
การลงพื้นที่ชายแดนใต้ครั้งแรกของ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ในหมวกของ “รักษาราชการแทน รมว.กลาโหม” แทนที่จะสร้างความมั่นใจในภารกิจดับไฟใต้ให้เกิดขึ้น กลับกลายเป็นการทำให้ความไม่เชื่อมั่นพุ่งสูงขึ้นมากกว่า
โดยเฉพาะการพูดในห้องประชุม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มีสาระสำคัญ 2 เรื่อง คือ
1.ความไม่มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบภารกิจดูแลพื้นที่ที่ทหารทำอยู่ ให้กับฝ่ายพลเรือนที่นำโดยกระทรวงมหาดไทย โดยใช้กำลังของ อส. หรือ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ได้ทันตามแผนที่กำหนดไว้ในปี 2570 หรือไม่
2.อายุรัฐบาลชุดนี้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน เพราะมีการพูดว่าอาจจะอยู่ได้แค่ 2-3 เดือน หากอยู่นานถือว่าโชคดี
อ่านประกอบ : อยู่นานคือโชคดี! “บิ๊กเล็ก”บุกปัตตานี ปลอบทหารไม่รู้ได้ทำงานกี่เดือน
เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นขึ้นมา มีการตรวจสอบกันว่า พล.อ.ณัฐพล พูดจริงตามที่เป็นข่าวเลยหรือไม่ เพราะสื่อมวลชนก็ไม่ได้เข้าไปฟังเอง เป็นการประชุมวงปิดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เท่านั้น
ปรากฏแหล่งข่าวยืนยันว่า “บิ๊กเล็ก” พูดจริง แต่เรื่องอายุของรัฐบาลชุดนี้ เป็นแนว “ทีเล่นทีจริง”
ไม่ว่าจะพูดด้วยอารมณ์ไหน ก็สะท้อนความจริงด้านหนึ่งว่า อนาคตของรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีความแน่นอนเอาเสียเลย
@@ แทงกั๊ก 37 อำเภอไม่ปลอดภัย ทหารก็ดูแลต่อ

ประเด็นที่ต้องตรวจสอบกันต่อคือ ภารกิจการส่งมอบพื้นที่ให้ อส. ดูแลแทนทหาร ที่ พล.อ.ณัฐพล พูดในห้องประชุมถึงขนาดว่า “ยังมองไม่เห็นความชัดเจนว่าจะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กับทางมหาดไทยได้หรือไม่”
เพราะประเด็นนี้ แหล่งข่าวไม่ได้บอกว่า “พูดทีเล่นทีจริง” จึงน่าจะพูดจริง และหมายความตามที่พูดจริงๆ
แต่ทว่า เมื่อออกมาจากห้องประชุม เมื่อวันพุธที่ 16 ก.ค.68 “บิ๊กเล็ก” ไปทำกิจกรรมอีกหลายอย่าง และให้สัมภาษณ์เรื่องเดียวกันนี้ แต่ไม่เหมือนกับที่พูดในห้องประชุม
- ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมว่า “ปัจจุบันกำลังเตรียมความพร้อมกันอย่างดี และคาดว่าภายในปี 2570 จะมีความพร้อมในระดับหนึ่ง (ในการส่งมอบพื้นที่) แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีการประเมินความพร้อมกันอีกครั้งว่าสามารถส่งมอบพื้นที่ให้กระทรวงมหาดไทยได้หรือไม่”
- ปัจจัยชี้วัดอยู่ที่การดูแลให้เป็น “พื้นที่ปลอดภัย” หาก 37 อำเภอในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ก็แสดงถึงความพร้อมในการส่งมอบพื้นที่ได้
- จะต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นความปลอดภัยแบบปกติ หรือปลอดภัยในแบบที่สามารถควบคุมได้ เพื่อส่งมอบพื้นที่ต่อไป จึงต้องเร่งรัดหน่วยงานฝ่ายปกครองและภาคส่วนอื่นๆ ในการเตรียมความพร้อม
- ยืนยันว่าทหารไม่ได้ทอดทิ้งพื้นที่ เพราะหากยังไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นใจ ก็จะดูแลพื้นที่ต่อไป แต่หากประเมินแล้วว่า 37 อำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความปลอดภัย ก็จะส่งมอบพื้นที่ให้กับกระทรวงมหาดไทยดูแล โดยจะมีการติดตามเป็นระยะ และอาจจะมีการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมอย่างน้อยทุก 2-3 เดือน
- ได้พูดคุยกับทางจังหวัดว่า ให้ฝ่ายปกครองมีกลไก “การข่าว” ของตนเอง ไม่ใช่เฉพาะหน่วยงานทางทหารเท่านั้น เพื่อจะสามารถดูแลพื้นที่ได้ โดยเฉพาะการแจ้งเตือนก่อนเกิดเหตุได้บ้าง
@@ ขายฝัน ไม่มีทหารตั้งด่าน - ถือปืน

จากนั้น พล.อ.ณัฐพล ไปพบประชาชนที่วัดตานีนรสโมสร อ.เมือง จ.ปัตตานี และยังพูดเชิงตั้งความหวังอีกตอนหนึ่ง แบบนี้
- ขอให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ต้องกังวล เพราะมีฝ่ายความมั่นคงดูแลสถานการณ์ โดยมีเป้าหมายคลี่คลายสถานการณ์เพื่อส่งมอบพื้นที่ปลอดภัยให้กับกระทรวงมหาดไทยได้ภายในปี 2570
"คาดหวังว่า ในอนาคตจะไม่มีทหารมาถือปืนตั้งด่าน เพราะแสดงให้เห็นว่าสภาพพื้นที่เข้าสู่ภาวะปกติ"
นอกจากวัดตานีนรสโมสร “บิ๊กเล็ก” ยังเดินทางเข้าพบ นายอาฮามิดกาแม แวมูซอ รองประธานฝ่ายบริหารและการจัดการมัสยิด สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี พร้อมกับคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด พร้อมย้ำเหมือนที่พูดกับพี่น้องไทยพุทธ
- นโยบายรัฐบาลแก้ปัญหาชายแดนใต้ หลีกเลี่ยงความรุนแรง หวังแผนส่งมอบพื้นที่สำเร็จภายในปี 2570 คืนความปกติสุข ไม่มีทหารถือปืนตั้งด่าน
@@ ลุยพูดคุยระดับพื้นที่ - ไปได้ดีไม่ต้องมีระดับชาติ!

พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวอีกตอนหนึ่งระหว่างการให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า เป็นเรื่องในระดับรัฐบาลที่จะพูดคุยกัน แต่เท่าที่รับทราบจากรองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ขณะนี้กำลังพิจารณาอยู่ (น่าจะหมายถึงพิจารณาตัวบุคคล)
แต่ก็ได้เน้นย้ำกับแม่ทัพภาคที่ 4 ว่า กลไกการพูดคุยมี 2 ระดับ คือระดับพื้นที่ กับระดับประเทศ ดังนั้นในขณะที่การตั้งคณะพูดคุยสันติสุขระดับประเทศยังไม่เกิดขึ้น ก็ขอให้ระดับพื้นที่ดำเนินการ เพราะหากการพูดคุยระดับพื้นที่ประสบความสำเร็จ ก็อาจไม่ต้องใช้การพูดคุยระดับประเทศด้วยซ้ำ จึงให้แม่ทัพภาคที่ 4 เดินหน้าพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ต่อไป และทำให้ได้มากที่สุด
@@ เปิดรายงานลับ มหาดไทยไม่พร้อมรับดูแล จชต.แทนทหาร
เป็นที่น่าสังเกตว่า การส่งมอบพื้นที่ชายแดนใต้ให้ฝ่ายปกครอง นำโดยกระทรวงมหาดไทย ดูแลด้านความปลอดภัยและความมั่นคงแทนทหารนั้น เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ ที่กองทัพและ สมช. หรือสภาความมั่นคงแห่งชาติ วางเอาไว้ ภายในปี 2570
หมุดหมายนี้สะท้อนถึงความสำเร็จ และความหวังในภารกิจดับไฟใต้ ว่าการแก้ไขปัญหาจะไม่ยือเยื้อยาวนานเกินไปเหมือนไม่มีวันจบ แต่ภารกิจนี้มีจุดจบ คือ การส่งมอบพื้นที่ปลอดภัยให้หน่วยงานฝ่ายพลเรือนรับผิดชอบแทนกองทัพ
และอาจขยายผลไปถึงการยกเลิกการประกาศใช้กฎหมายพิเศษ ทั้งกฎอัยการศึก และ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯด้วย
เรื่องนี้มีการแถลงข่าวใหญ่โต เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ปีที่แล้ว คือ ปี 67 โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับ ผู้บัญชาการทหารบก ทำพิธีลงนามในบันทึกความตกลง หรือ MOU ร่วมกันเลยทีเดียว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีรายงานลับของฝ่ายความมั่นคง ชี้ชัดว่า โอกาสของการส่งมอบพื้นที่ให้ทันภายในปี 2570 นั้น เป็นไปได้น้อยมาก โดยมีเหตุผลคือ
- สถานการณ์ความไม่สงบยังคงรุนแรง ขยายวง และเกินศักยภาพที่ อส.จะรับมือได้
- อส.ยังไม่มีความพร้อมด้านกำลังพล ทั้งในแง่ของการคัดเลือกกำลังพลเข้ารับการฝึก, การเสริมสมรรถนะ, การเสริมขีดความสามารถทางยุทธวิธี ทั้งหมดนี้ยังไม่มีศักยภาพเทียบเท่าทหารได้เลย
- นอกจากนั้น องค์ประกอบทางกายภาพอื่นๆ ที่จะบังคับบัญชากองกำลัง อส. เช่น อาคาร สถานที่ ฐานปฏิบัติการ ยังไม่มีความพร้อมเลย
- งบประมาณที่จะนำมาสนับสนุน มีการตั้งงบ หรือจัดทำแผนงบประมาณเอาไว้หรือยัง โดยเฉพาะความต่อเนื่อง ซึ่งต้องทำเป็นแผนระยะยาว เช่น งบหาข่าว งบลาดตระเวน ซึ่งต้องมีการคำนวณเทียบกับกำลังพลที่จะใช้จริง และกำลังพลสำรอง สำหรับสับเปลี่ยนหมุนเวียน
การเตรียมการทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทางและประสบการณ์ในงานด้านความมั่นคงสูงมาก แต่หน่วยงานมหาดไทยยังไม่มีความพร้อมมากพอ จึงทำให้คาดการณ์ได้ว่า ปี 2570 จะยังไม่สามารถรับโอนพื้นที่ชายแดนใต้จากฝ่ายทหารไปดูแลได้ทั้งหมด อาจต้องแก้ปัญหาในลักษณะทำเป็น “เฟส” หรือทำทีละขั้น ทีละพื้นที่แล้วขยายออกไป คล้ายๆ กับการทยอยเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ บางอำเภอ
