
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประกาศ ตัดแขน-ขา วงจรอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โอด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พายุโหมกระหน่ำ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลั่น ตำรวจทั้งประเทศรับไม่ได้ ถูก 'บุคคลภายนอก' กล่าวหาเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวในระหว่างพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (Memorandum of Understanding: MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทยเป็นประธานว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่นายกรัฐมนตรีได้ประกาศเป็นนโยบายว่า ปัญหาสแกมเมอร์เป็นภัยคุกคามที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศระบบเศรษฐกิจและประชาชน ยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมุ่งมั่น เหน็ดเหนื่อย ทุ่มเท สรรพกำลังกาย กำลังใจ ระดับความคิด ช่วยกันทำงาน 2 มิติ มิติแรก นอกประเทศ ยืนยันว่า ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย ที่เป็นฐานที่ตั้ง อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน มีการประสานกับตำรวจสากล และสหประชาชาติ และมิติในประเทศ ในการป้องกันและปราบปราม มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันแลปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีรองผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการ นอกจากนี้ยังตั้งวอร์รูม หรือ ศูนย์ประสานงานการป้องกันการค้ามนุษย์และคอลเซนเตอร์
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ได้ให้นโยบายกับรองผบ.ตร. ว่า องค์ประกอบที่เป็นแขนขาต้องตัด ประสานความร่วมมือกับคน การขยายผล การขอข้อมูลจากต่างประเทศและส่งข้อมูลที่มีให้ประเทศเพื่อนบ้าน ขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง คัดแยกคนเข้าออกที่มีลักษณะผิดปกติ ซึ่งจะตั้งทีมชุดปฏิบัติการสืบสวน โดยตนเองจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง เพื่อดูคนเข้าออกผิดปกติที่ใช้วีซ่านักท่องเที่ยว หรือ วีซ่าการศึกษาเข้ามา ส่วนสายและเสา ต้องทำลายและตัดให้หมดเพื่อทำลายแขนขา ขณะที่ซิมการ์ด มีการสอบสวน ตรวจค้น ได้ซิมบ็อกซ์เป็นจำนวนมาก เพื่อตัดวงจรสแกมเมอร์
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี ตำรวจไม่ดี หรือ ใครก็ตาม ยืนยันว่า ถ้าปรากฏข้อมูล จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด และไม่มีช่วยเหลืออย่างแน่นอน นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายว่า ไม่ว่าเป็นใครก็ตามดำเนินคดีให้หมด ซึ่งจะเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด
“ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังถูกพายุโหมกระหน่ำ โจมตีเรื่องภาพลักษณ์ที่ถูกกล่าวหาว่า จากบุคคลภายนอก ผมย้ำว่าจากบุคคลภายนอกที่กล่าวหาว่าตำรวจเป็นองค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ในประเทศไทย ขีดเส้นใต้ การกล่าวหาว่าตำรวจเป็นองค์กร หมายความว่า เป็นการกล่าวหาตำรวจทั้งประเทศ และเป็นการกล่าวหาสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่รุนแรงมาก รู้สึกเจ็บปวด ผมอดทน ตั้งสติและทำงานมาจากการถูกโจมตีมาโดนตลอด แต่การกล่าวหารุนแรงเช่นนี้ ผมเชื่อว่า ตำรวจทั้งประเทศรับไม่ได้”พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าว
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจะกล่าวหากันอย่างไรก็ว่ากันไปตามกฎหมาย แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้คำมั่นสัญญากับนายกรัฐมนตรี เราจะมุ่งมั่นทำงาน ก้มหน้าก้มตาและจะปฏิบัติตามบันทึกความเข้าใจนี้ให้บังเกิดผลตามนโยบายของรัฐบาลและความตั้งใจของรัฐมนตรีอย่างแน่อน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา