละหน่วย ข้อมูลทางการแต่ละแหล่งก็ยังสรุปไม่ตรงกัน
@@ ผบก.สพฐ.9 ยันตัวเลขผู้เสียชีวิตยังไม่นิ่ง
จากข้อมูลดังกล่าว “ทีมข่าวอิศรา” ได้โทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตกับ พล.ต.ต.ภาณุ พิทยาเวชวิวัฒน์ ผู้บังคับการศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ได้รับคำอธิบายว่า ขณะนี้ตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่นิ่ง เพราะตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งและแบ่งงานทีมพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินการตรวจสอบและนำข้อมูลเข้าระบบให้เป็นที่ชัดเจนก่อน เมื่อดำเนินการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว จึงจะยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ถูกต้องได้
@@ ประกาศ “รพ. ม.อ.” ชี้ชัด “ร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมาก”

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (รพ. ม.อ.) ได้ออกประกาศชี้แจงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกส่งตัวเข้ามายังโรงพยาบาลจากเหตุภัยพิบัติในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ระบุว่า
“ทางโรงพยาบาลฯ ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกท่านต่อความสูญเสียครั้งใหญ่นี้ แต่มีความจำเป็นในการดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งในขณะนี้มีร่างผู้เสียชีวิตถูกส่งเข้ามายังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์เป็นจำนวนมาก และโรงพยาบาลก็ตระหนักถึงความโศกเศร้าและความต้องการของญาติที่ประสงค์จะรับร่างผู้วายชนม์กลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
เพื่อให้เกิดความถูกต้องแม่นยำและเป็นการให้เกียรติแก่ผู้เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลจำเป็นต้องทำการ ‘ระบุตัวตน’ ตามแนวทางปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียก่อน จึงยังไม่สามารถมอบคืนร่างผู้เสียชีวิตให้แก่ญาติได้ในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินการจัดทำทะเบียนข้อมูลผู้เสียชีวิต เพื่อให้กระบวนการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด ส่วนขั้นตอนการติดต่อรับร่างผู้เสียชีวิต ทางโรงพยาบาลจะประกาศแจ้งแนวทางการดำเนินการที่ชัดเจนให้ทราบต่อไป”
@@ หาดใหญ่น้ำลด ถนนหลายสายรถสัญจรได้แล้ว
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมที่ อ.หาดใหญ่ หลังจากฝนหยุดตก ทำให้ระดับน้ำที่ท่วมสูงในหลายพื้นที่เริ่มลดลงอย่างมาก ถนนเกือบทุกสาย รถทุกประเภทเริ่มขับผ่านได้บ้างแล้ว แต่การสัญจรของประชาชนจะประสบปัญหาเดียวกันคือ การจราจรติดขัด เนื่องจากบนถนนที่น้ำลดแล้ว ยังคงมีรถยนต์ที่ถูกน้ำพัดจำนวนมากจอดอยู่ ส่วนใหญ่จะถูกน้ำพัดจนกีดขวางเส้นทาง หรือขึ้นไปค้างอยู่บนฟุตบาท และเกาะกลางถนน

ส่วนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจใจกลางเมืองหาดใหญ่ ระดับน้ำลดลงใกล้จะแห้งแล้ว มีเพียงพื้นที่รอบนอกลุ่มต่ำที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ ซึ่งหากฝนไม่ตก คาดว่าในอีก 1- 2 วันก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
@@ “Big Cleaning Day” เร่งคืนสภาพเมืองหาดใหญ่ใน 7 วัน

นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ประชุมร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการจัด “Big Cleaning Day เมืองหาดใหญ่” ในวันเสาร์ที่ 29 พ.ย.นี้ เพื่อคืนสภาพเมืองให้เรียบร้อยภายใน 7 วัน และขอความร่วมมือเจ้าของรถที่ยังจอดกีดขวางการจราจรให้นำรถออกจากพื้นที่ เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างสะดวกและราบรื่น
ทางจังหวัดสงขลา ได้จัดเตรียมเครื่องจักรจำนวนมาก ได้แก่ รถบรรทุกหกล้อและสิบล้ออย่างละ 100 คัน, รถ JCB 100 คัน, รถแบคโฮ 100 คัน, รถตักหน้าขุดหลัง 100 คัน, รถเก็บขยะ 10 คัน, ถุงดำกว่า 10 ล้านใบ และชุดอุปกรณ์ทำความสะอาดกว่า 300,000 ชุด สำหรับกิจกรรม Big Cleaning Day
นอกจากนั้นยังได้ระดมคนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ อาสาสมัคร จิตอาสา กำลังทหาร และชาวบ้านในชุมชนกว่า 1,000 คน พร้อมกำหนดค่าแรงวันละ 400 บาท เพื่อสร้างรายได้ควบคู่ไปกับการฟื้นฟู
@@ เรือนจำปัตตานีนำทีมผู้ต้องขังลุยแจกข้าว

ส่วนที่ จ.ปัตตานี หลายพื้นที่ยังคงมีน้ำท่วมขัง โดยทางเรือนจำกลางปัตตานี นำโดย นายศรชัย ตลาสุข ผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา ในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางปัตตานี ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และตัวแทนผู้ต้องราชทัณฑ์ ออกทำกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคม
โดยคณะของเรือนจำได้นำอาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทานและน้ำดื่มสะอาดลงพื้นที่ไปมอบให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ณ พื้นที่ หมู่ 8 บ้านบลี ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำในแม่น้ำปัตตานีเอ่อล้นเข้าท่วม
@@ เร่งระดมสูบน้ำป้องกันน้ำท่วมเมืองโก-ลก

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นราธิวาส ยังคงมีฝนตกกระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ แต่ปริมาณฝนเริ่มเบาบางลง ทำให้ระดับน้ำท่วมขังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนใน 13 อำเภอ 67 ตำบล 391 หมู่บ้าน 46 ชุมชน ซึ่งมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 281,318 คน เริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง และบางพื้นที่สถานการณ์น้ำท่วมขังเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ
แต่ที่น่าเป็นห่วงในขณะนี้คือ แม่น้ำโก-ลก ซึ่งมีต้นน้ำกำเนิดในพื้นที่ ต.บูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส มีปริมาณน้ำฝนจากที่สูงไหลลงมาสมทบ ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำล้นตลิ่งกว่า 70 เซนติเมตร
นางสาลีฮะ มะยูโซ๊ะ นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโก-ลก ได้สั่งการให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยเดินเครื่องสูบน้ำ จำนวน 9 เครื่อง ที่ได้รับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งได้ติดตั้งไว้ใน 7 ชุมชนของเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนท่าประปา, ชุมชนท่ากอไผ่, ชุมชนโปฮงยามู, ชุมชนท่าโรงเลื่อย, ชุมชนบือเร็ง, ชุมชนหัวสะพาน และชุมชนเจ๊ะกาเซ็ง เร่งสูบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันพื้นที่ชุมชนและศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าของเมืองไม่ให้น้ำหลากเข้าท่วม
@@ นราธิวาสน้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลน

สถานการณ์น้ำท่วมที่นราธิวาส ยังทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงขาดแคลนในระดับวิกฤต เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมขนส่งน้ำมันถูกตัดขาดเกือบทุกสาย
นายไชยา สิยาชีพ พลังงานจังหวัดนราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพลังงาน จ.นราธิวาส ได้ตระเวนออกสุ่มสำรวจสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จำนวน 42 แห่ง ใน จ.นราธิวาส พบว่า ขณะนี้ส่วนใหญ่น้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิด ทั้งน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซลหมดสต็อก บางปั๊มเหลือเพียงแก๊สโซฮอล์ 95 (E10) ที่มีราคาสูงถึงลิตรละ 49.59 บาท ทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก
โดยทั้งหมดเป็นผลพวงจากวิกฤติน้ำท่วมหนักในพื้นที่ จ.สงขลา ทำให้รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงจากคลังน้ำมันไม่สามารถเดินทางมาส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับปั๊มในพื้นที่ได้
เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มีการประชุมเพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนแล้ว
