
WJP โครงการยุติธรรมโลกจากสหรัฐฯ จัดไทยได้อันดับ 77 ดัชนียุติธรรมโลก พบอันดับดีขึ้นกว่าปี 67 แต่คะแนนยังรั้งท้ายเรื่องกระบวนการทางอาญาได้แค่ 0.42 คะแนน พบดีสุดด้านความมั่นคงได้ 0.75 คะแนน ส่วนด้านปราศจากคอร์รัปชั่นได้แค่ 0.45 คะแนน ผอ. TIJ จี้ทำฐานข้อมูลแบบเปิด ปรับปรุงด้านความโปร่งใส
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อปลายเดือน วันที่ 28 ต.ค. โครงการความยุติธรรมโลกหรือ WJP ซึ่งเป็นองค์กรประชาสังคมระหว่างประเทศที่มีพันธกิจในการ "ทำงานเพื่อพัฒนาหลักนิติธรรมทั่วโลก" มีที่ทำการหลักที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สหรัฐอเมริกา ได้เผยแพร่ดัชนีหลักนิติธรรมของปี 2568 หรือ World Justice Project: Rule of Law Index 2567 โดยประเทศไทยได้อันดับในดัชนีนี้อยู่ที่อันดับ 77 ดีขึ้นกว่าปี 2567 ที่ไทยอยู่ในอันดับ 78 จากจำนวนประเทศทั้งหมด 143 ประเทศ
อย่างไรก็ตามในเว็บไซต์ WJP ระบุว่าไทยได้อันดับดีขึ้นกว่าปีก่อนหน้า 2 อันดับ (ปีก่อนหน้ามีประเทศเข้าร่วมการจัดอันดับ 146 ประเทศ) โดยไทยได้คะแนนรวม 0.50 คะแนน จากเต็ม 1.00 คะแนน เท่ากับปีก่อนหน้า
โดยมีประเทศที่ได้ 0.50 คะแนนเท่ากับประเทศไทยได้แก่สาธารณรัฐโดมินิกันในอันดับที 76 บราซิล ในอันดับที่ 78 ฮังการี ในอันดับที่ 79 กายอานา ในอันดับที่ 80 อุซเบกิสถาน ในอันดับที่ 81 เบลีซ ในอันดับที่ 82 และเวียดนามในอันดับที่ 83
สำหรับคะแนนในปลีกย่อยในด้านต่างๆจำนวน 8 ด้าน ได้แก่ 1. การจำกัดอำนาจรัฐ ได้ 0.47 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 (0.46) 2. การปราศจากคอร์รัปชัน ได้ 0.45 คะแนน ลดลงจากปี 2567 (0.46) และเป็นด้านเดียวที่ได้คะแนนลดลง 3. การมีรัฐบาลเปิด ได้ 0.48 คะแนน เท่ากับปี 2567 4. สิทธิและเสรีภาพ ได้ 0.49 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 (0.48) 5. ระเบียบและความมั่นคง ได้ 0.75 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 (0.74) 6. การบังคับใช้กฎหมาย ได้ 0.45 คะแนน เท่ากับปี 2567 7. กระบวนการยุติธรรมทางแพ่ง ได้ 0.50 คะแนน เท่ากับปี 2567 และ 8. กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ได้ 0.42 คะแนน เพิ่มขึ้นจากปี 2567 (0.41)
ส่วนประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนนั้นพบว่าประเทศสิงคโปร์ อยู่ในอันดับที่ 16 ได้ 0.78 คะแนน มาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 55 ได้ 0.57 คะแนน อินโดนีเซียอยู่ในอันดับที่ 69 ได้ 0.52 คะแนน ฟิลิปปินส์อยู่ในอันดับที่ 97 ได้ 0.46 คะแนน เมียนมาอยู่ในอันดับที่ 138 ได้ 0.34 คะแนน และกัมพูชาอยู่ในอันดับที่ 141 ได้ 0.31 คะแนน ส่วนประเทศอื่นๆไม่มีข้อมูล
สำหรับประเทศที่ติดในห้าอันดับแรก ในดัชนีได้แก่ 1.เดนมาร์ก ได้ 0.90 คะแนน 2.นอร์เวย์ ได้ 0.89 คะแนน 3.ฟินแลนด์ ได้ 0.87 คะแนน 4.สวีเดน ได้ 0.85 คะแนน และ 5.นิวซีแลนด์ ได้ 0.83 คะแนน
และประเทศที่ได้อันดับรั้งท้ายในห้าอันดับได้แก่ 139. นิคารากัว ได้ 0.33 คะแนน 140. เฮติ ได้ 0.32 คะแนน 142. อัฟกานิสถาน ได้ 0.31 คะแนน และ 143. เวเนซุเอลา ได้ 0.26 คะแนน
ด้านนายพิเศษ สอาดเย็น ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการยุติธรรมแห่งประเทศไทย (TIJ)
กล่าวว่า แม้ประเทศไทยจะได้ผลคะแนนเท่าเดิมเมื่อเทียบกับปีก่อน และขยับอันดับขึ้นจากอันดับที่ 78 ของโลกเป็นอันดับที่ 77 แต่ต้องยอมรับว่า ผลคะแนนของไทย ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (0.59) และยังไม่หลุดพ้นจากกลุ่มประเทศที่มีค่าคะแนนต่ำกว่ามาตรฐานโลก (0.55) สะท้อนถึงความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องเร่งปรับปรุงเชิงโครงสร้างของระบบหลักนิติธรรม ทั้งในมิติของความโปร่งใส การตรวจสอบอำนาจรัฐ และการเสริมความเป็นอิสระของกระบวนการยุติธรรม
“ผลการประเมินปีนี้เป็นสัญญาณเตือนสำคัญว่า ประเทศไทยยังคงอยู่ในกลุ่มที่ต้องเร่งฟื้นฟูความน่าเชื่อถือของระบบนิติธรรม เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง เพื่อให้หลักนิติธรรมเป็นพื้นฐานที่จะสร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย” ผู้อำนวยการ TIJ กล่าว
นายพิเศษกล่าอีกว่าหากดูจากคะแนนทั้ง 8 ด้านจะเห็นว่า หนึ่งในนั้นคือเรื่องคอร์รัปชันซึ่งเป็นปัจจัยที่ไทยได้คะแนนลดลง ซึ่ง TIJ กำลังพยายามอย่างเต็มที่ร่วมกับอีกหลายองค์กรในการผลักดันให้ระบบฐานข้อมูลภาครัฐของไทย เป็นระบบฐานข้อมูลเปิด หรือ Open Government เพราะเราเชื่อว่า เป็นแนวทางที่จะช่วยให้เกิดความโปร่งใสขึ้นได้ในระยะเวลาไม่นาน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา