
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดข้อมูลคดียิง อส.ชคต.ตลิ่งชัน บันนังสตา เป้าหมายคนเดียว แต่มีผู้ร่วมก่อเหตุถึง 12 ราย ทั้งกู้ภัย เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า กลุ่มหน้าขาว จับได้แล้ว 5 ตายไป 1 ยังหลบหนีอีก 6 ด้าน JASAD ยื่นหนังสือ กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จี้ตรวจสอบการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ อ้างปีเดียวมีชาวบ้านถูกควบคุมตัวแล้ว 129 ราย
พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) แถลงข่าวชี้แจงความคืบหน้าการคลี่คลายคดีผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบยิงเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา คือ นายหมู่เอก อิสมาแอ นิวา เจ้าหน้าที่ ชคต.ตลิ่งชัน ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ออกไปซื้อของที่ร้านขายของชำ และถูกกลุ่มคนร้ายขบวนการบีอาร์เอ็นใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยก่อเหตุอย่างอุกอาจใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กตลิ่งชัน บ้านตะบิงติงงี หมู่ 1 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา หลังจากก่อเหตุคนร้ายยังได้ปล้นรถกระบะของชาวบ้านในพื้นที่เพื่อใช้หลบหนี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.68 ที่ผ่านมา
อ่านประกอบ : ศรีบรรพตระอุ! ดักบึ้มทหารพรานชุดจรยุทธดับ 1 เจ็บเพียบ
จากการสืบสวนและบังคับใช้กฎหมาย เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้หลายราย ซึ่งทั้งหมดให้การซัดทอดถึงผู้ร่วมขบวนการและรายละเอียดของแผนการก่อเหตุที่ซับซ้อน โดยมีบุคคลหลากหลายอาชีพเข้าร่วม ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าฯ และบุคคลที่ไม่มีประวัติอาชญากรรม เพื่ออำนวยความสะดวกในการก่อเหตุและหลบหนี
ผลการสอบสวนระบุว่า มีผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด 12 ราย โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว 5 ราย คาดว่าเสียชีวิตจากการยิงกันเอง 1 ราย และยังคงหลบหนีอีก 6 ราย

พ.อ.เกียรติศักดิ์ กล่าวถึงกรณีสื่อออนไลน์บางสำนักพยายามบิดเบือนข้อมูลและกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยย้ำว่า การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย มีความโปร่งใส และมั่นใจในพยานหลักฐานที่รัดกุม พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลที่ถูกบิดเบือนเพื่อสร้างความเข้าใจผิดและความแตกแยกในพื้นที่
“มีข้อมูลที่ได้จากการซักถามผู้ต้องสงสัยว่า ผู้ร่วมขบวนการมักใช้เครือข่ายแนวร่วมในการสร้างข่าวบิดเบือน เพื่อด้อยค่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ สร้างความเกลียดชัง และพยายามผลักดันให้เกิดแนวคิดในการแบ่งแยกดินแดนในที่สุด” โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ระบุ
@@ เปิดตัวเลข 129 ราย ถูกคุมตัวโดย กม.พิเศษ

อีกด้านหนึ่ง เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากกฎหมายพิเศษ (JASAD) ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เพื่อขอให้ตรวจสอบการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเครือข่ายฯ ได้เปิดเผยข้อมูลว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 17 ส.ค.68 มีประชาชนถูกควบคุมตัวด้วยกฎหมายพิเศษรวม 129 คน แยกเป็น
จ.ปัตตานี 40 คน
จ.นราธิวาส 42 คน
จ.ยะลา 40 คน
และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา 4 คน
JASAD ยังอ้างข้อมูลว่า ในจำนวนผู้ถูกควบคุมตัว มีบางรายร้องเรียนว่าถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ด้วย
โดยการเคลื่อนไหวของเครือข่าย JASAD เป็นการเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจของหน่วยงานความมั่นคง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเป็นธรรมให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง
