
ข่าวสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีมติแต่งตั้ง พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา อดีตเลขาธิการ สมช. เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้คนใหม่ มีกระแสพูดถึงจากผู้คนที่เกี่ยวข้องในแวดวงปัญหาไฟใต้มากพอสมควร
“ทีมข่าวอิศรา” ประมวลรวบรวมจากหลายๆ แหล่ง โดยเฉพาะเสียงจากคนพื้นที่ ทั้งประชาชน ภาคประชาสังคม และเจ้าหน้าที่รัฐ สรุปได้ดังนี้
1. แม้จะเป็นอดีตทหาร แต่ไม่มีภาพ “สายบู๊” มากนัก
- เติบโตมาทางสายยุทธศึกษา การศึกษา
- ตำแหน่งสุดท้ายเลขาฯ สมช.
2.ภาคประชาสังคมขานรับ
- ชื่นชมรัฐบาล ประสบการณ์จะนำพาการพูดคุยให้เห็นผลจับต้องได้
- โชว์ความมุ่งมั่นของภูมิใจไทย เชิญชวนให้เลือกพรรคนี้ต่ออีก 4 ปี เพื่อสานสันติภาพ
3.ความเห็นชาวบ้าน พูดคุยแบบเปิดเผย กลัวระเบิด พูดคุยแบบปิดน่าจะดีกว่า
4.คำถามเรื่องประสบการณ์ และวาระซ่อนเร้น
- การได้รับการยอมรับจากกองทัพ และ กอ.รมน. มีมากน้อยแค่ไหน
- ระยะเวลาสั้นมาก เป็นรัฐบาลแค่ 4 เดือน หากเปลี่ยนรัฐบาลอาจไม่ได้ไปต่อ แต่มีงบลับ 20 ล้านบาทรออยู่
ข้อมูลทั้งหมดนี้ “ทีมข่าวอิศรา” ได้จากการสำรวจปฏิกิริยาและความเห็นจากผู้คน 3 ภาคส่วนหลักในพื้นที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ทหาร ภาคประชาสังคม และชาวบ้านทั่วไป
เสียงสะท้อนมีหลากหลาย ทั้งตอบรับ ชื่นชม และหวาดระแวงว่าการเปิดโต๊ะพูดคุยเจรจาจะนำมาซึ่งความรุนแรงซ้ำซ้อน
@@ ทหารเชียร์ มีภาพ “เป็นกลาง” ไม่ใช่สายเหยี่ยว

เจ้าหน้าที่ทหารนายหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติงานในพื้นที่ วิเคราะห์ถึงปัจจัยที่ทำให้ พล.อ.สมศักดิ์ อาจได้รับการ “ยอมรับ” จากประชาชนมากกว่านายทหารคนอื่นๆ ที่เคยทำหน้าที่หัวหน้าคณะพูดคุยฯ มาก่อน โดยชี้ว่าภาพลักษณ์ของ พล.อ.สมศักดิ์ ไม่ได้ถูกผูกติดกับความเป็น “ทหารสายบู๊” หรือ “ทหารสายเหยี่ยว” แม้จะมีพื้นฐานเป็นทหาร แต่ในช่วงท้ายของการรับราชการ ได้ย้ายไปเป็น เลขาธิการ สมช. ทำให้ภาพดู “กลาง” กว่าทหารที่ปฏิบัติการในพื้นที่
“ภาพลักษณ์ที่ดู ‘กลาง’ มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากความไม่เชื่อมั่นในทหารยังมีอยู่สูงในพื้นที่ การที่ พล.อ.สมศักดิ์ มาจาก สมช. ทำให้ถูกมองเป็น ‘คนใหม่’ ที่ยังไม่เคยสร้างปัญหากับพื้นที่โดยตรง หากถูกมองว่าเป็นตัวแทนทหารแท้ๆ จะถูกปฏิเสธทันที”
เจ้าหน้าที่ทหารรายนี้ยังบอกว่า การแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยฯ ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างความต่อเนื่องของกระบวนการสันติภาพ โดยมองว่า “อย่างดีที่สุด ก็อาจจะแค่ถูกมองว่าเป็นเวทีการเมือง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย”
@@ ประชาสังคมขานรับ สะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐบาล
ขณะที่เสียงจากภาคประชาสังคมแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของรัฐบาล โดย นางสาว ลม้าย มานะการ นายกสมาคมสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ออกมาแสดงความชื่นชมทันที
“การแต่งตั้งหัวหน้าพูดคุยฯอย่างเป็นทางการ ถือเป็นผลจากการที่สภาประชาสังคมฯ และสมาชิกเกือบ 50 องค์กรได้จัดเวทีและไลฟ์สดผลักดันให้วาระการสร้างสันติภาพและการมีหัวหน้าคณะพูดคุยฯที่เป็นตัวเป็นตนถูกบรรจุในนโยบายรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม”
“วันนี้เห็นข่าวนี้ก็ต้องชื่นชม จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรามีหัวหน้าพูดคุยฯแล้ว เป็นอดีตเลขาธิการ สมช. น่าสนใจทีเดียว” เธอกล่าว พร้อมตั้งความหวังว่า ประสบการณ์ของ พล.อ.สมศักดิ์ หรือ “บิ๊กอั๋น” จะทำให้กระบวนการคืบหน้าและเกิดผลสัมฤทธิ์ที่จับต้องได้
นางสาวอัญชนา หีมมิหน๊ะ ตัวแทนจากกลุ่มด้วยใจ ให้ความเห็นต่อการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยดับไฟใต้ว่า เป็นการแต่งตั้งที่มีนัย “เชิงสัญลักษณ์” ค่อนข้างสูง
“แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมองไปถึงการเลือกตั้งในอีกไม่ช้าว่า ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยก็จะมีแนวทางในการสร้างสันติภาพอย่างต่อเนื่อง” นางสาวอัญชนา กล่าวโดยเชื่อมโยงการตัดสินใจของรัฐบาลเข้ากับวาระทางการเมืองในอนาคต
@@ บังคับวิถี “ทัพ 4 - กอ.รมน.” ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม นางสาวอัญชนาได้ตั้งข้อสังเกตและข้อสงสัยที่สำคัญเกี่ยวกับอำนาจและการทำงานจริงของหัวหน้าคณะพูดคุยคนใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการควบคุมกลไกฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่
“ยังมองไม่ออกว่าหัวหน้าคณะพูดคุยฯคนนี้ สามารถคุม กอ.รมน. หรือกองทัพภาคที่ 4 ได้หรือไม่ เพราะไม่ได้เห็นบทบาทที่ผ่านมาเท่าไร”
นางสาวอัญชนา มองว่า หากหัวหน้าคณะพูดคุยฯไม่มีอำนาจเบ็ดเสร็จหรือความสามารถในการกำกับดูแลฝ่ายปฏิบัติการโดยตรง การขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยก็อาจจะไม่ราบรื่นเท่าที่ควร และมีแนวโน้มว่า “การขับเคลื่อนน่าจะนำโดยทีมงาน สมช.” เป็นหลัก
@@ ชาวบ้านร้านตลาดผวา ระเบิดมาอีกแล้ว!
อีกด้านหนึ่ง นางตีเมาะ บือซา ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพค้าขายในจังหวัดยะลา ได้สะท้อนความรู้สึกของคนในพื้นที่ที่แตกต่างออกไป โดยชี้ว่าสถานการณ์ปัจจุบันที่ “ไม่มีการพูดคุยแบบเปิด” นั้น เหตุการณ์กลับ “ดีขึ้น เงียบๆ จนรู้สึกว่าจะสงบแล้ว”
ความกังวลของชาวบ้านคือ ผลที่จะตามมาหากมีการเปิดโต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“เชื่อว่าวันไหนการเปิดโต๊ะพูดคุยถูกกำหนดขึ้น เดี๋ยวระเบิดลงตรงนั้น ระเบิดลงตรงนี้ ยิงตำรวจ ยิงทหาร ปะทะกับ อส. เหตุการณ์เกิดขึ้นเยอะมาก สุดท้ายชาวบ้านเดือดร้อนตามเคย” นางตีเมาะ กล่าวด้วยความกังวล
นางตีเมาะ สรุปความเห็นเกี่ยวกับหัวหน้าคณะพูดคุยฯว่า “ใครก็ได้” เพราะเชื่อว่าผลกระทบด้านความรุนแรงจะเกิดขึ้นตามมาอยู่ดี แต่เธอยังคงมีความหวังในตอนท้ายว่า “คุยกันก็ดีแล้ว เจรจาไป ทุกอย่างจะได้จบ เพียงแค่กลัวเวลามีการพูดคุยแบบเปิดเผยเท่านั้น”
จากมุมมองที่แตกต่างและซับซ้อนชี้ให้เห็นว่า การเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุขในครั้งนี้ แม้จะได้รับการชื่นชมจากภาคประชาสังคม แต่คณะทำงานยังต้องเผชิญกับโจทย์ใหญ่ในการบริหารความเชื่อมั่นและลดความหวาดระแวงของชาวบ้านในพื้นที่ควบคู่ไปกับการลดความรุนแรงที่มักเกิดขึ้นในช่วงของการพูดคุยเจรจาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
-----------------------
ขอบคุณ : กราฟฟิกจากรายการข่าวข้นคนข่าว เนชั่นทีวี
