
คนปลายด้ามขวานบ่นพึม สองปีรัฐบาลเพื่อไทยทำกระบวนการพูดคุยดับไฟใต้หยุดชะงัก แต่สิ่งที่รุดหน้ากลับกลายเป็น “กระท่อม-กัญชาเสรี” ท้อใจเด็กเยาวชนเดินถือกันเกร่อ เพราะไม่ผิดกฎหมาย แถมเศรษฐกิจย่ำแย่หนัก
ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังรัฐบาลพรรคเพื่อไทยปิดฉากไป 2 ชุด จากรัฐบาลเศรษฐา จนถึงรัฐบาลแพทองธาร โดยคนในพื้นที่บ่นกันพึมว่าปัญหาเก่าก็ไม่ได้ถูกแก้ ทั้งเศรษฐกิจ ยาเสพติด ส่วนปัญหาความไม่สงบก็แย่กว่าเดิม ซ้ำไม่มีความคืบหน้าเรื่องโต๊ะพูดคุยสันติสุข ทั้งๆ ที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เคยลงพื้นที่ และให้คำมั่นว่าปีนี้จะมีการตั้งคณะพูดคุยดับไฟใต้ และปัญหาจะจบอย่างบริบูรณ์ในปีหน้า
ร้อยตำรวจเอก เจษฎาวุธ เพ็งลาย ชาวไทยพุทธใน จ.สงขลา ซึ่งมีบทบาทขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่า สถานการณ์ไฟใต้ในปัจจุบันเหมือนมีกระจกมากั้นตรงกลาง ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างแท้จริง การที่รัฐบาลยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขอย่างเป็นทางการ ทำให้การแก้ไขปัญหาหยุดชะงักและไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าทุกความขัดแย้งจะจบลงได้ด้วยการพูดคุยและการเจรจาเท่านั้น
อีกหนึ่งปัญหาที่คนชายแดนใต้รู้สึกกันมาก คือ การแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะพืชที่ใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมายแล้ว อย่าง กระท่อม และกัญชา เนื่องจากขัดกับหลักอิสลาม ทั้งยังเชื่อมโยงกับปัญหาความมั่นคง ในเรื่องของ “น้ำต้มใบกระท่อม” ที่นำไปผสมสารเคมีและสารเสพติดจนกลายเป็น “สี่คูณร้อย” ถูกนำไปใช้ดื่มปลุกใจก่อนออกปฏิบัติการก่อความไม่สงบ
รัชดา เมาะมุสอ ชาวอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อำเภอรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีปัญหาความไม่สงบ บอกว่า ในฐานะคนที่เป็นแม่ รู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อการเปิดเสรีใบกระท่อม เพราะทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงยาเสพติดได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากที่เคยต้องแอบกิน ต้องหลบซ่อน ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไปตามตลาดและชุมชน
ขณะที่ในมิติเศรษฐกิจ สถานการณ์ภาพรวมก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการต้องเลิกค้าขาย ทำให้ชาวบ้านต้องตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียแทน สะท้อนว่าปัญหาปากท้องยังไม่ดีขึ้น และพรรคเพื่อไทยก็แก้ไม่ได้จริงๆ
นอกจากน้ำกระท่อม ยังมีปัญหากัญชาเสรี ซึ่งคนในพื้นที่ต่อต้าน แม้จะไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่สองปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ไขให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม แม้แต่กฎหมายควบคุมก็ไม่สามารถผลักดันออกมาได้ มีเพียง พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ลงมาเปิดแคมเปญในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถผลักดันให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติดได้ตามที่ประกาศ
“ทีมข่าวอิศรา” ยังสำรวจความเห็นประชาชนอีกหลายราย เช่น อิสกันดา ตาและ ชาว จ.ยะลา, อับดุลเลาะ ยาโง๊ะ ชาวนราธิวาส และ อิซมีนูดีนา สาและ ชาวปัตตานี ทุกคนพูดตรงกันว่ารู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลทหาร แต่มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อบริหารประเทศจริงๆ กลับมีเพียงภาพที่ดูสวยงาม แต่ชาวบ้านไม่สามารถจับต้องอะไรได้เลย ต้องเผชิญกับสารพัดปัญหา ทั้งราคาสินค้าแพง น้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพง แต่ราคายางพารากับผลไม้กลับตกต่ำอย่างหนัก ซ้ำร้ายปัญหาความไม่สงบก็รุนแรงยิ่งขึ้น
“สุดท้ายแล้วประชาชนในพื้นที่ก็ต้องรับชะตากรรมด้วยตัวเองเหมือนเคย” คนชายแดนใต้สรุปตรงกัน
