
ปปง.ตามยึดอายัดทรัพย์ 8 รายการ 2.3 ล้าน ‘จุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์’ จนท. สหกรณ์ออมทรัพย์ครูน่านกับพวก ปลอมลายมือชื่อสมาชิกในใบถอนเงิน 23 ครั้ง เสียหาย 6.8 ล้าน ก่อนหน้าเผยแพร่ในราชกิจจาฯ 20.9 ล.
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ ย 20/2568 ลงวันที่ 20 มกราคม 2568 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว รายคดี นางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก กรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน โดยนางสาวจุฬาลักษณ์ ซึ่งเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทำหน้าที่พนักงางานการเงิน มีหน้าที่รับฝากถอนเงินของสมาชิกสหารณ์ออมทรัพย์ ได้ทำการปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในใบถอนเงิน จำนวน 2 คน รวมทั้งหมด 23 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 6,896,000 บาท และได้นำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของตนเอง
ทรัพย์สินที่ ปปง.มีคำสั่งยึดและอายัด รวม 8 รายการ ได้แก่ ที่ดิน จ.น่าน เนื้อที่ 1 งาน 27 ตาราวา พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เงินสด 100,000 บาท เงินในบัญชีเงินฝาก 4 รายการ หน่วยลงทุน 2 รายการ รวมทั้งสิ้น 2,363,229.47 บาท
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้ ปปง.ได้ออกประกาศ เรื่อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน รายคดี นางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก ปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในใบถอนเงิน ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูน่าน จำกัด ได้รับความเสียหาย เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 20,986,100 บาท ให้บุคคลผู้ได้รับความเสียหาย โดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานในรายคดีดังกล่าวและไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดนั้น ยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ ผู้เสียหายในความผิดมูลฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ภายใน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา (ข่าวเกี่ยวข้อง : ปปง.ให้ผู้เสียหายยื่นขอชดใช้ทรัพย์คดีลูกจ้างสหกรณ์ฯครูน่าน ยักยอกถอนเงิน 20.9 ล.)
คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมมีรายละเอียดดังนี้
@ เปิดรายละเอียดคำสั่งยึดอายัดทรัพย์
คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรมที่ย. 20 /2568 เรื่อง ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว
ด้วยสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) ได้รับรายงานจากสถานีตำรวจภูธรเมืองน่าน จังหวัดน่าน ตามหนังสือที่ ตช 0060 (นน).55/852 ลงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563) เรื่อง รายงานการดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดฐานฟอกเงิน กล่าวคือ
@ ปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในใบถอนเงิน 23 ครั้ง
เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 คณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูน่าน จำกัด ได้ทำการตรวจสอบพบความผิดปกติของยอดเงินในในบัญชีเงินฝากธนาคารของสมาชิกสหกรณ์อ่อมทรัพย์ โดยพบว่า นางสาวจหาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ ซึ่งเป็นลูกจ้างของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทำหน้าที่พนักงางานการเงิน มีหน้าที่รับฝากถอนเงินของสมาชิกสหารณ์ออมทรัพย์ ได้ทำการปลอมลายมือชื่อของสมาชิกในใบถอนเงิน จำนวน 2 คน รวมทั้งหมด 23 ครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 6,896,000 บาท และได้นำเงินดังกล่าวเข้าบัญชีเงินฝากรนาคารของตนเอง สหกรณ์ครูออมทรัพย์จังหวัดน่าน จำกัด จึงมอบอำนาจให้นายวีรพันธ์ ตันเกียง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรรเมืองน่านเพื่อดำเนินคดีกับนางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ ในความผิดฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้เอกสารสิทธิปลอมและลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในความครอบครองของนายจ้าง โดยพนักงานสอบสวนได้รับไว้เป็นคดีอาญาที่ 52/2567 และคดีอาญาที่ 53/252567 ต่อมาพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องนางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ และส่งสำนวนพร้อมความเห็นไปยังพนักงานอัยการจังหวัดน่านเพื่อพิจารณาสังฟ้องแล้ว อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (14) (18) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2567 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ที่ประชุมมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ประกอบกับคำสั่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ลับ ที่ ม.404/2567 ลงวันที่ 28 มิถุนายน 2567 เรื่อง มอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รายนางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก และคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 ได้มีมติให้เพิ่มความผิดมูลฐานฟอกเงิน ตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตรวจสอบรายงานการทำธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวแล้ว ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่านางสาวจุฬาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลเกี่ยวกับการปลอมเอกสารสิทธิตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระตามมาตรา 3 (14) (18) และความผิดฐานฟอกเงินตามมาตรา 5 หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานพ่อกเงิน และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวมพยานหลักฐาน ปรากฏว่า บุคคลดังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 8 รายการพร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินที่ปรากฎหลักฐานในทางทะเบียน ในการเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ โดยผู้มีชื่อเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ในทางทะเบียนได้ สังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินในบัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ หน่วยลงทน อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นได้โดยง่าย และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินสด อันเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพคล่อง สามารถปกปิด ซ่อนเร้น หรือโอนเปลี่ยนมือได้โดยง่าย หากมิได้มีการออกคำสั่งให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิดหรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสียและหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของเเผ่นดิน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นางสาวจุนาลักษณ์ ทิพวงศ์ หรือเตชนันท์ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว
@ สั่งยึดอายัดทรัพย์ ชั่วคราว 8 รายการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 34 (3) และมาตรา 48 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มติคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุม ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 และระเบียบคณะกรรมการธุรกรรม ว่าด้วยการรับเรื่องการตรวจสอบ การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 8 รายการ พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันแต่วันที่ 20 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 19 เมษายน 2568 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดปรากฎตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย
ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัดทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าวประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการพ่อกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือ



Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา