จับตา “ทวี” ลงใต้ จับเข่าคุย “นายก กูเซ็ง” คาดวางยุทธศาสตร์หาเสียงชิงนายก อบจ. หลังโดนรุมกินโต๊ะจากผู้สมัครเครือข่ายการเมืองระดับชาติ ทั้งภูมิใจไทย-กล้าธรรม ด้านสงขลาไฟปะทุ “นายกแบน” หาเสียงดุ ชูแคมเปญไม่เปิดหัวจ่าย “ธนาธร” ขนทัพใหญ่ปราศรัยช่วยผู้สมัครส้ม
ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ในพื้นที่ชายแดนใต้ส่อเค้าเดือด โดยเฉพาะที่นราธิวาส และสงขลา
ที่เมืองนราฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้พบปะพูดคุยกับ นายกูเซ็ง ยาวอหะซัน อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนราธิวาส (อบจ.นราธิวาส) 5 สมัย ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งอีกรอบเพื่อป้องกันแชมป์ โดยอาศัยจังหวะที่ พ.ต.อ.ทวี ลงพื้นที่ อำเภอสุไหงปาดี เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ม.ค.68 ที่ผ่านมา
นายกูเซ็ง สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. พร้อมเครือข่ายสมาชิกสภา อบจ.ทั้ง 30 เขต ในพื้นที่ 13 อำเภอของนราธิวาส โดยมีผู้สนับสนุนพรรคประชาชาติในพื้นที่เป็นกองเชียร์ รวมถึงนักธุรกิจและภาคประชาชน
ทั้งนี้ แม้ลูกชายนายกูเซ็ง คือ นายวัชระ ยาวอหะซัน จะเป็น สส.นราธิวาส พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่สำหรับนายกูเซ็ง มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พ.ต.อ.ทวี และมีข่าวว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า อาจพาลูกๆ ย้ายเข้าพรรคประชาชาติ เนื่องจากที่ผ่านมา นายกูเฮง ยาวอหะซัน ลูกชายอีกคนของนายกูเซ็ง ก็เคยเป็น สส.นราธิวาส ในสีเสื้อพรรคประชาชาติมาแล้ว เพียงแต่การเลือกตั้งปี 66 สอบตกแบบหักปากกาเซียน
มีรายงานว่า ในการหารือกันระหว่าง พ.ต.อ.ทวี กับ นายกูเซ็ง ได้มีการวางยุทธศาสตร์การหาเสียงร่วมกันในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเน้นปรับรูปแบบและกลยุทธ์ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ เนื่องจากการเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิกสภา อบจ.หนนี้ นายกูเซ็งถือว่ามีคู่แข่งที่น่ากลัว และเหมือนถูกรุมกินโต๊ะ เพราะมีผู้สมัครที่ได้รับการสนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. และสมาชิกสภา อบจ.ด้วย
โดย นายอับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครนายก อบจ.หมายเลข 2 เป็นพี่ชายแท้ๆ ของ สส.ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย และมี นายนัจมุดดิน อูมา อดีต สส.นราธิวาส 4 สมัย ขุนพลชายแดนใต้ของพรรคภูมิใจไทย เป็นกุนซือ
ขณะที่ สส.พรรคกล้าธรรม (อดีตพลังประชารัฐ) ในพื้นที่ อย่างสองพี่น้องตระกูล “มะยูโซ๊ะ” ซึ่งมีฐานทางการเมืองแข็งแกร่ง ทั้ง นายสัมพันธ์ และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหน่งสมาชิก สภา อบจ.หลายพื้นที่ของนราธิวาส
@@ แชมป์เก่าเจอรุมกินโต๊ะ?
การเลือกตั้งนายก อบจ.นราธิวาส กำลังส่อเค้าแชมป์เก่า 5 สมัยถูกรุมกินโต๊ะ
คอการเมืองจับความเคลื่อนไหวของ ดร.ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย นายสมาน สะอิ นายก อบต.กาลิซา (สามีของ น.ส.อาอีซะห์ แดะ ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส หมายเลข 3) และ นายอับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครนายก อบจ.นราธิวาส หมายเลข 2 เดินทางไปยังที่ทำการพรรคกล้าธรรม เพื่อเข้าพบ นายสัมพันธ์ และนายอามินทร์ 2 พี่น้องตระกูลมะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม รวมถึง นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ที่ก่อนหน้านี้ถูกวางตัวเป็นผู้สมัครนายก อบจ. จากทีมพรรคกล้าธรรม แต่เปลี่ยนใจไม่ลงสมัคร
โดยพี่น้องตระกูลสะอิ ได้มามอบช่อดอกไม้และกระเช้าของขวัญเพื่อแสดงความเสียใจต่อความผิดพลาดในการสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องการส่งผู้ลงสมัครนายก อบจ.นราธิวาส กับพี่น้องตระกูลมะยูโซ๊ะ พร้อมทั้งพูดคุยเพื่อผนึกกำลังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงเมืองนราธิวาส ท่ามกลางหัวคะแนนและประชาชนผู้สนับสนุนกว่า 600 คนเป็นสักขีพยาน
เมื่อการเลือกตั้งแบ่งเป็น 2 ขัั้วอย่างชัดเจน และอีกฝ่ายจับมือกัน ทำให้โอกาสรักษาเก้าอี้ของ “นายก กูเซ็ง” ถือเป็นงานช้าง แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากเครือข่ายพรรคประชาชาติ แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวอย่าง นายอับดุลลักษณ์ สะอิ และ น.ส.อาซีซะห์ แดะ ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สส.นราธิวาส พรรคกล้าธรรม ซึ่งมีฐานเสียงแข็งโป๊ก
เมื่อตระกูล “สะอิ” จากพรรคภูมิใจไทย กับ “มะยูโซ๊ะ” จากพรรคกล้าธรรม จับมือกัน ก็น่าติดตามว่า “ยาวอหะซัน” จะเอาตัวรอดได้อีกสมัยหรือไม่
@@ ศึก อบจ.สงขลาเริ่มเดือด! ทัพส้มเปิดเวทีชนตัวเต็ง
อีกหนึ่งจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ศึกเลือกตั้ง อบจ.ดุเดือด คือ สงขลา
เนื่องจากมีผู้เสนอตัวรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ทั้งสิ้นถึง 9 คน ได้แก่
เบอร์ 1 นางอภิญญา ยอดแก้ว จากประวัติพบว่าลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลา แทบจะทุกรอบ
เบอร์ 2 นายนิรันดร์ จินดานาค ผู้สมัครจากพรรคประชาชน เป็นผู้สมัครหนึ่งเดียวที่ส่งลงในนามพรรคการเมือง หวังเรียกกระแสคนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิดมาลงคะแนน สร้างประวัติศาสตร์ “ล้มบ้านใหญ่”
เบอร์ 3 นายประสงค์ บริรักษ์ หรือ “นายกแบน” ทำงานการเมืองท้องถิ่นสงขลานานกว่า 23 ปี และได้รับการสนับสนุนส่วนตัวจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทย
เบอร์ 4 นางดวงพร เสนาวัลย์ คนนี้ไม่พบประวัติทางการเมืองใดๆ
เบอร์ 5 นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ออกตัวแรงและยังเป็นตัวเต็งอันดับ 1 ในบรรดาผู้สมัครทั้งหมด ไม่ใช่เพราะมีบ้านใหญ่หนุน แต่เจ้าตัวก็มีความมั่นอกมั่นใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่ลาออกจากอธิบดีกรมฝนหลวงฯ เพื่อมาลงการเมืองแน่นอน แถมทีมรองนายก ก็ไม่ธรรมดา
เบอร์ 6 นายสงขลา พอกันที เดิมชื่อ นายวรพงษ์ หริรักษ์ นักเคลื่อนไหวทางสังคม ที่เปลี่ยนชื่อหวังสร้างจุดขายเรียกคะแนน
เบอร์ 7 นายเศกสิทธิ์ รตนพิบูลย์ คนรุ่นใหม่ดีกรีทนาย ขอเป็นตัวเลือกให้ชาวสงขลา
เบอร์ 8 นางสาวชนัญชิดา พรหมราช นักธุรกิจยางพาราสาวคนเก่ง อดีตเคยเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทยเขต 3 สงขลา พกความมั่นใจมาเพียบ
เบอร์ 9 นายณัฐภัท ชุมทองเชิดบำรุง อดีตเลขานุการนายก อบจ.คนก่อน ตั้งเป้าขอแบ่งคะแนนจากคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เทใจเลือกใคร
ขณะที่การแข่งขันเริ่มเดือดตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังปีใหม่ เมื่อ นายประสงค์ บริรักษ์ ขึ้นป้ายพรึ่บทั่วเมืองด้วยวลีเด็ด “ไม่ซื้อเสียง” หวังนำโมเดลนครศรีธรรมราชมาใช้ที่สงขลา พร้อมดึง “นายกน้ำ” วารินทร์ ชินวงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช ผู้ล้มบ้านใหญ่เมืองคอน มาขึ้นเวทีหวังเรียกกระแส เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย แต่จะเรียกคะแนนถึงขั้นพลิกชนะได้หรือไม่ ต้องรอดู
เนื่องจาก “กูรูการเมือง” หลายคนสะท้อนว่า เมืองนครศรีฯ กับเมืองสงขลา มีบริบทหลายอย่างไม่เหมือนกัน การจะล้มตัวเต็งไม่ง่าย อีกทั้งผู้สมัครมีจำนวนมาก (9 คน) คะแนนน่าจะกาะจายเป็นเบี้ยหัวแตก
ส่วนตัวเต็งอย่าง นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ที่เปิดตัวแสดงความพร้อมก่อนใคร ปรากฏว่าทั้งทีมบริหาร และผู้สมัคร ส.อบจ.ลงพื้นที่อย่างหนักทุกวัน
ก่อนหน้านี้มีกระแสเรื่องการลาออกยังไม่สมบูรณ์ ทำเอานายสุพิศหายใจไม่ค่อยคล่อง ทว่าล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.67 ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศให้พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเรียบร้อย นายสุพิศจึงประกาศเปิด 5 เวทีครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วเมืองสงขลา ประเดิมเวทีแรกบ้านเกิดคาบสมุทรสทิงพระ ในวันที่ 12 ม.ค. ปักหมุดพัฒนาเมืองตามแบบฉบับของนักวิศวกรมือดี พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมไปพร้อมกัน หวังให้สงขลาก้าวหน้าอย่างยั่งยืนตามสโลแกนที่วางไว้
แต่อย่างไรก็ตาม ย่อมประมาทคู่แข่งจากพรรคประชาชน อย่าง นายนิรันดร์ จินดานาค ไม่ได้ เพราะล่าสุดทาง “พลพรรคสีส้ม” ได้ขนขุนพล ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ นางสาวภคมน หนุนอนันต์ นายรอมฎอน บันจอร์ สส.พรรคประชาชน ขึ้นเวทีเวทีปราศรัยหาเสียงครั้งแรกในพื้นที่ อ.จะนะ โดยมีแฟนคลับไปให้กำลังใจจำนวนไม่น้อย
@@ ผู้สมัครตัวเล็ก ทุนน้อย เน้นลุยออนไลน์
ขณะที่ผู้สมัครรายอื่นๆ เน้นการสื่อสารออนไลน์เป็นหลัก เช่น เบอร์ 6 นายสงขลา พอกันที ใช้การสื่อสารเรียกคะแนนผ่านทางสื่อสังคม เน้นการสื่อสารแนวคิดล้างการเมืองรูปแบบเก่า ควบคู่กับการใช้รถเครื่องขยายเสียง เพื่อให้เข้าถึงประชาชนได้จำนวนมาก เช่นเดียวกับผู้สมัครรายอื่นๆ ที่เน้นการสื่อสารผ่านออนไลน์
ศึกเลือกตั้ง อบจ.สงขลาหนนี้ แม้จะมีพรรคประชาชนพรรคเดียวที่ส่งในนามพรรค แต่เชื่อแน่ว่าหลายทีมมีการขอแรงหนุนจากกลุ่มนักการเมืองในพื้นที่ แม้จะไม่ลงในนามพรรค แต่หากนักการเมืองกลุ่มใหญ่หนุนใคร คนนั้นก็น่าจะเป็นผู้คว้าเก้าอี้นายกอบจ.สงขลาไปครองได้ไม่ยาก
งานนี้จึงเป็นบทพิสูจน์ระหว่าง “กระแส” กับ “บ้านใหญ่” ว่าใครจะแน่กว่ากัน!