
ศาลอาญาคดีทุจริตฯภาค 4 พิพากษา อดีตผู้ว่าฯบึงกาฬมีความผิด คดีทุจริตสมคบนายอำเภอประกาศ 7 อำเภอเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ ช่วงปี 54 เอื้อประโยชน์ทำสัญญาซื้อสารป้องกันเชื้อหา ทั้งที่เกษตร 7 อำเภอแย้งว่าเชื้อราในนาข้าวไม่รุนแรงถึงภัยพิบัติ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 11 ก.ย. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกเอกสารข่าวแจกกรณีที่ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4ได้มีคำพิพากษาว่า นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 มาตรา 10, 11 และ 12 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และ 157 ตามหน้าที่และอำนาจของจำเลยแต่ละราย กรณีทุจริตการจัดซื้อสารป้องกันเชื้อรา (คาร์เบนดาซิมหรือแมนโคแซบ) ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโรคระบาดในข้าวในท้องที่จังหวัด บึงกาฬ (โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคระบาด (ข้าว) งบประมาณ 48,927,963 บาท)
คดีสืบเนื่องจากมีบัตรสนเท่ห์ใช้ชื่อว่า “ข้าราชการรักจังหวัดบึงกาฬ” และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน โดยสำนักงานตรวจสอบพิเศษภาค 6 ได้ตรวจสอบกรณีการใช้งบประมาณเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน กรณีโรคระบาด(ข้าว) งบประมาณ 48,927,963 บาท พบว่า
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2554 และวันที่ 8 กรกฎาคม 2554 นายสมพงศ์ อรุณโรจน์ปัญญา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ ได้ประกาศให้พื้นที่ในจังหวัดบึงกาฬ ทั้งหมด 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอโซ่พิสัย อำเภอเซกา อำเภอบึงโขงหลง อำเภอบุ่งคล้า อำเภอปากคาด อำเภอพรเจริญ อำเภอเมืองบึงกาฬ และอำเภอศรีวิไล เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินโรคระบาดข้าวและจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือในกรณีเร่งด่วน
ซึ่งไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงอันเป็นความเท็จและไม่ได้เกิดความเสียหายจนเกษตรกรต้องการความช่วยเหลือ ในส่วนของอำเภอพรเจริญ แม้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแต่ไม่ได้มีการดำเนินการจัดซื้อสารป้องกันเชื้อรา (คาร์เบนดาซิมหรือแมนโคแซบ)
การประกาศดังกล่าวไม่มีการตรวจสอบหรือสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เช่น ศูนย์วิจัยข้าวหนองคาย และศูนย์วิจัยข้าวหนองคายได้ให้ข้อมูลว่า ปี พ.ศ. 2553 และ 2554 พบว่าโรคไหม้ข้าวที่เกิดขึ้นในจังหวัดบึงกาฬ เป็นโรคที่เกิดขึ้นทุกปีแต่ไม่ถึงเป็นโรคระบาดรุนแรง หากเกิดโรคระบาดรุนแรงศูนย์วิจัยข้าวหนองคายต้องรายงานกรมการข้าวเพื่อป้องกันและประกาศเตือนภัยตามหน้าที่ที่รับผิดชอบ และในกระบวนการจัดซื้อคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ได้พิจารณาราคาตามที่ผู้ประกอบการได้นำเสนอ ซึ่งมีราคาสูงกว่าความเป็นจริงที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป ในราคาเฉลี่ย 385 บาทต่อขนาดความจุ 1,000 ซีซี ทำให้ราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 37,436,660 บาท
สำหรับการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างสารป้องกันเชื้อรา (คาร์เบนดาซิมหรือแมนโคแซบ) ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยโรคระบาดในข้าวในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ จำนวน 7 อำเภอ เมื่อปี 2554 นายอำเภอ 7 อำเภอ ได้รายงานเหตุด่วนสาธารณภัยโรคระบาดข้าว สืบเนื่องมาจากนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการให้แต่ละอำเภอแจ้งภัยพิบัติโรคเชื้อราในข้าว จากนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประกาศภัยพิบัติต่อเนื่องจากรายงานของอำเภอโดยไม่ได้มีการสำรวจตรวจสอบความเสียหายในพื้นที่นาของเกษตรกรโดยแท้จริง ซึ่งเกษตรอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ไม่เห็นด้วยว่าเชื้อราในข้าวเป็นภัยพิบัติร้ายแรง แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬก็ยังประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทั้งที่ไม่มีข้อมูลรอบด้านทางวิชาการและไม่ปรากฏหลักฐานและภาพถ่ายสภาพของความเสียหายแต่ละพื้นที่ว่าเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงหรือไม่ การประชุม กชภอ. ในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกันมาแล้วมีมติขอรับความช่วยเหลือโดยระบุจำนวนเงินมาจากอำเภอ จึงเป็นไปตามความประสงค์ของผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธาน กชภจ. จังหวัดบึงกาฬ ลงนามเห็นชอบราคากลาง
โดยนายอำเภอ ทั้ง 7 อำเภอ ในฐานะประธาน กชภอ. ขอรับการจัดสรรงบประมาณ เชื่อว่าเป็นการคบคิดตกลงกันมาก่อนแล้วเพื่อให้ทั้ง 7 อำเภอ ซื้อสารเคมีในราคาขวดละ 1,712 บาทต่อ 1,000 ซีซี อันเป็นราคาที่สูงกว่าราคาที่จำหน่ายในท้องตลาดของท้องที่ในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ จึงเป็นการตกลงและเตรียมการไว้ล่วงหน้ากับผู้รับจ้างผู้เสนอราคาขายสารเคมีดังกล่าว การเสนอราคาเป็นไปในทางไม่สุจริต มีการสมคบคิดร่วมกันกับคณะกรรมการกำหนดราคากลาง เพื่อให้ผู้เสนอราคาขายสารเคมีได้รับการพิจารณาให้เป็นคู่สัญญากับทั้ง 7 อำเภอ รับฟังได้ว่าคณะกรรมการกำหนดราคากลางได้พิจารณาราคาตามที่ผู้ประกอบการนอกพื้นที่นำเสนอราคาซึ่งสูงกว่าความเป็นจริงที่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป ในราคาเฉลี่ย 385 บาท ต่อ 1,000 ซีซี ทำให้ราชการได้รับความเสียหายเป็นเงิน 37,436,660 บาท
นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ในฐานะประธานคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับอำเภอได้รับทราบว่าไม่ได้มีการสำรวจพื้นที่ความเสียหายตรงกับความเป็นจริงและระบุราคาสารเคมีคาร์เบนดาซิมราคา 856 บาทต่อ 500 ซีซี หรือ 1,712 บาท ต่อ 1,000 ซีซี โดยกำหนดราคาก่อนที่คณะกรรมการกำหนดราคากลางจะกำหนดราคา และก็ยังสูงกว่าความเป็นจริงที่ซื้อขายกันในท้องตลาดในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ และมิได้มีการเสนอราคาและต่อรองกันจริง นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ในฐานะผู้บังคับบัญชามีหน้าที่พิจารณาอนุมัติการจัดซื้อสารเคมีคาร์เบนดาซิมต้องไม่ดำเนินการตกลงซื้อและต้องยกเลิกการดำเนินการเกี่ยวกับการเสนอราคา
แต่กลับอนุมัติและลงนามในสัญญาซื้อขายหรือเอกสารแทนสัญญาซื้อขายสารเคมี และได้เบิกจ่ายเงินตามสัญญาให้แก่ผู้รับจ้าง พฤติการณ์จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้ผู้เสนอราคาที่มีการเตรียมการไว้แล้วกับผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เป็นผู้มีสิทธิ์เข้าทำสัญญากับทั้ง 7 อำเภอ ทำให้การจัดซื้อสารเคมี ตามที่มีการเตรียมไว้แล้วสูงกว่าความเป็นจริงอันเป็นเจตนาหลีกเลี่ยงฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546
พฤติการณ์จึงบ่งชี้ได้ว่านายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ได้รู้มาก่อนที่จะขออนุมัติวงเงินทดรองราชการแล้ว ว่าการจัดซื้อจัดจ้างมีการเตรียมการมาก่อนแล้ว โดยมุ่งหมายที่จะให้ดำเนินการจัดซื้อสารเคมีคาร์เบนดาซิม โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย โดยไม่มีการเจรจาต่อรองและตกลงราคากับผู้มีอาชีพขายสารเคมีดังกล่าวโดยตรง ในราคาที่ไม่สูงกว่าราคาท้องตลาดในช่วงเวลาที่เกิดภัยพิบัติขึ้น อันเป็นการฝ่าฝืนต่อระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามความประสงค์ของผู้ว่าราชการจังหวัด หากนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างตั้งแต่แรกที่ทราบว่าเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ผู้รับจ้าง ผู้ขาย ก็จะไม่ได้เงินค่าสินค้าขายสารเคมี ราชการก็จะไม่ได้รับความเสียหาย แต่กลับรีบดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างกับผู้ขายดังกล่าวต่อเนื่องโดยไม่มีการยกเลิกการจัดซื้อจัดจ้างที่ฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นผลโดยตรงที่ทำให้ราชการได้รับความเสียหาย จึงเป็นการกระทำโดยมีมูลเหตุจูงใจแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายทำให้เกิดความเสียหายแก่กรมการปกครองและกระทรวงมหาดไทย
อนึ่ง คดีนี้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เคยมีมติชี้มูล โดยเป็นมติครั้งที่ 25/2566 ว่าการกระทำของผู้ว่าราชการจังหวัดที่ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินและการอนุมัติเงินทดรองราชการตามที่นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอขอรับการช่วยเหลืองบประมาณจากจังหวัดบึงกาฬ จนกระทั่งทำสัญญาซื้อขายสารเคมี จึงเป็นการร่วมกันฝ่าฝืนระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2546 โดยมีห้างซึ่งเป็นผู้รับจ้าง เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติ ชี้มูลความผิดทางอาญาและชี้มูลความผิดทางวินัยหรือให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

อ่านประกอบ:
- EXCLUSIVE : ผลสอบลับคดีจัดซื้อยาฆ่าแมลงอุบลฯ เชิดผู้ขาย 10 ราย สมรู้ร่วม 'ฮั้ว' จนท.รัฐ
- EXCLUSIVE(2): เบื้องหลังซื้อยาฆ่าแมลงอ.เขมราฐ -จนท.'อุปโลกน์' ภัยพิบัติ-จัดฉากฮั้วประมูล
- EXCLUSIVE(3) :เสมียนตราอ.นาตาล 'คีย์แมน' จัดฉากซื้อยาฆ่าแมลง-ปลอมชื่อ 'เกษตรกร' รับของ
- EXCLUSIVE(4) :พฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลงอ.โขงเจียม-กำหนดตัว'ผู้ขาย'ลงนามล่วงหน้าที่ ปภ.
- EXCLUSIVE(5) : ถึงคิวอำนาจเจริญ! เปิดพฤติการณ์ฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 2 อำเภอ-รัฐเสียหาย 112 ล.
- EXCLUSIVE(6):ครบชุด! ข้อมูลทุจริตฮั้วซื้อยาฆ่าแมลง 5 อำเภอ อำนาจเจริญ-รัฐเสียหาย 215 ล.
- เปิดคำสั่ง ป.ป.ช.ไต่สวนอดีตผู้ว่าฯมุกดาหาร 4 รองฯ พวก 23 ราย คดีทุจริตจัดซื้อสารเคมี
- ป.ป.ช.โชว์คำสั่งไต่สวน ‘สุรพล’ อดีตผู้ว่าฯอุบลฯ 22 ขรก. คดีจัดซื้อสารเคมี
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- สาว 24 ปี เจ้าของบ้านหรู 55 ล. ที่แท้ลูกผู้รับเหมากลุ่มอดีตผู้ว่าฯคดีฟอกเงิน
- 55 ล.บ้านหรู ถ.รัตนาธิเบศร์ สาว 24 ปี คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ
- โชว์โฉนด 55 ล.‘วิมลสิริ’สาว 24 ปี คดีฟอกเงิน ถูก ปปง.อายัดลอตใหม่
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- ตามไปดู ที่ดินผืนงาม 2 สาว คดีฟอกเงิน จำนอง 15 ล. ตรงข้ามห้างดัง
- ที่แท้ ‘พัชรีย์’ เป็นผู้รับมอบอำนาจ ‘เกรียงไกร’ คดีฟอกเงินจัดซื้อสารเคมี
- เปิดโฉนด-สัญญาจำนอง 15 ล.ที่ดินปากเกร็ด สาว 22 ปี คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ
- 16 รายชื่อถูก ปปง.อายัดทรัพย์คดีฟอกเงิน งบภัยพิบัติจัดซื้อสารเคมี 3 จว.
- เปิดตัว ‘เกรียงไกร’ คดีทุจริตงบภัยพิบัติจัดซื้อสารเคมีกลุ่มอดีตผู้ว่าฯ
- ล้มละลาย! เจาะเครือข่ายนักธุรกิจขอนแก่น ถูกปปง.อายัดทรัพย์พร้อมอดีตผู้ว่าฯอุบล
- บ.โชคอนันต์ กวาด 643 ล. ก่อนถูกอายัดทรัพย์ 4 คน คดีฟอกเงิน
- นักธุรกิจกลุ่มลูกอดีต รมต.รับโอนหุ้น 50 ล. บ.คดีฟอกเงิน อยู่ทาวน์เฮ้าส์
- ‘นิชานันท์’ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ มีเงินฝาก 19 บัญชี 80 ล.
- เผยโฉมที่ดิน 4 แปลง ‘หนุ่ม 27 ปี’ คดีฟอกเงิน จำนอง 100 ล.นักธุรกิจหญิง
- คดีฟอกเงินงบภัยพิบัติ‘หนุ่ม 27 ปี’โอนหุ้น 50ล.ให้นักธุรกิจกลุ่มลูกอดีต รมต.
- เปิดทรัพย์สิน 28 รายการ‘หนุ่ม 27ปี’คดีฟอกเงิน ที่ดิน 4 แปลงจำนอง100 ล.
- 2 บ.หนุ่ม 27-สาว 24 ปี คดีฟอกเงิน ถูกสรรพากรสอบภาษี ก่อน ป.ป.ง.อายัด
- ตามหา'วิมลสิริ'สาววัย 24 ปี ผู้ถูก ป.ป.ง.อายัดทรัพย์ ถือหุ้น 60 ล.บ้านหลังโต
- พบ บ.ใหม่-นอกบัญชีอายัด ป.ป.ง. คดีทุจริตงบภัยพิบัติ สาววัย 24 ปี หุ้นใหญ่
- 3 บ.ถูกอายัดทรัพย์คดีฟอกเงินทุจริตซื้อสารเคมี ‘ผู้รับมอบอำนาจ’คนเดียวกัน
- หนุ่มวัย 27 ปี หุ้นใหญ่ บ.100 ล.คดีซื้อสารเคมี อยู่บ้านชั้นเดียว-เจ้าของอดีตนายทหาร
- พบอีกคน! สาววัย 24 ปี ถูกอายัดทรัพย์กลุ่มอดีตผู้ว่าฯ โผล่ซื้อหุ้น บ.รับเหมา 60 ล.
