
’มหาดไทย-กรมที่ดิน’ ยุคเปลี่ยนผ่าน รื้อกระบวนการพิจารณาที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ใหม่ ชัด!รอคำพิพากษาศาลปกครองที่ ‘รฟท.’ ไปฟ้องกับรอ 'รถไฟ' ฟ้องรายแปลงเท่านั้น ด้าน ‘พรพจน์’ ฟันธงอธิบดีที่ดินใช้อำนาจตามกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 8 เพิกถอนไม่ได้
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 17 กันยายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับการที่อธิบดีกรมที่ดินเข้ากระทรวงเพื่อรายงานเรื่องที่ดินเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อกระทรวงมหาดไทย
@ที่ดินยัน รอคดีที่ รฟท.ฟ้องศาลปค.อย่างเดียว
นายขจรเกียรติ กล่าวว่า หลังจากที่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินคือ นายพรพจน์ เพ็ญพาส กรณียุติเรื่องดังกล่าวนั้น ผลของการตรวจสอบคือ การดำเนินการของกระทรวงมหาดไทยโดยกรมที่ดิน เป็นการดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 เมื่อได้รับแจ้งคำพิพากษาศาลฎีกา, ศาลอุทธรณ์และศาลปกครอง ทางกรมที่ดินน้อมรับคำพิพากษาทุกศาล สิ่งที่ดำเนินการได้ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 8 คือ กรณีของศาลฎีกาพิพากษาให้ชาวบ้าน 35 ราย ไม่มีสิทธิขอออกโฉนดที่ดินครอบครองพื้นที่เขากระโดงได้ ซึ่งสํานักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ได้ดำเนินการยกเลิกคำขอออกโฉนดของทั้ง 35 รายไปแล้ว รวมถึงจำหน่ายเอกสาร ส.ค. 1 (แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน) ออกจากสารบบแล้ว
ส่วนที่เหลืออีก 5,083 ไร่ อธิบดีกรมที่ดินกล่าวว่า ศาลปกครองแจ้งมายังกรมที่ดิน ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินคนก่อน (พรพจน์ เพ็ญพาส) ดำเนินการตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งในการดำเนินงานไม่มีขาดช่วงหรือทิ้งเวลา เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ได้ยุติเรื่องไป เพราะการดำเนินการไปถึงขั้นหนึ่งแล้ว โดยทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะผู้อ้างสิทธิ์ในที่ดินของรฟท.ก็อุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการดังกล่าว อธิบดีกรมที่ดินยกคำร้อง รฟท.จึงร้องไปที่กระทรวงมหาดไทย แต่มีการยกคำร้อง ทำให้ รฟท. ต้องไปยื่นศาลปกครองเมื่อ มี.ค. 2568 ซึ่งตอนนี้กำลังรอกระบวนการนี้อยู่ และมีการแจ้งกรมที่ดินมาว่า รับการพิจารณาคำร้องดังกล่าวแล้วเมื่อเดือน มิ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ตอนนี้จึงอยู่ทำคำชี้แจงส่งไปภายในวันที่ 10 ต.ค.นี้
“ขอเรียนว่ากรมที่ดินไม่ได้เพิกเฉย หยุดนิ่ง ในระหว่างที่สังคมสอบถามก็มีกระบวนการตามที่นำเรียนให้ทราบไปแล้ว และเราน้อมรับคำพิพากษาของศาล และเอามาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ และขอเรียนว่าการทำงานของกรมที่ดิน จะดูแลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนโดยหลักกฎหมายถูกต้อง ไม่มีการประวิงเวลา กระบวนการมันมีอยู่ แต่ไม่ได้พูดคุย” อธิบดีกรมที่ดินกล่าวตอนหนึ่ง

ขจรเกียรติ รักพานิชมณี อธิบดีกรมที่ดิน
@พรพจน์ชี้ใช้วรรค 8 เพิกถอนไม่ได้ - เปรย รฟท.ฟ้องขับไล่ พร้อมตั้งคกก.ม. 61 สู้รายแปลง
ด้านนายพรพจน์ กล่าวว่า ยืนยันทุกอย่างทำตามคำสั่งศาลฯ ในช่วงเดือนเศษๆที่ผ่านมา มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินคือ นายพรพจน์ เพ็ญพาส กรณียุติเรื่องเขากระโดง ก็ขออนุญาตเรียนว่า รายงานการสอบสวนไม่ได้พูดถึงประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 8 เลย ตอนนั้นก็กังวลอยู่ 2 อย่างคือ กรมที่ดินจะทำตามที่ผู้บังคับบัญชาแถลงข่าวเมื่อตอนนั้นได้หรือไม่ เพราะมีหนังสือทวงถามมาว่า ยังยืนยันว่าจะดำเนินตามที่แถลงข่าวหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มีการตอบกลับมาแต่อย่างใด กับ หากผู้บังคับบัญชาลงนามมาในลักษณะนั้นจริงๆ ก็จะมีปัญหากับระเบียบข้อกฎหมายพอสมควร เพราะถ้าอ่านดีๆ ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 8 อำนาจหน้าที่การดำเนินการไม่ใช่ของ ‘อธิบดีกรมที่ดิน’ แต่เป็นอำนาจของ ‘เจ้าพนักงานที่ดิน’ ในเขตพื้นที่ที่โฉนดตั้งอยู่ ซึ่งจะต้องระบุแปลง พิกัด และชื่อผู้ครอบครองให้ชัดเจน ถึงจะทำได้ อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายนี้ จะต้องคุ้มครองสิทธิ์ใยที่ดินของพี่น้องประชาชนทุกที่ทุกแปลง ดังนั้น ถ้าประชาชนมีเอกสารหลักฐานก็สามารถเอามาโต้แย้ง ชี้แจงได้
“ขอยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่ประมวลกฎหมายที่ดินกำหนดไว้ ถามว่า ตรงนี้ถ้ามีการเซ็นจากกระทรวงมา ยังห่วงท่านปลัดฯเลยว่า ถ้าเซ็นให้ใช้อำนาจวรรค 8 อาจโดนข้อหาใดข้อหาหนึ่งหรือเปล่า เมื่อคำสั่งคณะกรรมการสอบสวนบอกว่า ไม่มีการพูดถึงตรงนี้เลย เราต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 61 วรรค 2 มากกว่า ขอเน้นย้ำว่า เราไม่ได้ตัดสิทธิ์การรถไฟฯ ในการฟ้องประชาชนอย่างที่เคยสู้กันในศาลอุทธรณ์มา คุณสามารถฟ้องได้ และกรมที่ดินก็มีสิทธิ์จะตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 ทุกแปลง ถ้ามีข้อสงสัยหรือข้อเท็จจริงใหม่ขึ้นมา ตรงนี้มันมีกระบวนการ ขั้นตอน แนวทางที่ชัดเจนว่า เราจะคุ้มครองสิทธิ์ของพี่น้องประชาชนอย่างไร? จะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรถ้าครอบครองไม่ถูกต้อง ดังนั้น กระบวนการพวกนี้มันมีดำเนินการที่ชัดเจน” นายพรพจน์ระบุ
@ต้องสิ้นข้อสงสัย ถึงใช้วรรค 8 ได้
นอกจากนี้ นายพรพจน์ยังเปิดใจว่า ในสมัยที่เป็นอธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันว่าไม่มีการแทรกแซงกดดันใดๆ และตนเองก็ไม่เคยไปบอกทีมงานว่า ต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ เพียงแต่ดูว่าทำงานตามกฎหมายไหม? แนวทางเป็นไปตามระเบียบกรมที่ดินไหม? ถ้าทำถูกต้องก็เดินต่อไป แต่ในเรื่องการเพิกถอนโฉนดต้อง 100% จริงๆ จึงจะเพิกถอนได้ ต้องปราศจากข้อสงสัย
เมื่อถามว่า การดำเนินการนี้จะไม่เป็นมวยล้มต้มคนดูใช่หรือไม่ นายพรพจน์กล่าวว่า ถ้าไปอ่านคำพิพากษาศาลฯทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 3 และศาลฎีกา ทุกอย่างไม่ได้ชี้ว่า ที่ดินทั้งหมด 5,083 ไร่ ไม่ได้บอกเลยว่า 995 รายจำเป็นต้องเพิกถอนหรือไม่ ถ้าดูรายละเอียดมาตรา 61 วรรค 8 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ระบุว่า “ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนหรือแก้ไข ให้เจ้าพนักงานดำเนินการ” แต่กรณีนี้ศาลฯสั่งแค่ไหน เราทำแค่นั้น ซึ่งศาลฯไม่ได้กล่าวถึงแปลงที่เหลือนอกจาก 35 รายนั้นเลยนะ ไปเช็กได้เลยว่า ไม่มีการพูดถึง ถามว่ากรมฯจะกล้าไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฯเหรอ? ถ้าดูเนื้อความไม่ได้พูดถึงแปลงอื่นเลย ส่วนคำสั่งศาลปกครองก็ให้กรมฯตั้งคณะกรรมการตามมาตรา 61 วรรค 2 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งผลออกมาอย่างไร ศาลฯก็ระบุเองว่า ไม่อาจก้าวล่วงได้

พรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
@ยันแผนที่ของ รฟท. ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในการแถลงข่าวครั้งที่แล้ว ทางรฟท. มีการยกแผนที่มาประกอบด้วยนั้น นายพรพจน์กล่าว แผนที่ที่มาการเอาประกอบนั้น ไม่ใช่แผนที่ตามแนบท้ายของพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับ ได้แก่ พระราชกฤษฎีกากำหนดเขตร์สร้างทางรถไฟหลวง ต่อจาก นครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ประกาศ ณ วันที่ 8 พฤศจิกายน 2462 ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2462 (รัชกาลที่ 6) และพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยการจัดซื้อที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น เพื่อสร้างทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมรถไฟแผ่นดินจัดสร้าง ประกาศ ณ ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2464 ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2464 (รัชกาลที่ 6) ซึ่งได้อ่านเอกสารทั้งหมดแล้ว ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา แต่จะเป็นอะไร ไม่สามารถบอกได้
เมื่อถามอีกว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยกล่าวว่า ช่วงสิ้นเดือน ก.ย.นี้ จะสามารถเซ็นเพิกถอนโฉนดที่ดินได้ แต่วันนี้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนไป แสดงว่านายภูมิธรรมใช้อำนาจเกินขอบเขตใช่หรือไม่ นายอรรษิษฐ์ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ทำตามนั้น เมื่อข้อสั่งการจากกระทรวงฯมีไปถึงกรมที่ดินแล้ว และผลออกมาตามที่แถลงไปนั้น ก็ถือว่า กรมที่ดินทำตามที่สั่งการไปแล้วอย่างเคร่งครัด ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้นเอง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา