"...ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบข้อมูลใหม่ว่า ณ วันที่ 19 ก.พ. 64 บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญา ซื้อจัดหาลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ตรวจสอบข้อมูล Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วงเงิน 227,000,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ 02/2564 ..."
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ข้อกล่าวหาโดยสรุปเป็นทางการ ในคดีการดำเนินงานโครงการจัดซื้อไบโอเมตริกซ์ หรือการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) วงเงิน 2,100 ล้านบาท ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่ (มีกรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นองค์คณะ และมีกรรมการ ป.ป.ช. 2 รายเป็นผู้รับผิดชอบสำนวน) ไต่สวน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวก ได้แก่ พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7
คือ "สัญญาโครงการจัดซื้อไบโอเมตริกซ์ มีกำหนดส่งมอบคุรุภัณฑ์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายในกำหนด 66 วัน แบ่งเป็น 6 งวด ครบกำหนดตามสัญญาในวันที่ 2 พฤษภาคม 2562 แต่บริษัทผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าตรงตามสัญญา ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับขยายเวลาออกไปจนถึง 30 มิถุนายน 2562"
ปัจจุบัน องค์คณะไต่สวน อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว จะมีการออกหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และใช้สิทธิชี้แจงข้อกล่าวหาตามขั้นตอนทางกฏหมาย
อย่างไรก็ดี การสอบสวนคดีนี้ ป.ป.ช. ยังไม่ได้มีการชี้มูลความผิดเป็นทางการ พล.ต.อ.จักรทิพย์ กับพวกรวม 4 ราย ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่
ทั้งนี้ เกี่ยวกับข้อมูลผู้เกี่ยวข้องในส่วนของเอกชนนั้น สำนักขาาวอิศรา เคยตรวจสอบพบว่า ในปีงบประมาณ 2560 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ดำเนินการจัดซื้อครุภัณฑ์ในโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจพิสูจน์บุคคลโดยเทคโนโลยี Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) ระยะที่ 1 (เลขที่โครงการเลขที่โครงการ 60076079396 สัญญาเลขที่ พธ. 37/2560)
ระบุใช้วิธีพิเศษ ในการจัดซื้อจัดจ้าง
หน่วยงานย่อยที่จัดซื้อคือ กองพลาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง
กำหนดวงเงินงบประมาณ 2,126,073,600 บาท กำหนดราคากลาง 2,126,073,600 บาท
ข้อมูลสาระสำคัญในสัญญา ระบุเลขที่สัญญา พธ. 37/2560 ทำสัญญาเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2560 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 2 พ.ค. 2562
ผู้ขายคือ บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด เป็นจำนวนเงิน 2,116,000,000 บาท สถานะสัญญา ส่งงานครบถ้วน
เท่ากับว่า วงเงินที่ตกลงตามสัญญา มีจำนวนต่ำกว่าราคากลาง 10,073,600 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 0.47% ของราคากลาง (ดูเอกสารประกอบ)
โดยข้อมูล บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด นั้น สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า จดทะเบียนจัดตั้ง 26 สิงหาคม 2546 ทุนปัจจุบัน 50,000,000 บาท ตั้งอยู่เลขที่ 19 ซอยรามคำแหง 11 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ ซื้อและจำหน่ายเครื่องมืออิเล็คทรอนิคส์ให้เช่าทรัพย์สิน
ปรากฏชื่อ นางสาว วัชรี พรรณเชษฐ์ นาย ศรายุทธ ณศิลา นางสาว ปาริชาต รุ่งกำจัด น.ส. พิมพ์สุดา พรพิชิตนาวี เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
ณ 30 เมษายน 2564 นางสาว วัชรี พรรณเชษฐ์ ถือหุ้นใหญ่สุด 97.1% มูลค่า 26,140,000 บาท หุ้นที่เหลืออยู่ในชื่อ นาย พงษ์ศักดิ์ ภักดีศรานุวัต 1.3 % มูลค่า 650,000 บาท นาย ศรายุทธ ณศิลา 0.8 % มูลค่า 310,000 บาท นางสาว ถาวร พัวศิริรักษ์ 0.4% มูลค่า 200,000 บาท นางสาว วิภาวี อุดมกะวานิช 0.4% มูลค่า 200,000 บาท
นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจ ล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2563 แจ้งว่ามีรายได้รวม 164,706,806.04 บาท รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 109,368,381.26 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,564,330.77 บาท
สำนักข่าวอิศรา รายงานด้วยว่า ณ วันที่ 19 ก.พ. 64 บริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ปรากฏชื่อเป็นคู่สัญญา ซื้อจัดหาลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ตรวจสอบข้อมูล Biometrics (ลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้า) โดยวิธีเฉพาะเจาะจง ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) วงเงิน 227,000,000 บาท ตามสัญญาเลขที่ 02/2564
ทั้งนี้ ในการอภิปรายไม่ไว้รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลรวม 6 ราย ช่วงเดือนก.พ.2563 ที่ผ่านมา นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เคยอภิปรายอ้างถึง นางนราพร จันทร์โอชา ภรรยา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เรียนหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) รุ่นเดียวกับกรรมการบริษัท เอ็มเอสซี สิทธิผล จำกัด ที่เป็นคู่สัญญาโครงการไบโอเมตริก วงเงิน 2.1 พันล้านบาท ที่มีปัญหาในโครงการอย่างมาก
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า "ขอความเป็นธรรมนิดหนึ่งว่า การเป็นเพื่อนร่วมรุ่นร่วมกันเยอะแยะ ไม่ใช่ร่วมกันทำความไม่ดี ทุกคนมีเพื่อนร่วมรุ่น ท่านก็เป็นใช่หรือไม่ ถ้าเหมาจ่ายแบบนี้ หลายคนที่หนี ๆ ไป เพื่อนร่วมรุ่นก็เยอะเหมือนกัน ลองไปตามดู ทุกคนทุจริตกันหมดหรือไม่ เรื่องนี้อยู่ที่ตัวบุคคล ภรรยาตนเป็นครูอาจารย์ และคอยเตือนผมเสมอไม่ให้ทำเรื่องทุจริต ส่วนข้อกล่าวหาในโครงการนี้ตนสั่งให้รายงานตลอด ติดตามต่อเนื่องทุกขั้นตอน แต่ยืนยันไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับเขา เรื่องเพื่อนของภรรยาผม เป็นเรื่องส่วนตัว แทบไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ ถ้าอ้างตรงนี้ก็เดือดร้อนหมด ทุกคนเรียนหลายหลักสูตร บางคนเรียน 4-5 หลักสูตร เพื่อนไม่เยอะกว่าหรือ ไม่มีใครทำธุรกิจหรือ ต้องไปดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร"
“การอ้างว่ามาดามหลังทำเนียบมาเกี่ยวอะไร เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์ต่อไป แต่ผมเชื่อมั่นในภรรยาผม มีคนอ้างเยอะมาก นายกฯสั่ง รองนายกฯสั่ง แต่คนโง่ก็ไปเชื่อ ผมบอกแล้วให้มาถามผมว่าสั่งจริงหรือไม่ ไปเชื่อได้อย่างไร”
อ่านประกอบ :
- พบแล้ว! ข้อมูลสัญญาไบโอเมตริกซ์ 2.1 พันล.! สตช.จัดซื้อวิธีพิเศษ ชนะต่ำกว่าราคากลาง 10 ล.
- เผยโฉมประกาศซื้อคอมฯ ไบโอเมตริกซ์ สตช.1.7 พันล.-ชื่อ บ.เอ็มเอสซี หราสืบราคากลางด้วย
- เจาะปม 'บิ๊กโจ๊ก' แฉซื้อเครื่องไบโอเมตริกซ์ สตม 2.1 พันล. ป.ป.ช.ลุยสอบ-สะเทือน ผบ.ตร.?
- 10 ม.ค.‘บิ๊กโจ๊ก’มาให้ข้อมูล ป.ป.ช.ปมไบโอเมตริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-บี้สอบ ผบ.ตร. ด้วย
- ป.ป.ช.ยังไม่เรียก‘บิ๊กโจ๊ก’ให้ข้อมูลโครงการไบโอแมทริกซ์ สตม. 2.1 พันล.-สอบคืบ 50%
- ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะใหญ่! สอบ‘จักรทิพย์-บิ๊กตร.’ปมซื้อเครื่อง‘ไบโอเมตริกซ์’ 2.1 พันล.
- บางพรรคก็ทำ! ‘บิ๊กตู่’สั่งสอบปม IO-เผยผู้ต้องหาคดี 1MDB ใช้‘อีลิทการ์ด’เข้าไทย
- ใครเป็นใคร? สแกนชื่อ บยส.รุ่น15! หลัง'บิ๊กตู่' แจง 'ภรรยา' ไม่เกี่ยวไบโอเมตริก2.1 พันล.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/