- หนุ่มวัย 27 ปี ผู้ถูกอายัดทรัพย์คดีทุจริตซื้อสารเคมี ขนเงินสด 68 ล. ตั้ง บ.รับเหมา
- บ.ทรัพย์การัณย์ ผู้ถูกอายัดทรัพย์กลุ่มอดีตผู้ว่าฯ ‘หุ้นใหญ่’โยงจัดซื้อสารเคมี 102 ล.
- เช็คสถานะคดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง12จว. ใครจ่อคิวถูกอายัด ซ้ำรอยอดีต'ผู้ว่าฯอุบล'
- โชว์รายได้308ล.!เปิดตัวบ.นิลธารฯ ถูกปปง.อายัดทรัพย์พร้อมก๊วนอดีตผู้ว่าฯอุบล
- ปปง.แพร่คำสั่งอายัดทรัพย์อดีตผู้ว่าฯอุบล-พวก 384 ล. คดีฮั้วจัดซื้อยาฆ่าแมลง
- คำสั่งปลดอดีตผู้ว่าฯออกจากราชการ พันจัดซื้อสารเคมีปราบศัตรูพืช จว.อีสาน
- เปิด 31 ‘ตัวละคร-โครงข่าย' คดีจัดซื้อยาปราบศัตรูพืช 4 จว. 25 อำเภอ 1.5 พันล้าน
- เบ็ดเสร็จ 25 อำเภอ'จัดซื้อยาปราบศัตรูพืช' เฉพาะ จ.ร้อยเอ็ด 3 บริษัท 19.7 ล.
- พบ บ.ที่ 8 ฟันขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’ 524 ล. -ลาม สนง.เกษตรฯด้วย 43 ล.
- เจาะปมจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’จ.มุกดาหาร ขุมข่าย‘2 บ. -4 หจก.’เหมา 408 ล้าน
- เจาะ‘อำนาจเจริญ’ ขุมข่าย‘2 บ. -4 หจก.’กวาดจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’379 ล้าน
- เปิด 173 สัญญาจัดซื้อ‘ยาปราบศัตรูพืช’ จ.อุบลฯ 14 อำเภอ ‘2 บ.- 6 หจก.’ 674 ล.
- ‘สรรพากร’ส่งหนังสือยิบ 65 ฉบับ ‘แช่เข็ง-สอบภาษี’8 ผู้ขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’
- หลักฐาน-ชื่อ'หญิงสาว'มัด! 8 ผู้ขายยาปราบศัตรูพืช 1.4 พันล. ที่แท้‘เครือข่ายเดียวกัน’
- 2 บ.-6 หจก.ยาปราบศัตรูพืช โชว์รายได้ 4.2 พันล.-ส่งหนุ่มวัย 22 ปีแจ้งเลิกกิจการ
- พบ‘หุ้นใหญ่’หจก.ขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’อายุแค่ 22-25 ปี รับ 446.3 ล้าน
- เปิดชื่อขรก.-เอกชนยกจ.บึงกาฬ! ป.ป.ช.ลุยสอบพันปมจัดซื้อสารป้องเชื้อราข้าว
- พบ บ.ที่ 8 ฟันขาย‘ยาปราบศัตรูพืช’ 524 ล. -ลาม สนง.เกษตรฯด้วย 43 ล.
- เปิดอีก 3 บ. พันคดี'ยาปราบศัตรูพืช’ ฟันอื้อ 469.9 ล - แจ้งเลิกกิจการ ‘วันเดียวกัน’
- เปิด 4 หจก.ซื้อขาย‘ยาฆ่าแมลง’ 87 ครั้ง 490 ล. ชนวนสอบผู้ว่าฯกับพวก 41 ราย
- นอภ.โดนครบ 8 อ.! ล้วงมติป.ป.ช.ชี้มูลอดีตผู้ว่าฯบึงกาฬ-พวก ทุจริตซื้อยาปราบศัตรูพืช 48 ล.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา