
ครม.เห็นชอบ ‘แผนการคลังระยะปานกลาง’ ปี 70-73 จัดทำ ‘ประมาณการ’ งบรายจ่ายปี 70 แตะ 3.788 ล้านล้าน ขาดดุล 3.9% ต่อจีดีพี ขณะที่สัดส่วน ‘หนี้สาธารณะต่อจีดีพี’ ตลอดทั้งแผนฯ ไม่เกินกรอบ 70%
.....................................
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พ.ย. คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2570-2573) เพื่อนำไปประกอบการพิจารณาจัดทำกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามมาตรา 15 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เสนอ
สำหรับแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2570-2573) ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ ส่วนที่ 2 สถานะและประมาณการการคลัง และส่วนที่ 3 เป้าหมายและนโยบายการคลัง โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
-สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ
1.ในปี 2569 คาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 1.2-2.2 (ค่ากลางร้อยละ 1.7) GDP Deflator อยู่ที่ร้อยละ 0.7 และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.0-1.0
2.ในปี 2570 คาดว่า GDP จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.1-3.1 (ค่ากลางร้อยละ 2.6) GDP Deflator อยู่ที่ร้อยละ 0.9 และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยคาดว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.4-1.4
3.ในปี 2571-2572 คาดว่า GDP จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.3-3.3 (ค่ากลางร้อยละ 2.8) ขณะที่ในปี 2573 คาดว่า GDP จะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.5-3.5 (ค่ากลางร้อยละ 3.0) ทั้งนี้ GDP Deflator ในปี 2571-2573 อยู่ที่ร้อยละ 1.1 1.3 และ 1.5 ตามลำดับ และอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยในปี 2571-2573 คาดว่าจะอยู่ในช่วงร้อยละ 0.6 - 1.6 ร้อยละ 0.8 - 1.8 และร้อยละ 1.0 - 2.0 ตามลำดับ
-สถานะและประมาณการการคลัง
1.ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิปีงบประมาณ 2570-2573 เท่ากับ 3,000,000 3,145,000 3,274,000 และ 3,422,000 ล้านบาท ตามลำดับ
2.ประมาณการงบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ 2570-2573 เท่ากับ 3,788,000 3,826,000 3,864,000 และ 3,903,000 ล้านบาท ตามลำดับ
3.ประมาณการรายได้รัฐบาลสุทธิและงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวในปีงบประมาณ 2570 - 2573 รัฐบาลจะขาดดุลงบประมาณจำนวน 788,000 681,000 590,000 และ 481,000 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.9 3.3 2.7 และ 2.1 ต่อ GDP ตามลำดับ
4.ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นปีงบประมาณ 2568 มีจำนวน 12,226,290 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.82 ของ GDP และประมาณการสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP สำหรับปีงบประมาณ 2569-2573 เท่ากับร้อยละ 68.17 69.36 69.78 69.52 และ 68.22 ตามลำดับ

-เป้าหมายและนโยบายการคลัง
ท่ามกลางความผันผวนและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ การเมือง ภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้สถานการณ์ภาคการคลังของไทยส่งสัญญาณเตือนในหลายด้าน โดยเมื่อพิจารณาจากสัดส่วนรายได้รัฐบาลต่อ GDP ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาของประเทศไทย พบว่า สัดส่วนรายได้รัฐบาลต่อ GDP มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากร้อยละ 17.0 ในปี 2536 ลดลงเหลือร้อยละ 14.9 ในปี 2568
อย่างไรก็ดี แม้ว่าสัดส่วนรายได้รัฐบาลจะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายของรัฐบาลกลับยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในสภาวะที่เศรษฐกิจชะงักงัน ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น และหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง สะท้อนได้จากสัดส่วนรายจ่ายรัฐบาลต่อ GDP ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นลำดับ
โดยเมื่อพิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดรายจ่ายรัฐบาลจะพบว่า รายจ่ายประจำมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 70-80 ของรายจ่ายรัฐบาลทั้งหมด (เช่น เงินเดือนและค่าตอบแทนข้าราชการ ค่ารักษาพยาบาล ค่าสาธารณูปโภค เงินอุดหนุน เป็นต้น) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้รัฐบาลมีวงเงินงบประมาณคงเหลือสำหรับรายจ่ายลงทุนซึ่งเป็นรายจ่ายสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจลดลงตามไปด้วย
นอกจากนี้ มาตรการลดหย่อนภาษีต่างๆ เพื่อวัตถุประสงค์ในการกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ส่งผลต่อความสามารถในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ประกอบกับความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการคลังในการอัดฉีดเม็ดเงิน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขาดดุลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งทำให้รัฐบาลมีภาระหนี้เพิ่มมากขึ้น
โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่รัฐบาลจำเป็นต้องระดมทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจด้วยการกู้เงินผ่านเครื่องมือทางการเงิน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP เพิ่มสูงขึ้นและเข้าใกล้กรอบเพดานหนี้สาธารณะที่กำหนดไว้ที่ร้อยละ 70 ขณะเดียวกัน สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนสูงส่งผลต่อความไม่แน่นอนในการคาดการณ์ภาระดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาในส่วนของการกำหนดสัดส่วนกฎเกณฑ์ทางการคลัง (Fiscal Rule) ตามมาตรา 11 (4) และมาตรา 50 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ เช่น สัดส่วนงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สัดส่วนการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย สัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาล เป็นต้น
พบว่า สัดส่วนกฎเกณฑ์ทางการคลังบางรายการควรมีการทบทวน ยกเลิก หรือเพิ่มเติมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและบริบททางการคลังเพื่อเป็นการมุ่งเน้นการรักษาวินัยการเงินการคลังให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการภาระผูกพันตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังฯ ซึ่งมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 มีภาระหนี้ผูกพันตามมาตรา 28 อยู่ที่ 865,018 ล้านบาท หรือร้อยละ 28.83 ต่อกรอบวงเงินงบประมาณ
และล่าสุดในปี 2568 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1,133,751 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.21 ต่อกรอบวงเงินงบประมาณ ความเปราะบางทางการคลังต่าง ๆ เหล่านี้ ได้ส่งผลกระทบต่อการประเมินความน่าเชื่อถือของประเทศ โดยสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) ระดับโลกได้แสดงความกังวลต่อความยั่งยืนทางการคลังในระยะยาว ที่สะท้อนผ่านการปรับแนวโน้มมุมมอง (Outlook) ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศในระยะต่อไป
ดังนั้น ในการดำเนินนโยบายการคลังในระยะปานกลาง ภาครัฐจึงมุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพทางการคลังของประเทศ เพื่อเสริมสร้างความมั่งคงทางการคลังและรักษาระดับความน่าเชื่อถือของประเทศภายใต้แนวคิด “Credible” โดยให้ความสำคัญกับการปรับสมดุลทางการคลัง (Fiscal Consolidation) ภายใต้กรอบวินัยการคลัง ความโปร่งใส และเป็นรูปธรรมในทุกมิติของการบริหารจัดการด้านการคลัง
อ่านประกอบ :
กระตุ้นศก.ควบคู่ลงทุน! ส่อง‘แผนการคลังฯ’ฉบับล่าสุด รบ.เล็งกู้ชดเชยขาดดุลฯ 5 ปี 3.9 ล้านล.
พลิกมติ'ครม.เศรษฐา'รื้อ'แผนการคลังฯ'2 รอบ กู้โปะ'ดิจิทัลวอลเลต'-'หนี้สาธารณะ'ใกล้ชนเพดาน
ครม.เคาะรื้อ‘แผนการคลังฯ’รอบ 2 เพิ่มงบปี 67 เป็น 3.6 ล้านล. ดันหนี้สาธารณะ 65.7%ต่อGDP
เพิ่มรายจ่ายปีงบ 68 เป็น 3.75 ล้านล.! ครม.ไฟเขียว‘แผนการคลังระยะปานกลาง’ฉบับใหม่
เปิด‘แผนการคลังฯ’ฉบับใหม่ แนวโน้มหนี้‘รัฐบาล-รสก.’เพิ่ม-คาดปีงบ 67-71 กู้ 4.26 ล้านล.
ครม.ไฟเขียว'แผนการคลังฯ'ฉบับใหม่ คาดปี 68 ตั้งงบรายจ่ายฯ 3.6 ล้านล้าน-ขาดดุล 7.13 แสนล.
ย้อนดู‘หนี้ประเทศ-ภาระผูกพัน’ ก่อน‘รบ.เศรษฐา’เร่งหาแหล่งเงิน 5.6 แสนล.โปะ‘ดิจิทัลวอลเลต’
เปิด‘แผนการคลัง’ฉบับปี 67-70 รัฐเล็งกู้ใหม่ 4.7 ล้านล้าน-ภาระผูกพันคงค้างพุ่ง 1.03 ล้านล.
รอปรับตัวเลข! ‘บิ๊กตู่’ ยังไม่เคาะกรอบวงเงินงบปี 67 หลังนั่งหัวโต๊ะหารือ 4 หน่วยงาน
คุมขาดดุลไม่เกิน 3%! ครม.เคาะ‘แผนคลังระยะปานกลาง’ใหม่-ชงงบปี 67 รายจ่ายพุ่ง 3.35 ล้านล.
รัฐซุกหนี้ 1 ล้านล.! พบไม่รวมอยู่ใน‘หนี้สาธารณะ’-‘คลัง’ห่วงภาระช่วยเหลือ‘เกษตรกร’พุ่ง
ฉบับล่าสุด! เปิดรายงาน 'ความเสี่ยงการคลัง' ภาครัฐ รายจ่ายสวัสดิการฯพุ่ง-ชงทบทวนภาษี
'อดีตผู้ว่าฯธปท.'ห่วงภาครัฐ'ขาดดุลนาน-หนี้สูง' ฝาก'แบงก์ชาติ'ต้องอิสระจากผู้มีอำนาจ
'มูดี้ส์'คงอันดับความน่าเชื่อถือประเทศไทย มอง'เศรษฐกิจมหภาค-การคลังสาธารณะ'แข็งแกร่ง
