
ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส. กทม. พรรคประชาชน ตั้งกระทู้ถามสด อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ปม ถนนยุบ บริเวณสามเสน หวั่น ไม่โปร่งใส-ไม่ตรงไปตรงมา อนุทิน ลั่น ไม่ปกป้อง บ.ซิโน-ไทย ให้สัตยาบัน ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเป็นอิสระ-ไม่แทรกแซง โอด เสียเพื่อนไปหลายคน อ่านไลน์แบบไม่ read - บางคนบล็อกด้วย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่อง ขอให้ตรวจสอบสาเหตุกรณีถนนยุบบริเวณถนนสามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยนายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาชน เป็นผู้ตั้งกระทู้ถาม
นายปารเมศกล่าวว่า ประเทศไทยในวันนี้มีหลุมยักษ์อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แต่ประชาชนไม่ได้ยินสักคำ คำยืนยันหนักแน่นจากนายกรัฐมนตรี ว่า รัฐบาลจะสอบสวน เอาผิดผู้รับเหมาหากมีความผิดอยู่จริง ถ้านายรัฐมนตรีตรวจสอบแล้วพบความบกพร่องจากการก่อสร้างออกแบบจะมีการดำเนินคดีและมีการเรียกค่าเสียหายจากผู้รับจ้างหรือหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอย่างไร จะระงับการรับงานภาครัฐในอนาคตหรือไม่ และสัญญารัฐจะมีค่าปรับอย่างไร ถ้าการส่งมอบช้ากว่ากำหนด หากพบว่าเป็นความผิดพลาดทางวิศวกรรมที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสาธารณะครั้งนี้
“ท่านจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดข้อครหาในการตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ ท่านจะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่มีสัดส่วนจากผู้เชี่ยวจากประชาชนมากน้อยแค่ไหน เพราะจะแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสและกระบวนการในการตรวจสอบ”นายปารเมศกล่าว
นายปารเมศกล่าวว่า คณะกรรมการตรวจสอบควรจะมีองค์กรที่เป็นอิสระ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางวิชาชีพเป็นผู้ตรวจสอบด้วย และจำนวนต้องมากเพียงพอเพื่อให้ความเห็นมีน้ำหนัก และเรียกร้องให้ผลการตรวจสอบแต่ละขั้นตอนขอให้เปิดเผยต่อสาธารณะทุกขั้นตอน เหนือสิ่งอื่นใดขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีได้ใช้ควากล้าหาญทางการเมืองดำเนินการเรื่องนี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมา
นายปารเมศกล่าวว่า ประเด็นที่จะตั้งคำถามต่อไป เป็นประเด็นที่สังคมจับตาไม่แพ้กัน รัฐบาลจะตรวจสอบเหตุการณ์นี้อย่างโปร่งใส ตรงไปตรงมาหรือไม่ เพราะเป็นที่ทราบว่า โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าดังกล่าว มีผู้รับจ้าง คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับจ้างงานออกแบบและก่อสร้างอุโมงค์
“สิ่งที่ประชาชนกังขาเรื่องความโปร่งใสในโครงการนี้ คือ ความเกี่ยวพันทางการเมืองที่ไม่อาจปฏิเสธได้ และเป็นที่ทราบกันดี ว่าท่านนายกรัฐมนตรีเคยเป็นอดีตผู้บริหารบริษัท ซิโน-ไทย”นายปารเมศกล่าว
นายปารเมศกล่าวว่า ได้ดูคลิปที่นักข่าวถามนายอนุทินในประเด็นดังกล่าว แต่คำตอบที่ได้การเดินหายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ประชาชนจะตั้งคำถามและอยากได้คำตอบ คือ เมื่อนายอนุทินมีอดีตที่เชื่อมโยงกับบริษัทที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่า การสอบสวนครั้งนี้จะโปร่งใส ไม่ถูกบิดเบือน และความรับผิดชอบจะไม่หายไปกับหลุมที่ถูกยุบไป

@ ไม่ปกป้อง ‘ซิโน-ไทย’
นายอนุทินกล่าวว่า กรณีได้รับคำถามจากผู้สื่อข่าวที่ถามถึงความเกี่ยวพันกับผู้รับจ้าง (บ.ซิโน-ไทย) นั้น แต่ไม่ตอบคำถาม เพราะทราบดีว่าวันหนึ่งต้องมาตอบในสภาและต้องการตอบครั้งเดียว ซึ่งตนเองอยู่ในการเมืองมา มาเป็นรัฐมนตรีในปี 2547 นับถึงวันนี้ผ่านมาแล้ว 21 ปี และทราบดีถึงข้อจำกัดต่างๆ เพราะมาจากภาคเอกชน แต่เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว การที่ตัดสินใจมาทำงานการเมืองและรับใช้ประเทศชาติ รู้ข้อจำกัดดี เราจึงต้องเคลียร์ตัวเองให้หมด และใช้เวลา 21 ในการเมือง และออกจากการเป็นผู้บริหารภาคเอกชน ไม่ใช่เฉพาะบริษัท ซิโน-ไทย แต่ทุกบริษัท 20 กว่าปีก่อน เป็นกรรมการ เป็นผู้บริหารหลายบริษัทด้วยกัน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องละทิ้งตำแหน่งเหล่านั้น เพื่อมาทำงานการเมือง สละสิทธิต่างๆ
นายอนุทินกล่าวว่า สิ่งที่ทำล่าสุดเมื่อปี 62 ขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คือ การขายหุ้นในบริษัท ซิโน-ไทย ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจนหมด ไม่เหลือแม้แต่หุ้นเดียว ไม่มีการถือหุ้นใดๆ ที่มีความขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ หรือ กฎระเบียบที่กำหนดไว้ในการเข้ามาทำงานการเมือง และเมื่อมารับตำแหน่งเป็นรองนายกฯ รมว.สาธารณสุขด้วย ก็ต้องเคลียร์ออกให้หมด
นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกิจการภาคเอกชนใดๆ เลยตั้งแต่ลาออกมาทำงานการเมืองตั้งแต่ปี 2547 เมื่อพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองไปเมื่อปี 49 ก็ไม่ได้กลับเข้าไปทำงานในบริษัทภาคเอกชนอีก เน้นในการทำงานการเมืองจนถึงปัจจุบัน
“กรณีนี้ ตัวผู้รับจ้าง ถึงแม้ว่าจะเป็นบริษัทที่ผมเคยบริหารงานมาก่อนเมื่อ 20 กว่าปีก่อนนั้น ขอย้ำว่า 20 กว่าปีก่อน ป่านนี้เดินเข้าไปในบริษัทก็คงเหลือไม่กี่คนที่จะจำผมได้เท่าไหร่ นอกจากรู้ว่านายอนุทินหน้าตาเป็นแบบนี้ ความผูกพัน ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบไม่มีแล้ว เพราะคนที่เคยทำงานร่วมกับผมตอนนี้ก็เกษียณอายุกันไปหมดแล้วเช่นกัน”นายอนุทินกล่าวและว่า
“ดังนั้น เรื่องของการปกป้องเพื่อให้เขา (บริษัทผู้รับจ้าง) ได้เกิดประโยชน์ ไม่มี ผมกับบริษัท ซิโน-ไทย ตอนนี้ก็เหมือนกับไม่รู้จักกัน รู้ว่าเป็นบริษัทก่อสร้าง และรู้ว่ายังดำเนินธุรกิจอยู่ ผมมาอยู่ในภาครัฐ ท่านไปเช็ก ไปตรวจดูได้เลยว่า ไม่มีตรงไหนเลยที่ผมได้เคยใช้ความเกี่ยวข้อง อิทธิพล หรือ การโน้มน้าวใดๆ เพื่อให้การช่วยเหลือบริษัทนี้เลย”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีมีสิทธิสั่งการกระทรวงคมนาคมอยู่แล้ว จะให้อิสระในการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหายเรื่องนี้หรือไม่นั้น ขอให้สัตยาบันว่า นอกจากจะให้อิสระแล้ว จะไม่เกี่ยวข้องกับการตั้งคณะกรรมการอย่างแน่นอน
“เรื่องพวกนี้ผมไม่เคยเสียหาย ผมเสียเพื่อนไปหลายคน ในการที่ผมไม่ได้ใช้อิทธิพล หรือ แม้กระทั่งใช้อำนาจใดๆ ในการให้ความช่วยเหลือพวกเขา ทุกครั้งที่มีการขอให้ผมได้ใช้อำนาจที่มีในทางราชการให้ช่วยเหลือ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ เรื่องน้อย คำตอบที่ได้จากผมคือความว่างเปล่า ในไลน์มีแต่คำว่ากรุณาอ่านไลน์ด้วย ๆ ๆ ผมไม่ต้องอ่าน ผมก็กดแบบไม่ read ท่านคงทำเป็น พอเห็นเรื่องนี้มาปุ๊บ ผมก็ นอกจากไม่ read แล้ว บางคนผมบล็อกด้วย”นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวว่า ขอให้ความมั่นใจว่า คณะกรรมการตรวจสอบต้องประกอบไปด้วยองค์กรอิสระจำนวนมาก เช่น สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย คณะบดีของคณะวิศวกรรมศาสตร์ หรือ สถาปัตยกรรมสถาน ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิที่เกี่ยวข้อง ทุกคนมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (ใบ กว.) เรื่องนี้ไม่มีทางที่จะให้เขาเห็นแก่ประโยชน์ หรือ อิทธิพลใดๆ ได้ ทุกคนต้องรักษาวิชาชีพของตัวเอง และจะติดตามด้วยตัวเอง

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา