ตร.กัมพูชาเผยยังไม่ทราบแรงจูงใจ เหตุมือปืนลอบยิง อดีต สส.ฝ่ายค้านกลางกรุงเทพ เผยขั้นตอนหลังจากนี้ต้องส่งตัวผู้ก่อเหตุไปพนมเปญก่อน ขณะฝ่ายค้านกัมพูชาเชื่อมีการวางแผนก่อเหตุมาอย่างดี จี้ทางการไทย-ฝรั่งเศสเข้ามาสอบสวนคืนความยุติธรรม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีเกี่ยวข้องกับเหตุคนร้ายยิงนายลิม คิมยา (Mr.LIM KIMYA) ชาวกัมพูชา สัญชาติฝรั่งเศส เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และเป็น อดีต ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน ชาวกัมพูชาเสียชีวิตที่ บริเวณเกาะกลาง วงเวียน 13 ห้าง ย่านบางลำพู
โดยสำนักข่าววอยซ์ออฟอเมริกา หรือวีโอเอรายงานข่าวภาษากัมพูชา เกี่ยวกับกรณีนี้ว่านายทัช สก (Touch Sok) โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชาให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นมือปืนซึ่งก็คือนายเอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินไทย สังกัดกองทัพเรือ ซึ่งถูกจับที่ จ.พระตะบองของกัมพูชา จะถูกส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ไทย เมื่อกัมพูชาได้รับคำร้องขอจากตำรวจไทย
“ผมไม่สามารถระบุเกี่ยวกับการส่งตัวมือปืนกลับไปยังประเทศไทยได้ เพราะขึ้นอยู่กับขั้นตอนตำรวจเฉพาะทางของกัมพูชา และขึ้นอยู่กับคำร้องขอของไทยในการส่งผู้ร้ายข้ามแดนกลับไป” นายสกกล่าวและกล่าวต่อไปว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่มือปืนจะถูกจับในกัมพูชา
อนึ่งเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตํารวจจังหวัดพระตะบองกล่าวกับวีโอเอว่าเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบปากคําชายคนดังกล่าวเนื่องจากระยะเวลาที่สั้นและ ไม่พบปืนที่ใช้ในเหตุยิงนายลิม คิมยา โดยตอนนี้ตำรวจกัมพูชาสอบปากคำแค่ถามชื่อและยืนยันว่าเขาทำจริง แต่ยังไมได้สอบถามรายละเอียดอื่นๆ ซึ่งหลังจากนี้จะมีการส่งตัวมือปืนจากพระตะบองไปยังกรุงพนมเปญเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนถัดไป
ทางด้านของนายชยา คิม คูณ (Chhay Kim Khoeun) โฆษกตำรวจแห่งชาติกัมพูชาให้สัมภาษณ์วีโอเอเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ระบุว่าทางการกำลังสอบสวนผู้ต้องสังสัยอยู่ แต่ต้องยอมรับว่ายังไม่รู้ว่าทำไมผู้ต้องสงสัยถึงก่อเหตุ และเรากำลังสืบสวนกรณีที่ทางการไทยกล่าวหาว่ามีผู้ต้องสงสัยอีกราย
ส่วนนายอำ ซัม แอธ (Am Sam Ath) กลุ่มสันนิบาตกัมพูชาเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนหรือ LICADHO เรียกร้องทั้งทางการไทยและกัมพูชาให้สืบสวนในคดีนี้ โดยดำเนินการอย่างโปร่งใสในการจับกุมและดําเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อขจัดการวิพากษ์วิจารณ์และให้ความยุติธรรมแก่ครอบครัวของเหยื่อ
“รัฐบาลกัมพูชาต้องให้ความสนใจกับประเด็นเหล่านี้ทั้งหมดและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ทั้งในการสืบสวนและวินิจฉัยคดีฆาตกรรมนี้เพื่อให้คดีนี้ได้รับความยุติธรรม และผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีฆาตกรรมโดยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทางการไทยปฏิบัติตามกฎหมายและเปิดความร่วมมือกับกัมพูชาหากมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่หลบหนีไปกัมพูชา” นายอำกลาว
นายมีช โสวันนระ (Meach Sovannara)ประธานพรรคคนรุ่นใหม่กัมพูชา (New Generation Party) และอดีตเพื่อนร่วมงานพรรคการเมือง CNRP ร่วมกับนายลิม คิมยา กล่าวว่าตัวเขาเห็นว่าการฆาตกรรมนั้นเป็นโศกนาฎกรรม และมีการเตรียมแผนมาเป็นอย่างดี ดังนั้นทางการไทยและฝรั่งเศสควรเข้ามาสอบสวน หาควาวมจริง และให้ความยุติธรรมกับนายลิม คิมยา
ทั้งนี้หลังการลอบสังหารนายลิม นักการเมืองฝ่ายค้านและองค์กรระหว่างประเทศตั้งข้อสงสัยไปยังรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลกัมพูชาได้ออกมาปฏิเสธความเชื่อมโยงแล้วและกล่าวว่าการกล่าวหาใดๆเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนาธรรมการสาดโคลนและการกล่าวโทษโดยไม่มีหลักฐาน