
เพื่อทิ้งปัญหาชีวิตที่ไม่อยากจำเอาไว้เบื้องหลัง สองพี่น้องคู่แฝดจึงเดินทางกลับมาบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่ามีปีศาจชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น กำลังรอต้อนรับพวกเขากลับมา
Ryan Coogler เป็นผู้กำกับอีก 1 คนที่ ที่มีผลงานมา ตั้งแต่ Creed และ Black Panther ภาพยนตร์ของ Ryan Coogler ได้รับเสียงวิจารณ์ที่ดี และประสบความสำเร็จทางรายได้ตลอด เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่ไม่ว่าจะทำอะไรออกมาก็น่าจับตามองตลอด ครั้งนี้ เขากลับมาพร้อมกับ ผลงานเรื่องใหม่ ที่เกี่ยวกับคนผิวดำ,แวมไพร์ และดนตรี พร้อมนักแสดงคู่บุญอย่าง Michael B. Jordan ที่ต้องเล่นเป็นตัวละครสองตัวในเรื่องเดียวกัน หลายๆ คนที่ได้รับชมต่างกล่าวว่าผลงานใหม่ของ Coogler จะกลายเป็นหนังในตำนานอีกเรื่อง นั้นก็คือ Sinners

สองพี่น้องฝาแฝด Smokeและ Stack พยายามทิ้งชีวิตที่เต็มไปด้วยปัญหาไว้ข้างหลัง พวกเขาเลือกที่จะกลับบ้านเกิดเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง แต่กลับพบว่ามีเพียงความโหดร้ายกว่าเดิมที่รอต้อนรับพวกเขาอยู่
สิ่งที่น่าชื่นชมในเรื่องคงเป็นเรื่องราวของ การนำเอาองค์ประกอบของภาพยนตร์สยองขวัญ มาผสมกับดนตรีได้อย่าน่าเหลือเชื่อแต่อย่างที่ Coogler ได้บอกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จริงๆแล้วมีสิ่งที่มันมากกว่า เหล่าผีดูดเลือดที่ใส่เข้ามา และยังน่ากลัวซะยิ่งกว่าผีดูดเลือดนั้นคือ สิ่งที่หนังพยายามสะท้อนออกมาในเรื่องของการเหยียดสีผิว ในสมัยก่อน ทั้งเหล่า Ku Klux Klan ทาสผิวดำที่ไร้อิสระ กฎหมายที่ไม่อำนวยให้กับความฝันของคนดำ

ตัวภาพยนตร์สามารถนำเสนอวัฒนธรรมต่างๆของคนดำที่หลายๆคนต่างหลงลืมไป มาเล่าให้ได้รับชมกันกว่า 1 ชั่วโมง ที่เป็นเวลาในเรื่องเพียงแค่ 1 วันเต็มๆ ก่อนที่จะเริ่มเล่าในครึ่งหลัง ภาพยนตร์ สามารถเปลี่ยนโทนของเรื่องไปเป็น สยองขวัญในสถานที่ปิดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ แต่ก็ยังคงไม่ลืมถึงการนำเสนอความเชื่อและวัฒนธรรมต่างๆของคนดำ แต่อย่างไรก็ต่างทั้งหมดถูกร้อยเรียงกันด้วยเพลงบลูส์ที่เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่องด้วย บวกกับการที่หนังยังใส่ความเป็นมนุษย์ให้กับเหล่าตัวละครทุกตัวเท่าที่จะทำได้ อาจทำให้คนที่อยากมาดูหนังคนต่อสู้กับแวมไพร์ต้องเสียใจบ้าง แต่ก็คุ้มที่มันกลายเป็นหนังที่มีชีวิต ชีวามากอีกเรื่องหนึ่งเลย

นัยยะแฝงของเรื่องที่ผมชื่นชอบคงหนีไม่พ้นเรื่องของ "วัฒนธรรมคนผิวขาว" ที่เป็นเหมือนแวมไพร์ดูดเลือดวัฒนธรรมดนตรีบลูส์ ที่หลายๆท่านฟังอยู่ทุกวันนี้เชื่อว่าหลายคนคงหลงลืมถึงที่มากันไปแล้ว บลูส์ นั้นเกิดจาก เกิดจากสภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนดำที่หลั่งไหลเข้าสู่สหรัฐเพื่อการเป็นทาส สภาพชีวิตที่คับแค้นของพวกเขาได้ถูกนำเสนอผ่านบทเพลงด้วยการร้อง หรือสวดอ้อนวอนในทางศาสนาที่ เป็นท่วงทำนองที่น่าเศร้า อันเป็นเอกลักษณ์ของการร้องและท่วงทำนองที่เกิดจากเครื่องดนตรีที่ไม่มีคุณภาพจากความแร้นแค้น และความรู้ในด้านทฤษฎีดนตรีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ทำให้มีเสียงหรือคอร์ดความเพี้ยนซึ่งต่อมาก็ได้สร้างความแปลกหู จนเป็นลักษณะและเอกลักษณ์เฉพาะ

เหล่าแวมไพร์ในเรื่องนั้นจึงเปรียบได้กับ ที่ดูดและกัดกินวัฒนธรรมคนอื่น ไปหาประโยชน์ แต่ก็ทำลายวัฒนธรรมนั้นไปด้วย คล้ายกับคำพูดของตัวละคร Delta Slim เคยบอกว่า “คนขาวชอบเพลงบลูส์ แต่ไม่ได้ชอบคนที่เป็นเจ้า” ปัจจุบัน บลูส์ ถูกนำไปทำให้จนผู้คนเริ่มหลงลืมถึงรากเหง้าและที่มาของเพลงเหล่านี้ไปแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ จึงเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจว่าอย่าได้ลืมที่มาของสิ่งเหล่านี้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา