
ซาบคาดปีนี้ปิดดีลขายกริเพนไทย-โคลอมเบียได้ เผยเครื่องบินลอตแรกส่งมอบภายในปี 72 แต่ยอมรับดีลในอนาคตอาจมีปัญหาเพราะชิ้นส่วนเครื่องยนต์ผลิตในสหรัฐฯ อาจต้องได้รับการอนุมัติก่อน จึงจะผลิตเพื่อส่งออกได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับบริษัทซาบว่าทางด้านของนายไมเคล โยฮันสัน ได้ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ข่าวไฟลท์ โกลบอล ตอนหนึ่งระบุว่าหลังจากการตัดสินใจของโคลอมเบียในการซื้อเครื่องบินขับไล่กริเพนอี/เอฟ (Gripen E/F) ลำใหม่ และการที่ซาบกําลังเจรจาข้อตกลงที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย บริษัทคาดว่าสัญญาทั้งสองฉบับจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2568
กรณีที่เกี่ยวกับประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้มีตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องบินไอพ่นกริเพนอี/เอฟ เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ 16 เอ/บี จำนวน 30 ลำซึ่งใช้งานมาแล้วตั้งแต่ปี 2523
แผนการเข้าซื้อเครื่องบินรบของประเทศไทยแบ่งออกเป็นสองขั้นตอน เครื่องบินไอพ่นกริเพนอี/เอฟ สี่ลําจะส่งมอบโดยเป็นชุดแรกภายในปี 2572 โดยใช้งบประมาณเริ่มต้น 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (18,687,480,000 บาท) เครื่องบินที่เหลือจะตามมาภายในปี 2577 ซึ่งในปัจจุบันกองทัพอากาศไทยใช้งานเครื่องบินขับไล่กริเพนซี/ดี (Gripen C/D) รุ่นเก่า 11 ลํา ซึ่งได้มาในปี 2551 โดยการมีเครื่องบินรุ่นเก่าอยู่ก่อนแล้ว คาดว่าจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการฝึก
นอกเหนือจากข้อตกลงกับโคลอมเบียและไทยแล้ว ซาบยังพิจารณาถึงโอกาสใหม่ๆ อาทิการเจรจากับโปรตุเกสกําลังดําเนินการอยู่ ซึ่งจุดยืนทางการเมืองที่ไม่แน่นอนของสหรัฐอเมริกา ส่งผลทำให้มีการชะลอการตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อเครื่องบินรบเอฟ 35 ที่วางแผนไว้ เช่นเดียวกับแคนาดาซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับการหยุดโครงการจัดหาเครื่องบินเอฟ-35 หลังจากที่ได้เครื่องบินลอตแรกจำนวน 16 ลําแรก ทำให้ซาบมองว่านี่เป็นโอกาสในการเข้ามาเจรจากับแคนาดา
อย่างไรก็ตามมีความท้าทายเกี่ยวกับการจัดหาเครื่องบินขับไล่กริเพนอี/เอฟ ประการหนึ่ง เพราะเครื่องบินรุ่นนี้ต้องพึ่งพาเครื่องยนต์รุ่น F414G ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ และชิ้นส่วนอื่นๆหมายความว่าการส่งมอบเครื่องบินในอนาคตยังคงเสี่ยงต่อกฎระเบียบการส่งออกของสหรัฐอเมริกาซึ่งอยู่ภายใต้ ITAR หรือ International Traffic in Arms Regulations ซึ่งหมายความว่าจำเป็นต้องให้สหรัฐฯ มีการอนุมัติเสียก่อน จึงจะสามารถผลิตเครื่องบินเพื่อส่งออกได้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา