หนีไม่รอด! ป.ป.ช.ตามรวบตัว อดีตปลัดอำเภอท่าสองยาง ตาก หลบหนีหมายจับคดีตรวจรับการช่วยเหลืออุทกภัยเป็นเท็จ หลังซุกรักษาตัวนนทบุรี ประสานกำลังตำรวจ วางแผนเข้าจับกุม ช่วงเช้าวันที่ 14 พ.ค.2568 นำตัวส่งสำนักงานอัยการคดีปรามการทุจริตภาค 6 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อววันที่ 14 พฤษภาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 6 ได้เผยแพร่ข่าวการจับกุมตัว นายฉลองชัย (สงวนนามสกุล) อดีตปลัดอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลจังหวัดแม่สอด คดีตรวจรับการช่วยเหลืออุทกภัยเป็นเท็จ หลังติดตามสืบสวนจนทราบว่าปัจจุบันได้พักรักษาตัวอยู่บริเวณซอยบางขนุน 5 ตำบลบางขนุน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พร้อมควบคุมตัวไปที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวัน ทำบันทึกการจับกุม ทำหนังสือส่งตัวผู้ถูกกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือและนำตัวส่งสำนักงานอัยการคดีปรามการทุจริตภาค 6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 6 ระบุว่า วันที่ 14 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 07.40 น. ภายใต้การอำนวยการของนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ นายสุพจน์ ศรีงามเมือง รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 6 สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 และงานสืบสวนคดีทุจริตสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตาก สืบสวนจับกุมตัวผู้ถูกกล่าวหารายนี้ ตามหมายจับของศาลจังหวัดแม่สอด ที่ จ47/2568 ลงวันที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2568
โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์กระทำความผิดคือ นายฉลองชัย (สงวนนามสกุล) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการ) ปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ที่ทำการปกครองอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการตรวจการจ้าง ในการจัดจ้างโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอท่าสองยาง ครั้งที่ 1 จำนวน 15 โครงการ ตามคำสั่งอำเภอท่าสองยาง ที่ 306/2554 ลงวันที่ 1 กันยายน 2554 เป็นกรรมการตรวจรับงานจ้าง โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นพื้นที่อำเภอท่าสองยาง ครั้งที่ 2 จำนวน 15 โครงการ ตามคำสั่งอำเภอท่าสองยาง ที่ 315/2554 ลงวันที่ 13 กันยายน 2554 และเป็นกรรมการตรวจรับงานจ้าง โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอท่าสองยาง ครั้งที่ 3 จำนวน 100 โครงการ แต่ไม่ได้มีการตรวจรับการจ้างตามที่ได้รับมอบหมาย กลับลงนามในเอกสารว่ามีการดำเนินโครงการถูกต้องและครบถ้วนอันเป็นเท็จ ทั้งที่บางโครงการไม่ได้ดำเนินการจริง และใช้เป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่ายเงินให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่คู่สัญญาจ้าง
สำหรับคดีนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ในการประชุมครั้งที่ 1019-90/2561 วันที่ 26 กันยายน 2561 ที่ประชุมพิจารณาแล้ว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าการกระทำดังกล่าวมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการรับรองเป็นหลักฐานว่าตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่ากระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จและรับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้นมุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1) และ (4) ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และมาตรา 91
เบื้องต้น พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ดำเนินการสืบสวนติดตาม นายฉลองชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ถูกกล่าวหาตามหมายจับของศาลจังหวัดแม่สอด จนทราบว่าปัจจุบันได้พักรักษาตัวอยู่บริเวณซอยบางขนุน 5 ตำบลบางขนุน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ต่อมาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 6 ประสานความร่วมมือกับ พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตาก และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อวางแผนเข้าจับกุม และเวลาประมาณ 07.40 น. ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหารวมทั้งได้ควบคุมตัวไปที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เพื่อลงบันทึกประจำวัน ทำบันทึกการจับกุม ทำหนังสือส่งตัวผู้ถูกกล่าวหา พิมพ์ลายนิ้วมือและนำตัวส่งสำนักงานอัยการคดีปรามการทุจริตภาค 6 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 กำหนดไว้
อย่างไรก็ดี คดีนี้ศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษาชี้ขาดว่ามีการกระทำความผิด ผู้ถูกกล่าวหายังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาชี้ขาด