ไปดูกลยุทธ์ “ค่ายสีน้ำเงิน” แม้พรรคภูมิใจไทยจะประกาศไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในนามพรรคเลยแม้แต่จังหวัดเดียว เพราะถือเป็น “นโยบายพรรค” ที่แยกการเมืองระดับชาติกับการเมืองท้องถิ่นออกจากกัน
แต่หลายพื้นที่ก็มีการช่วยเหลือกันแบบส่วนตัว ในฐานะ “เพื่อน” หรือ “ทีมงาน” ขณะที่หลายๆ พื้นที่ก็รู้กันดีว่า อยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ “ตอกเสาเข็ม” ของ “ครูใหญ่”
กลยุทธ์ของ “ค่ายสีน้ำเงิน” พลิกแพลงหลากหลายไปตามความเหมาะสมของพื้นที่ อย่างนราธิวาสเป็นยุทธการ “รุมกินโต๊ะ” ส่งนายก อบจ. พี่ชาย “สส.ยา” ซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส พรรคภูมิใจไทย ลงแข่ง
แต่ ส.อบจ. ใช้บริการ “ทีมกล้าธรรม” อดีตพลังประชารัฐ “สายผู้กองธรรมนัส” แล้วก็จับมือกัน “รุมกินโต๊ะ” นายก กูเซ็ง ยาวอหะซัน แชมป์เก่า 5 สมัย
22 ม.ค.68 อับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครนายก อบจ. คู่แข่ง นายก กูเซ็ง จะเปิดปราศรัยใหญ่ ต้องรอดูว่ามวลชนแฟนคลับจะเยอะแค่ไหน แต่ที่แน่ๆ คือ กองหนุนที่ขึ้นเวทีปราศรัย มีทั้ง สส.พรรคภูมิใจไทย และพรรคกล้าธรรม โดยเฉพาะสามพี่น้อง “มะยูโซ๊ะ” รวมถึง ไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาสคนดัง
เวทีจัดที่ลานจอดรถที่ว่าการอำเภอระแงะ จ.นราธิวาส (อ่านรายชื่อผู้ร่วมปราศรัยตามเอกสาร)
ขณะที่เวทีแสดงวิสัยทัศน์ที่ลานพิกุล มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ปรากฏว่าต้องยกเลิก เนื่องจากผู้สมัครหมายเลข 1 อย่าง “นายก กูเซ็ง” ไม่ได้เดินทางไปร่วม ทำให้ นายอับดุลลักษณ์ ไม่ได้ขึ้นโชว์วิสัยทัศน์ ทั้งๆ ที่พร้อมไปขึ้นเวที
@@ ขยาย “นครศรีฯโมเดล” ลุยสงขลา-พัทลุง
อีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง คือ ภาคใต้ตอนล่างกับตอนกลาง ซึ่งไม่ใช่สามจังหวัดชายแดน
ค่ายสีน้ำเงินประสบความสำเร็จไปแล้วที่นครศรีธรรมราช กับ “นายก น้ำ” วาริณ ชิณวงศ์ เอาชนะด้วยแคมเปญคนรุ่นใหม่ และไม่ซื้อเสียง สามารถล้มบ้านใหญ่ “เดชเดโช” ค่ายประชาธิปัตย์ไปได้
รอบนี้ เลือกตั้งใหญ่พร้อมกัน 47 จังหวัด ภาคใต้ตอนล่างที่ไม่ใช่สามจังหวัด คือ สงขลา กับ พัทลุง ก็มี “พลังน้ำเงิน” ลงสู้ศึก และกำลังจะใช้ยุทธศาสตร์เดียวกับนครศรีธรรมราช ซึ่งกลายเป็น “นครศรีฯโมเดล” ไปแล้ว
นั่นก็คือ ใช้โซเชียลฯ เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งจริงๆ แล้วคือเข้าถึงทุกกลุ่ม, สร้างกระแสการเปลี่ยนแปลง, ชูความเป็นคนรุ่นใหม่ การเมืองใหม่ ไม่อิงบ้านใหญ่ ไม่ซื้อเสียง และขายนโยบายการพัฒนาใหม่ๆ
เมื่อเร็วๆ นี้ “นายก น้ำ” ก็ไปขึ้นเวทีปราศรัยช่วย “นายก แบน” ประสงค์ บริรักษ์ ผู้สมัครนายก อบจ.สงขลา คนสนิทของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แม่ทัพภาคใต้ของภูมิใจไทยมาแล้ว
รัฐมนตรีพิพัฒน์ ก็เคยออกตัวว่า พรรคไม่ได้ส่งนายกแบน และนายกแบนก็ไม่ได้สมัครในนามพรรค แต่ด้วยความสัมพันธ์ส่วนตัว เพื่อนต้องช่วยเพื่อน
ตอนที่ “นายก น้ำ” ไปช่วยขึ้นเวทีให้ “นายก แบน” ปรากฏว่าสร้างกระแสได้มาก ล่าสุดจึงมีการขยายไปที่พัทลุง ซึ่งมีผู้สมัครค่ายเดียวกัน คือ นายสาโรจน์ สามารถ หมายเลข 5
งานนี้ไม่ใช่แค่ขึ้นเวทีช่วยปราศรัย หรือแค่โฆษณาไม่ซื้อเสียง แต่กำลังจะมีการประกาศ “นโยบายร่วม 3 จังหวัด” คือ นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง เพื่อพัฒนาพื้นที่ลุ่มทะเลสาบสงขลา ซึ่งจะครอบคลุม 16 อำเภอ 142 ชุมชน อย่างเป็นรูปธรรม
โดยจะผนึกกำลัง นายก อบจ. 3 จังหวัด เพื่อทำงานไปในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ
- ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เพิ่มเงินในกระเป๋าพี่น้อง
- ส่งเสริมผลผลิตเกษตรกร ให้เป็นสินค้า GI (หมายถึง สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ซึ่งจะเพิ่มมูลค่าสินค้าชุมชน
- การพัฒนานี้ ไม่ต้องรอรัฐบาล เพราะ สามารถทำด้วยงบประมาณของจังหวัดได้ทันที
งานนี้จึงมีการจัดแคมเปญให้ประชาชนเลือกแบบ “ยกแพ็ก” 3 คน 3 จังหวัด ตอนนี้ได้มาแล้ว 1 คน คือ “นายก น้ำ” จึงกำลังขยายโปรโมชั่น “พัฒนาพื้นที่ลุ่มทะเลสาบสงขลา” นายก อบจ.นครศรีฯ สงขลา และพัทลุง
@@ “บ้านใหญ่เดชเดโช” ฝากเตือนสงขลา ระวังซ้ำรอยนครศรีฯ
ความเคลื่อนไหวนี้ต้องบอกว่า “น่ากลัว” สำหรับ “บ้านใหญ่” เพราะมีเสียงจาก “คนบ้านใหญ่เดชเดโช” ที่พ่ายกลยุทธ์นี้มาแล้วที่นครศรีธรรมราช โดยเขาประเมินว่า นายก อบจ.สงขลา ตัวเต็งอย่าง นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อดีตอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่ง “บ้านใหญ่ประชาธิปัตย์” พร้อมใจกันสงบศึกชั่วคราว หนุนคนเดียวกัน อาจจะพ่าย “นายก แบน” เพราะยุทธศาสตร์เลือกยกแพ็ก และใช้โซเชียลฯแบบ “นายก น้ำ” ก็เป็นได้
@@ “สุพิศ” ดัน 4 อำเภอสงขลา “ศูนย์กลาง ศก.ชายแดน”
ความเคลื่อนไหวของผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะตัวเต็งอย่าง “ทีมสงขลาพลังใหม่” ของ นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม หมายเลข 5, “ทีมพรรคประชาชน” ของ นายนิรันดร์ จินดานาค ผู้สมัครหมายเลข 2 และ “ทีมสงขลาเข้มแข็ง” ของ นายประสงค์ บริรักษ์ หรือ “นายก แบน” ผู้สมัครหมายเลข 3 เป็นไปอย่างคึกคักสุดขีด
โดย นายสุพิศ ไปเปิดเวทีใหญ่ปราศรัยครั้งแรกที่ตลาดม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยมีขุนพลในทีมบริหาร ซึ่งแต่ละคนล้วนเป็นคนดัง มีประวัติการทำงานยาวเหยียด ขึ้นเวทีเรียกเสียงฮือฮาด้วย อาทิ นายสมพร ใช้บางยาง, นายอำนวย พิณสุวรรณ, นางสาวปรินดา ปาลาเร่ และนายฉัตรเพชร ครุอำโพธิ์
ทั้งหมดได้ขึ้นเวทีชูนโยบายเด่น 5 ด้านหลัก และนโยบายรองอีกเกือบ 35 นโยบาย
ไฮไลต์สำคัญคือการขึ้นเวทีของ “จิ้ม ชวนชื่น” กับ “แฮ๊ค ชวนชื่น” นักแสดงตลกชื่อดัง เพื่อนเก่าของนายสุพิศที่คบหากันมากว่า 20 ปี ท่ามกลางประชาชนที่ไปรวมฟังปราศรัยกว่า 5,000 คน
การหาเสียงของนายสุพิศบางเวที ได้ประกาศวิสัยทัศน์การพัฒนา 4 อำเภอรอยต่อของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ อ.จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการค้า ด้วยการพัฒนาด่านชายแดนไทย-มาเลเซียให้มีความพร้อมครบวงจร ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบโลจิสติกส์ และพื้นที่สำหรับการค้าขายระหว่างประเทศ เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค
@@ “นายกแบน” ลั่นไม่เน้นสร้างถนน แต่เน้นปากท้อง
ที่ลานอเนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา ทีม “สงขลาเข้มแข็ง” นำโดย “นายก แบน” ประสงค์ บริรักษ์ ได้เปิดเวทีปราศรัยหาเสียง โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า งบประมาณของ อบจ.สงขลา ปีละ กว่า 1,600 ล้านบาท มีการนำไปสร้างถนนกว่า 800 ล้านบาท เพื่อตอบสนองนายทุนที่มาคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จาก อบจ.
ฉะนั้นหากตนได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน จะเข้าตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไปบ้าง เพื่อนำมาส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
“เราไม่เน้นทำถนน แต่เน้นเรื่องปากท้อง” นายก แบน ประกาศ พร้อมย้ำว่าพวกตนไม่ซื้อเสียง จึงไม่เข้าไปถอนทุน
@@ “สส.กาย” ขึ้นเวทีช่วย “นิรันดร์” พรรคส้ม
ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา อ.เมืองสงขลา นายนิรันดร์ จินดานาค ผู้สมัครนายก อบจ.จากพรรคประชาชน เปิดเวทีปราศรัยหาเสียง โดยมี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ไปร่วมขึ้นเวที ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง
นายณัฐชา ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทีมงานพรรคประชาชนไปช่วยกันทำ ไปช่วยกันแบ่งเบาภาระ ไม่ใช่ไปช่วยกันแบ่งเค้ก อยากให้พี่น้องประชาชนดูแผ่นพับนโยบายของพรรค แล้วลองจินตนาการดูว่า ถ้าสิ่งที่เขียนไว้เหล่านี้เกิดขึ้นจริง จะมีอะไรในชีวิตเปลี่ยนไปบ้าง สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของเราได้หรือไม่ สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของลูกหลานเราได้หรือไม่
ถ้าทำได้ง่ายนิดเดียว วันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้ มาลงทุน ร่วมหุ้นไปด้วยกัน ด้วยการออกไปคูหา กาเลือกนายก อบจ. และ ส.อบจ.จากพรรคประชาชน
@@ ผลนิด้าโพล “สุพิศ” นำ “นิรันดร์ – ประสงค์”
ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ใครมีโอกาสได้เป็นนายก อบจ. สงขลา” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 14-15 ม.ค.68 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งในจังหวัดสงขลา กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 736 หน่วยตัวอย่าง
ผลการสำรวจที่สำคัญ พบว่า บุคคลที่ประชาชนกลุ่มตัวอย่างจะสนับสนุนให้เป็นนายก อบจ.สงขลา
อันดับ 1 ร้อยละ 26.36 ระบุว่าเป็น นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม (ทีมสงขลาพลังใหม่)
อันดับ 2 ร้อยละ 25.54 ระบุว่า ยังไม่ตัดสินใจใด ๆ
อันดับ 3 ร้อยละ 16.44 ระบุว่าเป็น นายนิรันดร์ จินดานาค (พรรคประชาชน)
อันดับ 4 ร้อยละ 14.13 ระบุว่า เป็น นายประสงค์ บริรักษ์ (ทีมสงขลาเข้มแข็ง)