ราคา‘น้ำมัน-ผลไม้สด’สูงขึ้น ดัน‘เงินเฟ้อทั่วไป’ ม.ค.68 ขยายตัว 1.32%-Core CPI แตะ 0.83%

cpi 06 02 25 pic

‘พาณิชย์’ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ม.ค.68 ขยายตัว 1.32% จากราคา ‘น้ำมัน-ผลไม้สด-เครื่องประกอบอาหาร-เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์’ สูงขึ้น ขณะที่ Core CPI โต 0.83%

............................................

เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงดัชนีเศรษฐกิจการค้า เดือน ม.ค.2567 ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป หรืออัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือน ม.ค.2568 เท่ากับ 100.7 ขยายตัว 1.32% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการสูงขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นผลจากฐานราคาต่ำในปีที่ผ่านมา

ประกอบกับราคาสินค้าในหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวสูงขึ้น จากราคาผลไม้สด เครื่องประกอบอาหาร และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ เป็นสำคัญ

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาเป็นรายหมวดสินค้าในเดือน ม.ค.2568 พบว่า หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ขยายตัว 1.78% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการสูงขึ้นของสินค้าสำคัญ เช่น ข้าวสารเจ้า ปลานิล แตงกวา ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว และกาแฟผงสำเร็จรูป ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น พริกสด กะหล่ำปลี ผักกาดขาว และมะนาว เป็นต้น

ส่วนหมวดอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ขยายตัว 1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ เช่น น้ำมันดีเซล แก๊สโซฮอล์ ค่าเช่าบ้าน และค่าโดยสารเครื่องบิน ขณะที่สินค้าราคาลดลง เช่น ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว สบู่ถูตัว ผลิตภัณฑ์ซักผ้า และน้ำยาล้างจาน เป็นต้น

นอกจากนี้ เมื่อเทียบราคาสินค้าและบริการในเดือน ม.ค.2568 กับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค.2567) พบว่าสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้นมีจำนวน 288 รายการ จากสินค้าทั้งหมด 464 รายการ เช่น ข้าวสารเจ้า ปลานิล แตงกวา ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว กาแฟผงสำเร็จรูป ค่าเช่าบ้าน ค่าโดยสารเครื่องบิน น้ำมันเชื้อเพลิง (แก๊สโซฮอล์และดีเซล)

สินค้าที่ราคาไม่เปลี่ยนแปลงมี 52 รายการ เช่น ค่าบริการขนขยะ ค่าน้ำประปา ค่าโดยสารเรือ ค่าโดยสารรถแท็กซี่ ค่าโดยสารรถไฟ ค่าเช่าสระว่ายน้ำ ค่าเบี้ยประกันทรัพย์สิน เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ราคาปรับตัวลดลงมีจำนวน 124 รายการ เช่น ไก่ย่าง พริกสด กะหล่ำปลี มะนาว ผักกาดขาว หัวหอมแดง สบู่ถูตัว แชมพู ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว และค่าโดยสารรถไฟฟ้า เป็นต้น

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ในเดือน ม.ค.2568 เท่ากับ 101.08 ขยายตัว 0.83% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.พ.2568 คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.2568 โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดีเซลภายในประเทศที่กำหนดเพดานไม่เกิน 33 บาท/ลิตร ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าโดยสารเครื่องบิน

และ 3.สินค้าเกษตรบางชนิดราคายังคงสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตยังไม่กลับสู่ระดับปกติ หลังจากได้รับผลกระทบของภัยแล้งอย่างยาวนาน โดยเฉพาะพืชสวน เช่น มะพร้าว

ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลง ได้แก่ 1.ภาครัฐมีแนวโน้มดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนและการตรึงราคาก๊าซ LPG 2.ฐานราคาผลไม้สดปีก่อนหน้าที่อยู่ในระดับสูง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขณะที่ในปี 2568 สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น

และ 3.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

“แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ก.พ.2568 น่าจะใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.2568 ขณะที่ในช่วงไตรมาส 1/2568 คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัวประมาณ 1.1-1.2%” นายพูนพงษ์ กล่าวและว่า “สนค.ได้ติดตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดได้มีการชะลอการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก และแคนาดา และถ้าจะมีผลกระทบ ก็คงเป็นเรื่องราคาน้ำมันที่จะส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อ แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไร”

ส่วนผลกระทบของโครงการแจกเงินให้กับผู้สูงอายุ 3 ล้านคน ต่ออัตราเงินเฟ้อนั้น นายพูนพงษ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อ เนื่องจากต้นของในฝั่งผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นายพูนพงษ์ ระบุว่า สนค.คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 จะขยายตัว 0.3-1.3% โดยมีค่ากลาง 0.8% ภายใต้สมมติฐานว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) 2.3-3.3% ,ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยทั้งปี 70-80 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล และอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยทั้งปี 34-35 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

นายพูนพงษ์ กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่เดือน ม.ค.2568 เป็นต้นไป สนค. ได้ปรับเพิ่มรายการสินค้าในตะกร้าเงินเฟ้อจาก 430 รายการ เพิ่มเป็น 464 รายการ โดยมีรายการสินค้าที่ปรับออก 34 รายการ เช่น ค่าหนังสือพิมพ์และนิตยสารรายเดือน และรายการสินค้าที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในตะกร้าเงิน 68 รายการ โดยเป็นรายการสินค้าที่ประชาชนใช้หรือบริโภคเป็นประจำตามยุคสมัย เช่น ปลาแซลมอน อะโวคาโด น้ำปลาร้า น้ำเกลือแร่ ผักสลัด สมาร์ทวอทช์ พลังงานไฟฟ้า และกล้องติดรถยนต์ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ดีขึ้น

อ่านประกอบ :

‘พาณิชย์’เผย CPI ธ.ค.67 ขยายตัว 1.23% เฉลี่ยทั้งปีโต 0.4%-ขึ้น'ค่าแรง'ไม่กระทบ'เงินเฟ้อ'

'พาณิชย์'เผย'เงินเฟ้อทั่วไป' พ.ย.67 ขยายตัว 0.95%-ทั้งปีไม่เกิน 0.5%-มองปีหน้า 0.3-1.3%

เงินเฟ้อทั่วไป ต.ค.67 ขยายตัว 0.83%-เฉลี่ย 10 เดือน 0.26% 'สนค.'คาดทั้งปีโตไม่เกิน 0.5%

เงินเฟ้อทั่วไป ก.ย.67 โต 0.61% หั่นเป้าทั้งปี 0.2-0.8% เผยแจก‘หมื่น’ไม่กระทบราคาสินค้า

ราคา'ผัก-อาหาร'เพิ่มขึ้น ดันเงินเฟ้อทั่วไป ส.ค.67 ขยายตัว 0.35%-เฉลี่ย 8 เดือนโต 0.15%

เงินเฟ้อทั่วไป ก.ค.67 ขยายตัว 0.83%-‘พาณิชย์’เชื่อ‘ดิจิทัลวอลเลต’ไม่ทำราคาสินค้าขยับขึ้น

‘พาณิชย์’เผย‘เงินเฟ้อทั่วไป’พ.ค.67 ขยายตัว 1.54% สูงสุดในรอบ 13 เดือน-คงเป้าทั้งปี 0-1%

‘พาณิชย์’เผย‘อัตราเงินเฟ้อทั่วไป’ เม.ย.67 ขยายตัว 0.19% พลิกบวกครั้งแรกในรอบ 7 เดือน

‘พาณิชย์’ เผยเงินเฟ้อทั่วไป มี.ค.67 ติดลบ 0.47%-ปรับคาดการณ์ทั้งปีเป็นขยายตัว 0-1%

‘พาณิชย์’เผยเงินเฟ้อทั่วไป ก.พ.67 ติดลบ 0.77% หดตัวเป็นเดือนที่ 5-'Core CPI'ยังโต 0.43%

หดตัวต่อเนื่อง 4 เดือน! ‘พาณิชย์’เผยเงินเฟ้อทั่วไป ม.ค.67 ติดลบ 1.11%-Core CPI บวก 0.52%