ศาล รธน.เกาหลีใต้มีมติปลด ปธน.ยุน ซอก ยอล ออกจากตำแหน่ง เหตุประกาศกฎอัยการศึกมิชอบ

ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้มีมติเอกฉันทน์ 8 ต่อ 0 ปลด ปธน.เหตุประกาศกฎอัยการศึกโดยมิชอบช่วง ธ.ค.-หัวหน้าคณะผู้พิพากษาชี้เป็นการทรยศต่อประชาชนเกาหลี ด้าน รก.ปธน.ประกาศเดินหน้าทำงานต่อเพื่อให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างราบรื่นภายใน 60 วัน

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าที่ประเทศเกาหลีใต้ ศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ได้มีมติเป็นเอกฉันทน์ 8 ต่อ 0 เสียงให้ปลดนายยุน ซอก ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้นายยุนกลายเป็นประธานาธิบดีคนที่สองที่ถูกปลดจากตำแหน่งด้วยวิธีการนี้ ต่อจากพัค กึน-ฮเย ที่ถูกปลดในปี 2560

โดยนายมูน ฮยอง เบ หัวหน้าคณะผู้พิพากษาได้กล่าวตอนหนึ่งในระหว่างการอ่านคำพิพากษาว่านายยุนได้ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชนซึ่งเป็นสมาชิกอธิปไตยของสาธารณรัฐประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง โดยการประกาศกฎอัยการศึก จำเลย (นายยุน)ได้สร้างความวุ่นวายในทุกด้านของสังคม เศรษฐกิจ และนโยบายต่างประเทศ

จําเลยไม่เพียงแต่ประกาศกฎอัยการศึก แต่ยังละเมิดรัฐธรรมนูญและกฎหมายด้วยการระดมกําลังทหารและตํารวจเพื่อขัดขวางการใช้อํานาจนิติบัญญัติ ท้ายที่สุดแล้ว การประกาศกฎอัยการศึกในกรณีนี้ละเมิดข้อกําหนดที่สําคัญสําหรับกฎอัยการศึกฉุกเฉิน

เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบเชิงลบอย่างร้ายแรงต่อความสงบเรียบร้อยตามระเบียบของรัฐธรรมนูญและผลกระทบตามมาที่สําคัญจากการละเมิดของจําเลย เราพบว่าผลประโยชน์ที่จะได้ตามรัฐธรรมนูญโดยการถอดถอนจําเลยออกจากตําแหน่งมีมากกว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในระดับชาติ จากการถอดถอนออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี

ทั้งนี้หลังจากที่นายยุนถูกปลด เกาหลีใต้จะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ภายใน 60 วัน โดยวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปีเดิมของนายยุนมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนพ.ค. 2570

ขณะที่นายฮัน ด็อก ซู รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติว่า เขาจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้การเลือกตั้งประธานาธิบดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยและกระบวนการต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างสันติ

นายฮัน ยังให้คำมั่นว่า จะดำเนินการให้แน่ใจว่า ความมั่นคงของชาติและการทูตจะมีเสถียรภาพและจะทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ในการทำให้การถ่ายโอนอำนาจผู้นำเกาหลีใต้ไปยังประธานาธิบดีคนใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น นายฮัน กล่าวว่า เขาจะยึดถือปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่า รัฐบาลใหม่จะจัดตั้งขึ้นโดยไม่ล่าช้า และจะดูและให้การเลือกตั้งประธานาธิบดีดำเนินไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรม

ในเวลาต่อมา นายฮัน ได้เป็นประธานประชุมฉุกเฉินร่วมกับคณะรัฐมนตรีและเรียกร้องให้รัฐบาลเดินหน้าทำงานในประเด็นต่าง ๆ ที่ยังรออยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการรับมือหลังจากสหรัฐอเมริกาประกาศนโยบายเพิ่มภาษี และขอให้หน่วยงานของรัฐบาลเป็นกลางทางการเมืองเพื่อให้แน่ใจว่า การเลือกตั้งจะเป็นไปอย่างเสรี

อนึ่งสาเหตุที่นำไปสู่การปลดนายยุนออกจากตำแหน่งมาจากกรณีที่นายยุนได้ประกาศกฎอัยการศึกเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2567 และได้ถูกพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติถอดถอน โดยกล่าวหาว่าเขาประกาศกฎอัยการศึกโดยไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐสภาได้ผ่านญัตติถอดถอนเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคม และอำนาจของนายยุนก็ถูกระงับนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี นายยุนอ้างว่าการประกาศกฎอัยการศึกเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม เป็นมาตรการที่สมเหตุสมผล เนื่องจากพรรคประชาธิปไตย (DP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ได้ทำให้การบริหารงานของรัฐหยุดชะงัก ด้วยการยื่นคำร้องถอดถอนเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า