‘กรมที่ดิน’ส่อชดใช้ค่าเสียหาย 1 แสนล้าน เซ่นออก‘โฉนด-น.ส.3’คลาดเคลื่อน-ไม่ชอบด้วยกม.

‘กรมที่ดิน’ เผยอาจโดนเรียกค่าเสียหายกว่า 1 แสนล้านบาท จากเพิกถอน ‘โฉนด-เอกสารสิทธิ์ที่ดิน’ โดยคลาดเคลื่อน-ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เผย 'นโยบายเดินสำรวจออกโฉนด' มีการออกเอกสารสิทธิ์ฯคลาดเคลื่อนมากที่สุด

...................................

จากกรณีที่ศาลปกครองกลางพิพากษา ให้กรมที่ดินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเงิน 4.91 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 3% ปี บวกด้วยอัตราเพิ่ม 2% ต่อปี กรณีออกคำสั่งเพิกถอนหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3 ก.) เลขที่ 158 และเลขที่ 159 ในพื้นที่ จ.ราชบุรี ของนายธนาธร เนื้อที่รวม 81 ไร่เศษ เนื่องจากศาลฯเห็นว่า แม้ว่าคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ 747/2565 ที่ให้เพิกถอน น.ส. 3 ก. ของนายธนาธร จะเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย

แต่เนื่องจากนายธนาธร ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้ซื้อที่ดิน น.ส.3 ก. ดังกล่าว โดยสุจริต เสียค่าตอบแทน และได้รับความเสียหาย ดังนั้น เมื่อนายอำเภอจอมบึง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ดำเนินการออก น.ส.3 ก. โดยไม่ได้ใช้ความระมัดระวัง ความรู้ความชำนาญและความละเอียดรอบคอบ ในการตรวจสอบสภาพและที่ตั้งของที่ดินว่าเป็นที่ดินที่ต้องห้ามออก น.ส. 3 ก. ตามกฎหมายหรือไม่

กรมที่ดิน จึงต้องรับผิดในผลแห่งละเมิด อันเกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ของนายอำเภอจอมบึง ในการออก น.ส. 3 ก. ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว ตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 โดยขณะนี้ คดีดังกล่าวกรมที่ดินอยู่ระหว่างการอุทธรณ์คดีต่อศาลปกครองสูงสุด นั้น (อ่านประกอบ : ซื้อที่ดินโดยสุจริต! ‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน’ชดใช้‘ธนาธร’ 4.9 ล.ปมเพิกถอน‘น.ส.3ก.’ราชบุรี)

ล่าสุดแหล่งข่าวจากกรมที่ดิน เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) กรณีที่มีการเรียกร้องให้กรมที่ดินชดใช้ค่าเสียหายจากการเพิกถอนโฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 ที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ว่า เรื่องดังกล่าว แบ่งออกได้เป็น 3 กรณี ได้แก่

กรณีแรก คือ กรณีศาลปกครองมีคำพิพากษาให้กรมที่ดินชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้ที่ถูกเพิกถอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ที่ถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เช่น การเพิกถอน น.ส. 3 ก. ของนายธนาธร เป็นต้น ซึ่งกรณีนี้กรมที่ดินจะต้องไปดำเนินการตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 กับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการออกโฉนดที่ดินหรือ น.ส.3 ก.

กรณีที่สอง คือ กรณีผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือผู้ครอบครองที่ดิน มีส่วนร่วมในการออกโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยไม่ชอบ อาทิ เป็นผู้ร่วมชี้แนวเขต เป็นต้น ซึ่งกรณีนี้ศาลปกครองเคยมีคำพิพากษาว่า กรมที่ดินที่ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายจากการเพิกถอนโฉนดให้ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินแปลงนั้นๆ

กรณีที่สาม คือ กรณีการออกโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยคลาดเคลื่อนฯ ตามนโยบายเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินของกรมที่ดินตั้งแต่ปี 2520 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นการเร่งรัดออกโฉนดหรือเอกสารสิทธิ์ที่ดิน โดยใช้ภาพถ่ายทางอากาศฯหรือแผนที่ทางอากาศทำให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ต่อมามีข้อตกลงที่กรมที่ดินและกรมป่าไม้ได้ทำร่วมกัน มาเปรียบเทียบและประกอบการเดินสำรวจออกโฉนดฯกับแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศและแผยที่กรมป่าไม้ทำให้ความผิดพลาดน้อยลง  อย่างไรก็ตามงกรณีนี้ยอมรับว่า มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและมากที่สุดเมื่อเทียบกับ 2 กรณีก่อน

แหล่งข่าวยังให้ข้อมูลว่า กรณีการเพิกถอนโฉนดที่ดินฯที่ออกโดยคลาดเคลื่อนหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้ง 3 กรณี รวมถึงกรณีที่มีการร้องเรียนว่า มีการออกโฉนดโดยไม่ชอบฯ นั้น ปรากฏว่าที่ดินที่ออกโดยไม่ชอบและจะต้องถูกเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินกว่า 3-4 แสนไร่ ซึ่งเมื่อประเมินมูลค่าที่ดินตามราคาประเมินของกรมธนารักษ์ พบว่าที่ดินดังกล่าวมีมูลค่า 3-4 หมื่นล้านบาท และหากรวมสิ่งปลูกสร้างแล้ว มูลค่าอาจสูงถึง 1 แสนล้านบาทก็ได้

อ่านประกอบ :

แผนที่เขตรถไฟฯมีพิรุธ! ทนายตระกูล‘ชิดชอบ’ยกต่อสู้ ปมถอนโฉนดเขากระโดง-ชี้ศก.บุรีรัมย์ชะงัก

ซื้อที่ดินโดยสุจริต! ‘ศาล ปค.’สั่ง‘กรมที่ดิน’ชดใช้‘ธนาธร’ 4.9 ล.ปมเพิกถอน‘น.ส.3ก.’ราชบุรี