
ควันหลงจากงานแถลงแผนการปฏิบัติงานประจำปี 2569 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะ ผอ.รมน. สะท้อนภาพความจริง 2 ด้านของงานความมั่นคงในยุคนี้
ด้านที่ 1 คือ รัฐบาลนายอนุทิน ไม่ได้มีนโยบายหรือยุทธศาสตร์อะไรที่ชัดเจนเพื่อกำหนดทิศทางงานความมั่นคงของประเทศ มีเพียงการให้นโยบายเฉพาะหน้า และกรอบงานรูทีนปกติที่ กอ.รมน.ต้องดำเนินการอยู่แล้ว
เนื้อหาที่แถลงจึงมองไม่เห็น “จุดเปลี่ยน” ของงานความมั่นคง ทั้งๆ ที่สถานการณ์ด้านความมั่นคงของไทยอยู่ในห้วงเวลาที่เปราะบางอย่างยิ่ง
ด้านที่ 2 คือ รัฐบาลนายอนุทิน ดูจะมองเห็นสถานการณ์ว่า ภัยคุกคามด้านความมั่นคงแผ่ขยายและลุกลามไปหลายเรื่อง หลายด้าน ซึ่งรวมถึงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งเพิ่งเกิดอุทกภัยใหญ่ที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้วย
แต่ปัญหาก็ย้อนกลับไปที่ด้านแรก คือ รัฐบาลไม่ได้มีนโยบายหรือยุทธศาสตร์ใดๆ ที่มอบให้หน่วยปฏิบัติ แต่น่าจะอ่านเอกสารการแถลงตามที่หน่วยปฏิบัติเสนอมาให้ด้วยซ้ำ
การเข้ามาบริหารประเทศของรัฐบาลนายอนุทิน จึงไม่สร้างการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในมิติทางความมั่นคง ทั้งๆ ที่สถานะของไทยอยู่ในภาวะล่อแหลมอย่างยิ่ง กล่าวคือ
- มีปัญหาขัดแย้งถึงชั้นใช้อาวุธกับกัมพูชา
- เป็นปัญหาที่เชื่อมโยงกับมหาอำนาจโลกที่พยายามเข้ามามีบทบาท
- ปัญหานี้เชื่อมถึง “ภูมิรัฐศาสตร์” คือการเผชิญหน้ากันของสหรัฐฯ กับจีน
- ปัญหากัมพูชาโยงกับภัยความมั่นคงด้านอื่น โดยเฉพาะสแกมเมอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามพรมแดน
- สถานการณ์ภัยคุกคามด้านอื่นรุมเร้า ทั้งโรคอุบัติใหม่ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ข้อพิจารณาในบริบทนี้ ตั้งอยู่บนฐานคิดที่ว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงอย่าง กอ.รมน. ในโครงสร้างปัจจุบันยังมีความจำเป็นที่ต้อง “มีอยู่” และปฏิบัติหน้าที่ต่อไป โดยไม่ได้พิจารณาไปในแง่ที่ว่า ควรปรับโครงสร้างหรือไม่ หรือองค์กรลักษณะนี้ยังจำเป็นต้อง “มีอยู่” อีกหรือไม่
@@ ระดมผู้รับผิดชอบงานความมั่นพร้อมหน้า

การขึ้นโพเดียมพูดนโยบายด้านความมั่นคงของนายอนุทิน ในฐานะ ผอ.รมน. เกิดขึ้นในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2569 ของ กอ.รมน. ที่ตึกสันติไมตรี หลังนอก ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมหน้า ได้แก่
- พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะรอง ผอ.รมน.
- พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการ กอ.รมน. (ลธ.รมน.)
- พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
- คณะผู้บริหารและผู้แทนจาก กอ.รมน.
- หัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า
- หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
@@ แตะแค่ผิวๆ “10 ภารกิจความมั่นคง”
สาระในคำกล่าวของนายกฯอนุทิน แบ่งเป็นปัญหาภัยคุกคามเร่งด่วนทางความมั่นคง ได้แก่
- ภัยอาชญากรรมข้ามชาติ
- ปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน
นอกจากนั้นยังมีการแก้ไขปัญหาในภารกิจของ กอ.รมน.ที่รัฐบาลพร้อมสนับสนุน ได้แก่

1.ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยนโยบายที่นายกฯมอบหมาย ก็คือ
- เน้นการทำงานเชิงลึกในพื้นที่
- ใช้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างสันติสุข
- ลดเหตุรุนแรงและลดจุดเสี่ยงอย่างมีรูปธรรม
2.การปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ อาชญากรรมออนไลน์ และการก่อการร้ายข้ามชาติ
- เร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
3.การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
- ประสานกับหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง
4.การแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ สถานะบุคคลไร้สัญชาติ
- ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินงาน

5.เสริมความพร้อมด้านพลังงานและความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่กับการป้องปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกสินค้าการเกษตร ปศุสัตว์ และประมงที่ผิดกฎหมาย
6.เตรียมความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะที่ไม่ปกติ หรือภัยพิบัติที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงโดยรวม
7.การบรรเทาสาธารณภัยและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม
- ให้ กอ.รมน.ดำเนินการเชิงรุก ทั้งการป้องกันบรรเทาผลกระทบ
- หาความร่วมมือกับท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหา PM 2.5
- ป้องกันการทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมไปถึงสารเคมีในภาคอุตสาหกรรม
8.ปรับปรุงองค์กรและเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย โปร่งใส และเป็นที่พึ่งของประชาชน
- เสริมศักยภาพ บุคลากรให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งในด้านเทคโนโลยี การใช้ข้อมูลข่าวสาร และทักษะการปฏิบัติงานในพื้นที่
- ทำให้กำลังพลพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและซับซ้อน สอดรับกับความมั่นคงในปัจจุบัน

9.เสริมสร้างความโปร่งใสขององค์กร
- การทำงานต้องตรวจสอบได้ทั้งการใช้งบประมาณการปฏิบัติงานในพื้นที่ และการสื่อสารต่อสาธารณะ
10.การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสารของ กอ.รมน.
- ต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านข่าวกรองให้รู้จริง รวดเร็ว และแม่นยำ
- เสริมมาตรการสกัดกั้นข่าวปลอมที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ป้องกันไม่ให้เกิดการแตกแยกในสังคม
ประชาชนทั่วไปที่ได้รับรู้รับฟัง คงพอสรุปได้ว่า...งานความมั่นคงไทยกำลังมีความหวัง หรือวังเวงกันแน่?!?
