
'รังสิมันต์ โรม' เปิด 3 แนวทางแก้ปัญหากลุ่มทุนเทายึดประเทศ 'เอาผิดบริษัทเก็บข้อมูลม่านตา-ร่วมมือสหรัฐฯสืบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์-เร่งรัดการแก้ไขกฎหมาย'
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่พรรคประชาชน (ปชน.) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค ปชน. แถลงโรดแมปการติดตามเปิดโปงกลุ่มทุนเทายึดประเทศ ที่มีเครือข่ายพัวพันกับนักการเมืองระดับสูงของไทยและกัมพูชา ว่าแนวทางที่ ปชน.จะดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ ต้องอาศัยทุกช่องทาง รัฐบาล ความร่วมมือระหว่างประเทศ มี 3 แนวทาง
นายรังสิมันต์กล่าวว่า แนวทางแรก ติดตามงานเท่าที่มีข้อมูลเพื่อเอาผิดในเรื่องที่มีบางบริษัทไปเก็บข้อมูลชีวมิติโดยการสแกนม่านตา หน่วยงานรัฐที่รวบรวมข้อมูลมา พบว่า มีการสแกนม่านตามากกว่า 1 ล้านและอาจจะสูงถึง 2 ล้านคน เป็นการเก็บข้อมูลหลายจุด ไม่ทุกจุด ไม่มีการเปิดเผยชัดเจน ไม่มีการให้รายละเอียดมากพอกับประชาชนที่สแกนม่านตา มีขบวนการเกณฑ์ประชาชน โดยการจ่ายเงินไปก่อน 500 บาท โดยที่ตัวเองได้เหรีญคริปโตประมาณเหรียญละ 2,000 บาท

“เรากังวลว่า การเก็บข้อมูลในลักษณะนี้ ไม่มีทางรู้ว่าเอาไปใช้อะไรและจะส่งผลเสียมากน้อยแค่ไหน อาจจะมีการปลอมแปลงตัวบุคคลในโลกออนไลน์ หากทำสำเร็จจะเกิดปัญหาอาชญากรรมนานับประการ และมีข้อมูลรั่วไหลมากมาย และมีความสุ่มเสี่ยงที่จะขัดกฎหมายกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและสินทรัพย์ดิจิทัล”นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า เบื้องต้นทางกมธ.ฯได้ให้ข้อมูลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาร่วมกัน
“เราพบว่ามีข้อมูลเชื่อมโยงไปสู่บางบริษัทที่อาจจะเกี่ยวพันกับกลุ่มทุนกัมพูชาด้วย เครือข่ายนายยิม เลียก และนายเบน สมิธ เช่นกัน เราอยู่ระหว่างตรวจสอบและเสาะหาผู้ที่ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงในเรื่องนี้”นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า คาดหวังว่า ก.ล.ต. สคส. ตำรวจไซเบอร์ จะมีแนวทางเชิงรุก หาผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ใครบ้างเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนกัมพูชาที่เกี่ยวพันกับแก๊งสแกมเมอร์หรือไม่ เป็นผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องกับการฟอกระดับโลกกับเรื่องอื่นๆหรือไม่
@ ร่วมมือสหรัฐฯแก้เครือข่ายสแกมเมอร์
แนวทางที่สอง การสืบสวนเครือข่ายสแกมเมอร์ที่เกี่ยวพันกับนายยิมเลียกและนายเบนสมิธ ซึ่งล่าสุด กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐอเมริกา กำลังสอบสวนเรื่องนี้ เป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลจะร่วมมือกับทางการสหรัฐฯ ในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติที่หน่วยงานของรัฐทั้งหมดควรจะให้ความสำคัญ วันนี้ประเทศไทยจำเป็นต้องขอความร่วมมือกับหน่วยงานอย่าง ทินเซน เพื่อสอบสวนในเรื่องนี้ต่อไป และควรมีการแลกเปลี่ยนกรณีบริษัท หุย วัน ของตระกูลฮัน ที่มีการฟอกเงินจำนวนมากมายมหาศาล เพื่อขยายผล ปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ ซึ่งใช้ไทยเป็นบ้านหลังที่สอง หากร่วมมือกับนานายชาติจะสามารถปราบปรามได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดมากกว่าที่เป็นอยู่”นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันตกล่าวว่า ความร่วมมือระหว่างประเทศที่สามารถดำเนินการได้ วันนี้พบว่ามีบริษัทที่ช่วยปกปิดตัวตนผู้ได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง หรือ เป็นกองทุนเกี่ยวข้อง เครื่องมือเข้ามาลงทุนในบริษัทต่างๆที่สำคัญในประเทศไทย ซึ่งกองทุนเชื่อมโยงกับเครือข่ายในกัมพูชา มีอยู่ 6-7 บริษัท หรือ กองทุน ที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ซึ่ง ก.ล.ต. ต้องทำงานร่วมกับธนาคารกลางและกลต.สิงคโปร์ (MAS) ซึ่ง กลต.รับปากว่าจะประสานงานต่อไป

@ เร่งรัดการแก้ไขกฎหมาย
นายรังสิมันต์กล่าวว่า แนวทางที่สาม การเร่งรัดการแก้ไขกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปปง. หากสำเร็จ จะมีการเปลี่ยนแปลง หรือ บังคับใช้ทราเวลรู สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของคริปโตและตรวจสอบได้ง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งกมธ.ฯความมั่นคง แนะนำว่า ไม่ต้องรอให้พ.ร.บ.ออกมา เช่น กฎกระทรวง หรือ ระเบียบกลต. ซึ่งหวังว่า ทราเวลรู จะนำมาใช้ได้โดยเร็ว ไม่ใครมีข้ออ้าง ไม่อยากให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนจนไม่มีการใช้ทราเวลรู
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ในส่วนของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีข้อมูลว่า นายลิมยงพัด สมาชิกวุฒิสภากัมพูชา มีความใกล้ชิดกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เป็นอย่างมาก มีทรัพย์สินในไทยจำนวนมาก มีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินจำนวนมาก โดยขอความร่วมมือ ธปท. เพื่อร่วมมือกับ ปปง. ในการอายัดทรัพย์สิน
@ ต้องยกเครื่องกลไกการปราบปรามการฟอกเงิน
นายรังสิมันต์กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันจำเป็นต้องยกเครื่องกลไกการปราบปรามการฟอกเงิน ปัจจุบันต่างคนต่างทำ ท่าทีของนายอนุทินมีความสำคัญต่อการส่งสัญญาณในเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นท่าทีนั้น ชื่อเบนสมิธปรากฎอยู่ในวงการต่างๆเป็นเวลานานเป็นปี ทุกคนรู้จักหมด แต่การติดตามเชิงรุกกลับไม่เกิดขึ้น
นายรังสิมันต์กล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยควรมีการให้สัตยายัน ยูเอ็นซีซี 2024 เดดไลน์ภายในวันที่ 31 ต.ค.69 รวมถึงอนุสัญญาบูดาเปต ว่าด้วยอาชญากรรมไซเบอร์และการฟอกเงิน
นายรังสิมันต์กล่าวว่า สุดท้าย ในฐานะประธานกมธ.ฯมั่งคง ในวันที่ 30 ต.ค.จะเชิญนายวรภัค ธันยาวงษ์ รมช.คลัง มาให้ข้อมูล เพราะนายวรภัคเกี่ยวกับธนาคารบีไอซี หรือ บีไอซี กรุ๊ป ของนายยิมเลียก การไปเกี่ยวข้องดังกล่าว ถูกกล่าวหาว่า เกี่ยวพันและเชื่อมโยงกับสแกมเมอร์ต่างๆ เชื่อว่า นายวรภัคจะสามารถให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการปราบปรามแก๊งฟอกเงินอย่างเป็นระบบ
“หวังว่านายวรภัคจะมาด้วยตัวเอง ไม่ส่งทนายความหรือคณะทำงานมา เพราะ ณ วันที่นายวภัคเป็นกรรมการที่ปรึกษาของบีไอซีกรุ๊ป หรือ ธนาคารบีไอซี บทบาทของนายวรภัค ทำเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเอง และในฐานะที่นายวภัคในวันนี้เป็นนักการเมืองแล้ว ควรจะมาให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อนำไปสู่การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์อย่างเป็นระบบ เพื่อให้ปราบปรามบรรดาองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติเหล่านี้ให้ได้ผลอย่างแท้จริง”นายรังสิมันต์กล่าว
“อยากเรียกร้องว่า นายอนุทินเงียบไปจริงๆ ควรที่จะมีท่าทีออกมาได้แล้วว่า ตกลงแล้ว รองนายกฯของท่านที่ไปเกี่ยวข้องกับนายเบนสมิธ ไม่ต้องพูดกันอีกแล้วว่า นายเบนสมิธมีประวัติความเป็นมาอย่างไร นายเบนสมิธที่เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จฮุนเซน ได้รับการคุ้มครองจากร.อ.ธรรมนัส ผ่านคณะทำงานของร.อ.ธรรมนัส นายอนุทินจะไม่ดำเนินการอะไรเลยใช่หรือไม่ ไม่ออกมาพูดอะไรเลยใช่หรือไม่ หรือ จะปล่อยให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นต่อไปใช่หรือไม่”นายรังสิมันต์กล่าว

“การไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับสื่อมวลชน ประชาชน ถึง 270 ราย คิดว่าไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราอยากจะเห็น ถ้ารัฐบาลนี้แถลงนโยบายว่าต้องการรักษาหลักนิติธรรม สิ่งที่ควรจะเป็น หรือ สิ่งที่ควรได้รับการแก้ไขทันที คือ รองนายกฯ ที่ใช้กลไกกฎหมายฟ้องปิดปากควรจะไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นการละเมิดต่อหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นแนวนโยบายของรัฐบาลเสียเอง”นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวว่า อยากเห็นนายอนุทินออกมาพูดเรื่องนี้อย่างจริงจัง ควรใช้โอกาสนี้ประกาศให้ประเทศไทย คนไทย ได้เห็นว่า ต้องการทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาตินี้ ไม่ปล่อยให้กลุ่มทุนสีดำ สีเทาทั้งหมดมายึดประเทศไทย
“ไม่ใช่แค่ ร.อ.ธรรมนัส ยังมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นายวรภัค ที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้อง เชื่อมโยงกับทุนสีเทา วันนี้ 3 รัฐมนตรีในรัฐบาลนายอนุทิน แต่นายอนุทินยังคงเงียบไม่ดำเนินการอะไร เป็นเรื่องใหญ่ เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้จบลงด้วยความเงียบแต่นอน”นายรังสิมันต์กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา