“จุฬาราชมนตรี” ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบภัย อ.จะนะ สงขลา พร้อมสนับสนุนเงินซ่อมแซมมัสยิด 444 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ขณะที่พรรคประชาชาติผสานมือเพื่อไทย ระดมกำลังจิตอาสาครึ่งพันจากชายแดนใต้ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูเมืองหาดใหญ่ ด้านรองนายกฯ พิพัฒน์ ลุยน้ำเยี่ยมชาวปะกาฮารัง ปัตตานี สำรวจงบซ่อมถนน 3 พันล้าน
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอจะนะ จ.สงขลา นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี พร้อมด้วย นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.สงขลา พร้อมมอบเงินสนับสนุนซ่อมแซมมัสยิด จำนวน 444 แห่งที่ได้รับผลกระทบจากมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นและเพิ่งคลี่คลายลง
พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวว่า มีความยินดีและซาบซึ้งอย่างยิ่งที่ท่านจุฬาราชมนตรี และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย มอบกำลังใจและเงินช่วยเหลือแก่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยกลางในการประสานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่สร้างความเสียหายให้พี่น้องประชาชนในสงขลาและอีกหลายจังหวัดในภาคใต้
“ท่านจุฬาราชมนตรีได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลาเป็นศูนย์กลางประสานงานรับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดการศพผู้เสียชีวิต และประสานอำนวยความสะดวกในการพิธีศพตามหลักศาสนาอิสลาม ทั้งยังมอบเงินช่วยเหลือ โดยเดินทางมามอบด้วยตนเอง”
พล.ต.ต.สุรินทร์ กล่าวอีกว่า จังหวัดสงขลาถือเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ขณะนี้ได้แจกจ่ายถุงยังชีพแล้วประมาณ 20,000 ถุง พร้อมกันนี้ได้ขอบคุณคณะกรรมการอิสลามจังหวัดสงขลา หน่วยงานทุกภาคส่วน และกลุ่มจิตอาสาที่ร่วมแรงร่วมใจกันในการบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยในครั้งนี้อย่างเต็มกำลัง
นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี กล่าวว่า ได้ร่วมลงพื้นที่มอบทุนซ่อมแซมมัสยิดที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ อ.จะนะ และมัสยิดกลางจังหวัดสงขลา พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม โดยขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องประชาชนที่ประสบภัยมีความเข้มแข็ง และสามารถก้าวผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้
@@ จิตอาสา จชต.ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ตอบแทนน้ำใจคนหาดใหญ่

วันอาทิตย์ที่ 7 ธ.ค.68 พรรคประชาชาติ นำโดย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และหัวหน้าพรรคประชาชาติ และคณะ สส.จากพรรคประชาชาติ ได้ร่วมกับ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส และ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำกำลังจิตอาสาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 500 คน ช่วยเหลือสนับสนุนการฟื้นฟูพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชน ล้างทำความสะอาดบริเวณมัสยิด พร้อมสนับสนุนรถแทรกเตอร์ตักขยะ เพื่อเร่งให้พื้นที่ต่างๆ ในหาดใหญ่กลับคืนสู่สภาวะปกติอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และปลอดโรคระบาด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พรรคประชาชาติได้มีการระดมกำลังจิตอาสาเดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งยะลา ปัตตานีและนราธิวาส โดยจัดรถบัสจังหวัดละ 3 คัน รวมกว่า 500 คน เพื่อมาช่วยฟื้นฟูพื้นที่ในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ และบริเวณวงเวียนน้ำพุ ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและความมีน้ำใจของพี่น้องปลายด้ามขวาน ที่เมื่อครั้ง 3 จังหวัดมีเหตุการณ์ พี่น้องชาวหาดใหญ่ก็เคยลงไปช่วยเหลือ ครั้งนี้จึงถือเป็นการมาตอบแทนน้ำใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
“กลุ่มเยาวชน ครู และจิตอาสา เตรียมพร้อมทั้งเครื่องมือและเสบียงอาหารมาเอง เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้ประสบภัย โดยมี นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส มาร่วมช่วยเหลือตั้งแต่น้ำท่วมวันแรก และหากสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ เราก็จะระดมความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง” พ.ต.อ.ทวี ระบุ
@@ ฝาก 3 ประเด็นถึงรัฐบาล บริหารจัดการสถานการณ์

