
จากคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ 3736/2568 ลงวันที่ 10 ธ.ค.68 ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ระดับปลัดจังหวัดและผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง จำนวน 31 ราย ให้ไปปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งในวันที่ 22 ธ.ค.68
หนึ่งในนั้นปรากฏชื่อ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู ให้ไปเป็น ปลัดจังหวัดปัตตานี
ต่อมาได้มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 3751/2568 ลงวันที่ 12 ธ.ค.68 เปลี่ยนแปลงตำแหน่งโยกย้ายที่มีคำสั่งก่อนหน้านี้ จำนวน 2 รายโดยให้ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร ไปเป็น ปลัดจังหวัดภูเก็ต แล้วให้ นายภิรมย์ ชุมนุม ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ไปเป็นปลัดจังหวัดปัตตานี แทน
คำสั่งที่ออกมาสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ทั้งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นที่ได้รับทราบข่าว ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะข่าวจากจังหวัดชายแดนภาคใต้

เพราะ นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร ปลัดจังหวัดภูเก็ตป้ายแดง เดิมเคยรับราชการอยู่ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นข้าราชการฝ่ายปกครองที่มีผลงานเด่นในด้านการปราบปรามยาเสพติดมากมาย ตั้งแต่สมัยเป็นปลัดอำเภอ จนขยับขึ้นมาเป็นนายอำเภอ ก็ยังมีผลงานการปราบปรามยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง
ช่วงที่ดำรงตำแหน่ง นายอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมืองเศรษฐกิจชายแดนที่ใหญ่ที่สุดของสามจังหวัดภาคใต้ตอนล่าง และถือเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติด ปรากฏว่า นายรุ่งเรือง ก็ยังปฏิบัติหน้าที่ปราบรามยาเสพติดจนมีผลงานโดดเด่น ได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น “ครุฑทองคำ” จนเป็นข่าวเกรียวกราว
ทั้งยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติอีกมากมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อาทิ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงยุติธรรม หรือ สำนักงาน ป.ป.ส., สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข
อย่างไรก็ดี ช่วงที่ นายรุ่งเรือง ดำรงตำแหน่งนายอำเภอสุไหงโก-ลก ได้ไปทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่ง ผู้ช่วยเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในราวเดือน เม.ย.65 การปฏิบัติงานของนายรุ่งเรืองเริ่มถูกตั้งคำถาม หลังจากที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้เข้ายึดทรัพย์เครือยาเสพติดของ น.ส.สุริยา สาฆอ จำนวน 6 เป้าหมาย ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยหนึ่งในนั้นมีบ้านของ นายแซม แวดาโอะ ผู้ต้องสงสัย และพบอาวุธปืนทั้งปืนยาว ปืนสั้นกว่า 18 กระบอกที่มีใบอนุญาตถูกต้อง บางส่วนออกและลงนามอนุญาตโดยนายรุ่งเรือง
นอกจากนั้น ในสื่อสังคมออนไลน์ยังปรากฏภาพถ่ายคู่กันระหว่างนายรุ่งเรืองกับนายแซม สมัยเป็นนายอำเภอสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นภาพที่ถูกโพสต์ลงเฟซบุ๊กของนายแซม โดยมีข้อความแสดงความสนิทสนมกันอย่างมาก ถึงขั้นเรียกนายรุ่งเรืองว่า “พี่ชาย”
เหล่านี้ทำให้เกิดคำถามว่า การที่นายแซม ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติด ถูกยึดอายัดทรัพย์โดยสำนักงาน ปปง. เหตุใดจึงสามารถครอบครองอาวุธปืนได้จำนวนมาก และหลายกระบอกก็ได้รับอนุญาตจากนายรุ่งเรือง ช่วงที่ดำรงตำแหน่งนายอำเภอสุไหงโก-ลก จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวในการพิจารณาอนุญาตหรือไม่ และมีความเหมาะสมเพียงใดที่ปัจเจกบุคคลรายหนึ่ง สามารถครอบครองอาวุธปืนได้หลายสิบกระบอก มีการตรวจคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบหรือไม่ เพราะนายแซม เคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดียาเสพติดมาก่อนแล้ว แม้จะไม่ได้ถูกดำเนินคดีอาญาก็ตาม

ต่อมา นายรุ่งเรือง ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงกับทาง ศูนย์ข่าวภาคใต้ สำนักข่าวอิศรา ว่า สมัยเป็นนายอำเภอได้สั่งให้มีการตรวจสอบข้อมูลอาวุธปืนของ นายแซม แวดาโอะ เนื่องจากพบพฤติกรรมที่อาจเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จากการปฏิบัติการตรวจค้นบ้านของนายแซม หลังรับแจ้งมีการมั่วสุมยาเสพติดของกลุ่มวัยรุ่น จึงถือว่าขาดคุณสมบัติตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และได้สั่งเพิกถอนใบอนุญาตการครอบครองอาวุธปืนของนายแซมไปแล้วตั้งแต่เดือน ส.ค.64 ก่อนที่จะปรากฏเป็นข่าวถูกค้นบ้านในปี 65 และพบอาวุธปืนในครอบครอง 18 กระบอก
ส่วนประเด็นความสนิทสนมมักคุ้นกับนายแซมนั้น นายรุ่งเรือง ชี้แจงในขณะนั้นว่า ตนเป็นนายอำเภอของทุกคน เมื่อมีคนขอถ่ายรูปก็อนุญาต แต่ไม่ได้สนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับนายแซม แค่เคยเล่นฟุตบอลในทีมเดียวกัน (ทีม FC นายอำเภอ) และแม้จะรู้จักกัน แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนกับนายแซม
หลังมีข่าวพาดพิงในครั้งนั้น นายรุ่งเรืองก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ เพิ่มเติมอีก และได้ฟ้องร้องบุคคลที่แชร์ข้อมูลกล่าวหาเขาทางสื่อสังคมออนไลน์
แม้เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนายรุ่งเรืองจะเริ่มสงบลงหลังการชี้แจง แต่แล้วจู่ๆ ในช่วงค่ำของวันที่ 30 ส.ค.65 มีข่าวว่า นายรุ่งเรือง พร้อมทนายความได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ หลังตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.528/2565 ลงวันที่ 17 ส.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันจัดให้มีการเล่นหรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่น ซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, ร่วมกันฟอกเงิน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน”
โดย นายรุ่งเรือง ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และได้รับการปล่อยช่วยคราว ด้วยการยื่นหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินสด จำนวน 200,000 บาท เมื่อวันที่ 31 ส.ค.65 ซึ่งในวันเดียวกันนั้น นายธนาคม จงจิระ อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีคำสั่งย้าย นายรุ่งเรือง จากตำแหน่งนายอำเภอสุไหงโก-ลก รักษาการผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง
ในช่วงปี 66–67 แม้นายรุ่งเรืองจะมีชื่อโยกย้ายไปเป็นนายอำเภอที่ อ.ยางสีสุราช จ.มหาสารคาม, อ.ศรีนคร จ.สุโขทัย และ อ.วังยาง จ.นครพนม แต่ตำแหน่งจริงก็ยังคงช่วยราชการที่สำนักบริหารการปกครองท้องที่ กรมการปกครอง ท่ามกลางความงุนงงจากบางฝ่ายที่ติดตามข่าวว่า ข้าราชการที่โดนสั่งย้าย และถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องการออกใบอนุญาตครอบครองอาวุธปืนให้กับบุคคลที่อาจขาดคุณสมบัติ เหตุใดจึงยังสามารถโยกย้ายไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอได้หลายท้องที่ และไม่ได้รับผลกระทบจากการถูกสั่งย้ายเลยแม้แต่น้อย
มีรายงานจากกรมการปกครองว่า มีการดำเนินการกรณี นายรุ่งเรือง ออกใบอนุญาต ครอบครองอาวุธปืน (ป.3) โดยไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งกรมการปกครองได้มีคำสั่งลงโทษทางวินัยอย่างไม่ร้ายแรง กล่าวคือ ลงโทษลดเงินเดือน ส่วนคดีอาญาที่นายรุ่งเรืองตกเป็นผู้ต้องหาคดีจัดให้มีการเล่นการพนันและฟอกเงินนั้น คดีถึงที่สุดแล้ว เนื่องจากอัยการมีคำสั่ง “ไม่ฟ้อง”
ต่อมาในปี 68 นายรุ่งเรืองได้ไปดำรงตำแหน่ง นายอำเภอนากลาง จ.หนองบัวลำภู และก็ยังคงเดินหน้าทำงานปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ อ.นากลาง ในฐานะนายอำเภอมือปราบยาเสพติด จนล่าสุดได้รับการแต่งตั้งโยกย้าย ขยับขึ้นมาเป็นปลัดจังหวัดภูเก็ต
ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.68 ก่อนที่จะมีคำสั่งโยกย้ายปลัดจังหวัดและผู้ตรวจราชการออกมานั้น นายรุ่งเรืองได้ปรากฏตัวร่วมอยู่ในการลงพื้นที่ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ราษฎร ซึ่งได้รับความเสียหายหรือได้รับผลกระทบจากการดำเนินการตามนโยบายของรัฐด้านที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ พ.ศ. ... หรือ “ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมป่าทับคน” ที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส
ทำให้มีข่าวว่า นายรุ่งเรือง จะได้ย้ายกลับมาปฏิบัติหน้าที่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง จนคำสั่งโยกย้ายแรกออกมามีชื่อนายรุ่งเรือง ดำรงตำแหน่งปลัดจังหวัดปัตตานี ตามที่มีการคาดการณ์กันไว้ แต่ 2 วันต่อมากลับมีคำสั่งเปลี่ยนสลับให้นายรุ่งเรืองไปดำรงตำแหน่งปลัดจังหวัดภูเก็ต และย้ายสลับ นายภิรมย์ ชุมนุม ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง มาดำรงตำแหน่งปลัดจังหวัดปัตตานีแทน ดังกล่าว
-------------------------
อ่านประกอบ
เปิดประวัติ “รุ่งเรือง ธิมาบุตร” อดีต นอภ.มือปราบยา โดนข้อหาเอี่ยวพนันออนไลน์
เด้งแล้ว! “รุ่งเรือง ธิมาบุตร” เข้ากรุกรมการปกครอง
