
'สาโรจน์ พึงรำพรรณ' เลขา ป.ป.ช. เผยปี 2568 มีเรื่องร้องเรียน 9,118 เรื่อง-ตั้งไต่สวนประมาณ 500 เรื่อง ด้านป.ป.ช.ภาค 2 แจงในพื้นที่มีเรื่องกล่าวหาเรียกรับเงินมากสุด
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 ที่โรงแรมราวินทรา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดการเสวนาในประเด็น สถิติคดีร้องเรียนของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 ประเด็นความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออกเมืองพัทยา และประเด็นโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำซอยเทพประสิทธิ์ 9 เชื่อมชายหาดจอมเทียน เมืองพัทยา 190 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวสรุปรายละเอียดที่น่าสนใจมานำเสนอ ดังนี้
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า เรื่องการรับสินบนในการอนุญาต อนุมัติต่าง ๆ เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ค่า CPI (ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI)) ไม่ดีขึ้น ภาพรวมตัวเลขการร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ยังอยู่ในระดับสูง ในปี 2568 มีการร้องเรียนมาประมาณ 3,000-4,000 เมื่อรวมกับของปี 2567 ก็มีถึง 9,118 เรื่อง โดยในปี 2568 ตั้งไต่สวนประมาณ 500 เรื่อง ส่วนนโยบายของ ป.ป.ช. ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คือ ให้ความสำคัญในการป้องกันการทุจริตในลักษณะป้องปราม เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น ส่วนงานปราบปรามก็ต้องดำเนินการให้เร็วขึ้น ในภาพรวมของเรื่องร้องเรียนกล่าวหานั้น ที่มีสูงเป็นเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเพราะเกี่ยวข้องกับงบประมาณและผลประโยชน์ต่าง ๆ
นายวัฒนชัย ส้มมี รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภาค 2 กล่าวว่า พื้นที่ภาค 2 เป็นพื้นที่พิเศษในการบริหารจัดการงบประมาณและเรื่องต่าง ๆ เพราะเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในภาค 2 583 แห่ง พื้นที่ภาค 2 มีเรื่องร้องเรียน 613 เรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้นว่าจะรับเรื่องหรือไม่ มีเรื่องไต่สวน 317 คดี โดยหน่วยงานที่มีเรื่องร้องเรียนมากที่สุด คือ หน่วยงานอปท. รองลงมา คือ กระทรวงมหาดไทย และอันดับที่ 3 คือกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีเรื่องร้องเรียนเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง ประเภทคำกล่าวหาที่มีมากที่สุด คือ การเรียกรับเงิน เช่น การเรียกเงินจากโรงงานอุตสาหกรรม เรียกรับเงินจากการอนุมัติก่อสร้าง เรียกรับเงินจากการจัดซื้อจัดจ้าง การเรียกรับเงินจากบ่อนการพนัน เป็นต้น
นายกิจติพงศ์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า การก่อสร้างสนามกีฬาเมืองพัทยาเริ่มตั้งแต่ปี 2551 ตอนนั้น ป.ป.ช. ชลบุรีรับเรื่องมาว่าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาใช้เวลาสร้างหลายปีแต่ยังไม่เสร็จสิ้น โดยโครงการนี้มีการก่อสร้าง 4 ระยะ ในระยะที่ 1 และ 2 ไม่มีปัญหาใดแต่ในระยะที่ 3 ช่วงปี 2561-2564 มีการก่อสร้างผิดพลาดประกอบกับมีการระบาดของโควิด-19 จึงต้องแก้ไขสัญญา เนื่องจากบริษัททำงานไม่เสร็จตามที่กำหนด ต่อมาระยะที่ 4 ปี 2566-2568 งบประมาณ 327 ล้านบาท โดยในระยะนี้ป.ป.ช.ชลบุรีก็เข้าไปทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเฝ้าระวังการทุจริต โดยการสังเกตและให้คำแนะนำ ตั้งแต่วันที่ทำสัญญา
นายกิจติพงศ์ กล่าวว่า ส่วนโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำนั้น สืบเนื่องจากชมรม STRONG ชลบุรี พบว่าโครงการนี้ก่อสร้างมานานหลายปีแต่ยังไม่เสร็จ จึงแจ้งมายัง ป.ป.ช.ชลบุรี เมื่อได้รับแจ้งก็ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ พบว่า เป็นโครงการระบายน้ำของเมืองพัทยา และไม่ได้ทิ้งร้างแต่หยุดการก่อสร้างเพราะมีปัญหาในการสำรวจที่ดิน เนื่องจากเป็นที่ยุบตัว เคยเป็นหนองน้ำมาก่อน จึงต้องวางแผนใหม่และขยายเวลาก่อสร้าง
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ภาพรวมความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามกีฬาก็มีการทำงานร่วมกับ ป.ป.ช. มาตลอด ทำให้ผู้รับจ้างสบายใจ แต่ความท้าทายก็คือการแก้ไขงานที่มีความผิดพลาดเพื่อให้เสร็จตามระยะเวลาที่กำนด โดยโครงการนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ส่วนกลางกำหนดมา ปัญหาที่พบ คือ การออกแบบที่ไม่ได้คำนึงถึงสภาพความเป็นจริง ทำให้เกิดอุปสรรคเมื่อมีการก่อสร้างและส่งผลกระทบต่อระยะเวลาในการส่งงานตามกำหนด
นายปรเมศวร์ กล่าวว่า ส่วนโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำนั้นมีปัญหาดินยุบตัว ทำให้โครงการต้องหยุดชะงักไปก่อนเพราะยังหาวิธีแก้ปัญหาไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อการใช้ถนนของประชาชน ทางผู้ก่อสร้างและเมืองพัทยาก็ไปหาวิธีแก้ปัญหาจนกระทั่งการพัฒนาดินซีเมนต์สำเร็จ ตอนนี้ก็แก้ปัญหาได้แล้วกำลังดำเนินการสร้างท่อต่อไป สรุปตอนนี้ก็มีการพูดคุยกับผู้รับจ้างว่าจะต้องสร้างให้เสร็จภายในเดือน ก.พ. 2569

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา