
ความรุนแรงของเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงตั้งแต่ปักษ์หลังของเดือน เม.ย.68 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมุ่งเป้ากระทำต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะสามเณร ชาวบ้านไทยพุทธในพื้นที่ ซึ่งถือว่าเป็น “กลุ่มอ่อนไหว – เปราะบาง” จนหลายฝ่ายออกมาประณาม
แม้แต่พี่น้องมุสลิมและองค์กรของศาสนาอิสลามก็ออกมาร่วมต่อต้านและตำหนิการกระทำของคนร้าย
แต่ดูเหมือนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะไม่สนใจ ยังคงเดินหน้าก่อเหตุใช้ความรุนแรงกับกลุ่มเป้าหมายอ่อนแออย่างต่อเนื่องต่อไป จนเป็นที่มาของ 2 เหตุการณ์ในวันที่ 2 พ.ค.68 ซึ่งมีชาวบ้านไทยพุทธเสียชีวิตรวมกันถึง 4 ราย และบาดเจ็บอีก 3 ราย
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในช่วงบ่าย คนร้ายก่อเหตุยิงหญิงชราวัย 76 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการตาบอด กำลังนั่งซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ลูกชายกลับจากไปหาหมอที่โรงพยาบาลจะแนะ จ.นราธิวาส คมกระสุนถูกหญิงชราเสียชีวิต และลูกชายบาดเจ็บสาหัส
เหตุการณ์ที่ 2 เกิดขึ้นในค่ำวันเดียวกัน คนร้าย 6 คน ขับขี่มอเตอร์ไซค์ไปในพื้นที่ชุมชนไทยพุทธใน ต.โฆษิต อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 กราดยิงใส่บ้านเรือน 3 หลัง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย หนึ่งในนั้นเป็นเด็กผู้หญิงวัย 9 ขวบ และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย
ถือว่าเป็นกระทำที่โหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง ซึ่งสร้างความสะเทือนใจและหดหู่ใจต่อผู้ที่ได้รับทราบข่าวเป็นอย่างมาก ทำให้หลายฝ่ายทุกภาคส่วนต่างออกมาร่วมกันประณามผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง
เริ่มจาก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) ที่ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมประณามการกระทำอันโหดเหี้ยมและไร้มนุษยธรรมอย่างถึงที่สุด
พร้อมกล่าวย้ำว่า “ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันต่อสู้ โดยอาศัยองค์ประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน”
ทั้งยังสั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ เร่งติดตามสืบสวนและจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
@@ สมช.ส่งสารจี้กลุ่มป่วนใต้ยุติก่อเหตุ

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุต่อผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า ขอประณามการกระทำที่ไร้อารยะดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมาย และบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและปราศจากซึ่งความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งล้วนแต่บั่นทอนบรรยากาศแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ รวมทั้งแสดงถึงความไม่จริงใจอันเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้ ทาง สมช. ขอส่งสารไปถึงกลุ่มขบวนการและผู้ก่อเหตุรุนแรงให้ยุติการก่อเหตุร้ายที่ปราศจากความรับผิดชอบนี้ในทันที พร้อมทั้งขอยืนยันว่า การก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ จะไม่มีทางช่วยให้การแสวงหาทางออกทางการเมืองเกิดขึ้นได้เลย
@@ กสม.เรียกร้องหยุดปฏิบัติการป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม

คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุรุนแรงต่อประชาชนกลุ่มเปราะบาง เป็นเหตุให้เด็ก คนชรา และผู้พิการ เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส
กสม. ขอประณามการกระทำอันโหดร้ายและอุกอาจของกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่จงใจฆ่าและทำร้ายประชาชนที่มีทั้งเด็ก ผู้หญิง คนชรา และผู้พิการ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ไม่อาจต่อสู้และคุ้มครองตนเองได้ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปยังครอบครัวและญาติมิตรของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ
พร้อมทั้งย้ำว่า การใช้ความรุนแรงจนเป็นเหตุให้ประชาชนได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และเรียกร้องให้ผู้ไม่หวังดียุติปฏิบัติการอันโหดร้าย ป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรม และขัดต่อหลักการอันดีของทุกศาสนา โดยขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามและส่งเสียงที่แสดงถึงการไม่ยอมรับพฤติกรรมที่โหดร้ายและการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว เพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยและสวัสดิภาพให้แก่ประชาชน รวมทั้งเยียวยาความเสียหายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
@@ “ช่อ” เร่งรัฐเดินหน้าพูดคุยสันติภาพ
น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า และกรรมาธิการวิสามัญสันติภาพชายแดนภาคใต้ฯ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ที่กลับมาปะทุรุนแรงต่อเนื่องว่า ในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ไม่ใช่แค่มีจำนวนเหตุมากขึ้น แต่เป้าหมายได้เปลี่ยนไปสู่ soft target หรือเป้าหมายอ่อนที่เป็นพลเรือน ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นมานานหลายปีแล้ว ที่ผ่านมาความรุนแรงมักจะพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐ
วันนี้ตนจึงอยู่ที่นี่ด้วยจิตใจที่หดหู่ (อัดคลิปจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้) ขอประณามผู้ก่อเหตุไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด เพราะการก่อความรุนแรง การยั่วยุให้เกิดความรุนแรงต่อกันและกัน ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ในชายแดนภาคใต้ดีขึ้น
“สิ่งที่รัฐบาลควรทำก็คือต้องหนักแน่น ไม่หวั่นไหวต่อการพยายามก่อความรุนแรงเพื่อล้มการเจรจา เพราะถ้าไม่เจรจาก็ไม่มีทางออกอื่นใดนอกจากความรุนแรงที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นนอกจากการประณามผู้ก่อเหตุความรุนแรงแล้ว เราต้องเรียกร้องให้รัฐบาลกลับสู่การเจรจาสันติภาพ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ ลดความรุนแรง และคืนสันติภาพให้เกิดขึ้นในชายแดนใต้ได้โดยเร็ว”
@@ จวก BRN ฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำลายการสร้างสันติภาพ

ขณะที่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงกรณีเดียวกันนี้ โดยระบุในตอนหนึ่งว่า การฆ่าผู้บริสุทธิ์แเล้วอ้างว่าเป็นการเรียกร้องสันติภาพ BRN กำลังทำลายการสร้างสันติภาพ อ้างว่าเป็นนักรบ แต่ฆ่าเด็ก ผู้พิการ และคนชรา ทำให้วาทกรรมที่ถูกดูถูกเป็นจริง ความรุนแรงจะไม่นำมาซึ่งสันติภาพ คนในพื้นที่หวาดระแวงและกลัว
“มันจะไม่มีใครยอมรับคุณ” สส.พรรคเป็นธรรม ระบุ
และว่า ถ้า BRN เป็นผู้ก่อเหตุร้ายที่เกิดขึ้นเวลานี้ ต้องออกมารับผิดชอบ หากเป็นพวกของตัวเอง ต้องเอาคนก่อเหตุออกมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะนี่ไม่ใช่การต่อสู้ที่จะนำมาซึ่งการเจรจาและสันติภาพ ขณะที่รัฐบาลต้องไม่นิ่งเฉยกับสันติภาพชายแดนใต้
“หมดเวลาแล้วครับ ทั้งรัฐ ทั้งกลุ่มบีอาร์เอ็น” เขาย้ำ
“ผมขอประณามการใช้ความรุนแรงอย่างไร้มนุษยธรรมกับการก่อเหตุยิงเด็ก 9 ขวบ คนชรา และคนพิการ ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสีย ขอเรียกร้องให้หยุดก่อความรุนแรง วางอาวุธ มอบตัว แล้วเข้าสู่กระบวนการสันติภาพอย่างเร่งด่วน เรามิอาจสูญเสียได้อีกแล้ว”
@@ “แพรรี่” ร่วมประณามกลุ่มป่วนใต้ฆ่าเด็ก - เณร - คนชรา

