มีประเด็นนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา เมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เป็นความเคลื่อนไหวต่อสู้กันด้วยข้อมูลและมวลชนช่วงก่อนเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจในต้นสัปดาห์หน้านี้ (16-19 ก.พ.64)
ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.64 ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีการอนุมัติงบโครงการมูลค่ากว่า 600 ล้านบาทที่มิอาจมองข้าม
เหตุรุนแรงที่ชายแดนใต้กลับมาเกิดชุกอีกรอบ ประหนึ่งท้าทายการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งของแม่ทัพภาคที่ 4 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ซึ่งทำงานอย่างถึงลูกถึงคน และติดดินสไตล์ลูกทุ่ง
อัพเดทผู้ป่วยโควิด-19 ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากต่างประเทศ ส่งเข้าคัดกรองกักตัวทันที พบหญิง 1 ราย ไม่เข้ารายงานตัวก่อนหลบหนีขึ้นรถโดยสารไปโผล่เจอป่วยที่กรุงเทพฯ สสจ.สงขลา ตามกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดนั่งรถโดยสารร่วม เข้าตรวจกักตัวไม่พบเชื้อ
ที่ยะลากำลังเกิดสถานการณ์ที่โจษขานกันทั่วเมือง นั่นก็คือกรณีที่มีแก๊งวัยรุ่นตระเวนใช้ของมีคม ทั้งมีดและดาบ ไล่ฟัน "สุจริตชน" ที่ออกมาใช้ชีวิตในยามค่ำคืน
สถานการณ์การเคลื่อนย้ายแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายลักลอบเข้าไทยจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มุ่งสู่ตอนกลางของประเทศ และส่งต่อชายแดนด้านต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานกลุ่ม CLMV คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนามนั้น เป็นวิกฤติที่ "ทีมข่าวอิศรา" เปิดโปงเป็นสื่อแรกๆ และชี้ให้เห็นถึงอันตรายของขบวนการนี้
ยื่นไปเรียบร้อย! สำหรับ "ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล" ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน
ศาลจังหวัดปัตตานีพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต "4 จำเลย" ทีมถล่มฐานชุดคุ้มครองตำบลปะกาฮะรัง ในเมืองปัตตานี เหตุเกิดปี 62 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับอีกร่วมสิบคนยังหลบหนี
การจับกุมแรงงานต่างชาติจากกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) ที่หนีโควิดจากมาเลเซีย เดินทางผ่านไทย เพื่อกลับประเทศบ้านเกิดนั้น กำลังก่อปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
สถานการณ์โควิดที่ชายแดนใต้ แม้จะยังไม่มีการระบาดแบบ "คลัสเตอร์" หรือ "กลุ่มก้อนขนาดใหญ่" แต่ชาวบ้านก็ยังหวาดผวา