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย นายจุลพันธ์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยังได้ร่วมกันฝากข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลในการบริหารจัดการสถานการณ์หลังน้ำลด โดยเน้นย้ำใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ
1. “การสื่อสารและความโปร่งใส และตรวจสอบการทุจริต” รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนด้วยการตรวจสอบการใช้งบประมาณช่วยเหลืออย่างเข้มข้น ไม่ควรปล่อยให้เกิดความคลางแคลงใจเรื่องการทุจริตซ้ำเติมผู้ประสบภัย
2. “การจัดการร่างผู้เสียชีวิต” ต้องเร่งกระบวนการตรวจสอบและพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เพื่อส่งมอบร่างผู้เสียชีวิตกลับคืนสู่อ้อมอกของญาติพี่น้องโดยเร็วที่สุด
3. “การฟื้นฟูเยียวยาและเศรษฐกิจ” ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ
- การเยียวยา รัฐต้องมองตามสภาพความเป็นจริง เนื่องจากทรัพย์สินของประชาชนเสียหายเกือบ 100% จะยึดเพียงกรอบระเบียบเดิมไม่ได้ ต้องมีกลไกพิเศษเพื่อคืนชีวิตให้ประชาชน
- การกู้วิกฤตขยะและฟื้นฟูเมือง ขณะนี้พบปัญหากองขยะสะสมสูงเท่าตึก 3 ชั้นในหลายจุด ซึ่งเกินกำลังที่ประชาชนจะจัดการเองได้ หน่วยงานรัฐต้องเร่งนำเครื่องจักรเข้าไปจัดการทันที
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สงขลาและหาดใหญ่เป็นเมืองเศรษฐกิจหลัก หากรัฐบาลไม่มีแพ็กเกจช่วยเหลือด้านการท่องเที่ยวที่ชัดเจนก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของประเทศอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะดึงนักท่องเที่ยวกลับมา สภาพบ้านเมืองต้องได้รับการฟื้นฟูให้กลับมาสะอาดเรียบร้อยเสียก่อน
@@ “พิพัฒน์” เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยชาวปัตตานี

อีกด้านหนึ่ง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางลงพื้นที่ให้กำลังใจเยี่ยมเยียนผู้ประสบภัยในพื้นที่ ต.ปะกาฮารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี ภายหลังเกิดน้ำหลากจากแม่น้ำปัตตานีไหลเข้าน้ำท่วมพื้นที่ ระดับน้ำสูง 1- 3 เมตร ส่งผลให้บ้านเรือนชาวบ้านกว่า 500-800 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม
โดย นายพิพัฒน์ ได้มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัย จำนวน 700 ชุด จากนั้นได้ไปเยี่ยมผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ ต.ปะกาฮารัง พร้อมมอบถุงยังชีพและให้กำลังใจ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สถานการณ์ในพื้นที่ จ.ปัตตานี ปีนี้ถือว่าน้ำท่วมหนัก โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำอย่าง ต.ปะกาฮารัง วันนี้ได้นำถุงยังชีพมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียง โดยได้แจ้งกับทางจังหวัดไว้ว่า มีอะไรที่รัฐบาลช่วยได้จะดูแลเป็นพิเศษให้แจ้งมา เพื่อนำเรียนท่านนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรรกูล ซึ่งท่านยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลพี่น้องที่ประสบภัยทั่วประเทศอย่างเต็มที่
“หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของทางจังหวัดที่จะเร่งเยียวยา 9,000 บาท ตามมติ ครม. ซึ่งได้เยียวยาไปแล้วกว่า 120,000 ครัวเรือน หรือ 65% จะเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมเพื่อจ่ายเงินซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหายไม่เกิน 49,000 บาทต่อหลัง ให้ครบถ้วนโดยเร็วที่สุด” รองนายกรัฐมนตรี ระบุ
@@ ซ่อมแซมถนนน้ำท่วมพัง ใช้งบกว่า 3 พันล้าน

นายพิพัฒน์ ยังกล่าวถึงการซ่อมแซมเส้นทางคมนาคม และโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเร่งสำรวจทางหลวงชนบท ทางหลวงแผ่นดิน และขอให้รีบซ่อมแซม หากงบส่วนกลางยังไม่ได้มา ขอให้ใช้งบประมาณที่เหลือ ซ่อมแซมเบื้องต้นไปก่อน
“ล่าสุดปลัดกระทรวงคมนาคมได้ส่งรายการงบที่ต้องใช้มาแล้ว อยู่ที่ประมาณกว่า 3,000 ล้านบาท โดยเฉพาะถนนที่ใช้เชื่อมต่อหมู่บ้านกับหมู่บ้าน และจังหวัดต่อจังหวัด จะให้เร่งดำเนินการโดยด่วน”
รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าเร่งสำรวจปากแม่น้ำ คู คลอง ต่างๆ ตรงไหนเป็นสันดอน ทราย และเป็นอุปสรรคกีดขวางทางระบายน้ำ ให้เร่งดำเนินการจัดการเพื่อให้มีการระบายน้ำได้ดีมากขึ้น เพื่อป้องกันอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