ด้าน “แพรรี่” ไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระนักเทศน์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวร่วมประณามคนร้ายที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ ไม่เว้นแม้แต่เด็กและสามเณรว่า “เรียกร้องสันติสุขด้วยฆ่าเณรที่กำลังเดินบิณฑบาต ฆ่าเด็ก 9 ขวบที่นั่งดูทีวีในบ้าน ฆ่าคนแก่ตาบอดที่กำลังไปหาหมอหรอคะ #ความปลอดภัยในชีวิตอยู่ที่ไหน”
ทั้งยังเขียนในคอมเมนต์เพิ่มเติมอีกว่า ดิฉันฝากพี่น้องมุสลิมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วยแยกโจรถ่อยออกจากชาวมุสลิมด้วยนะคะ ช่วยสอดส่องกดดัน ช่วยจัดการ ช่วยส่งเสียงแทนคนพุทธกลุ่มน้อย (หรือแม้แต่คนมุสลิมเอง) ที่ถูกทำร้ายเข่นฆ่า ไม่ว่าจะโดยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ช่วยแยกความเห็นผิดออกจากความคิดของพวกหัวรุนแรงบางกลุ่มที่แอบอ้างศาสนาด้วยนะคะ ดิฉันเคยลงไปทำงานในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้สมัยเป็นพระ เคยไปนั่งฉันข้าวที่บ้านคนมุสลิมก็ทำมาแล้ว คนมุสลิมจำนวนไม่น้อยน่ารักนะคะ แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้หรอกค่ะว่ามีคนมุสลิมหรือคนที่แอบอ้างในนามของความเป็นมุสลิมบางกลุ่ม ที่มีแนวความคิดสุดโต่ง ที่นิยมความรุนแรงและใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านตาดำๆ เพื่อเป็นเครื่องต่อรองกับรัฐ”
@@ พรรคส้มส่งสารกลุ่มป่วนใต้ “หยุดฆ่า หันมารับผิดชอบ”

พรรคประชาชน คืออีก 1 องค์กรที่ออกแถลงการณ์ในครั้งนี้ ในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 5 พ.ค.68 โดยเขียนในเชิงส่งสารถึงผู้เกี่ยวข้องฝ่ายต่างๆ
- ถึงขบวนการที่คิดว่ากำลังต่อสู้เพื่อพี่น้องมลายูมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร องค์กรไหน การสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์นั้น นอกจากจะขัดต่อทั้งหลักศาสนา หลักกฎหมาย และหลักการมนุษยธรรมระหว่างประเทศแล้ว ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการสร้างสันติภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
พรรคประชาชนเรียกร้องให้หยุดการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์โดยทันที และการยุติความรุนแรงดังกล่าวจะเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการพูดคุยเพื่อสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขบวนการต่อสู้ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่านี้ และต้องแสดงออกให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าพร้อมจะใช้กระบวนการทางการเมืองในการแก้ปัญหา มิใช่ใช้กำลังอาวุธ
- ถึงรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ประสบการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่า ในช่วงที่กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพมีความคืบหน้าและมีทิศทางที่ชัดเจน สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น รัฐบาลต้องตระหนักว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความรุนแรงกลับมาปะทุขึ้นอีกในระลอกล่าสุด เกิดจากความไม่ชัดเจนในยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ว่าจะมีแนวทางในการสร้างความยุติธรรม นิติรัฐ และสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร โดยเฉพาะการปล่อยให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพหยุดชะงักมานานเกือบ 1 ปีโดยไร้ทิศทาง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลควรกลับมาสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพโดยเร็ว และในกระบวนการนั้นต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของทุกฝ่ายด้วย โดยจัดเวทีคู่ขนาน ทำให้พี่น้องทั้งชาวพุทธและมุสลิมมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของกระบวนการสันติภาพนี้ไปด้วยกัน
