
คมนาคม เชิญ สหภาพฯกทพ.-กลุ่มค้านทางด่วน 2 ชั้น เข้าหารือ หยั่งท่าทีชัด! กระทรวงฯไม่เลิกโปรเจ็กต์ แม้กลุ่มพนักงานจะยืนยันต้องค้านโครงการ แต่ชวนทำ Work Shop เอาสัญญามากางดูข้อดี-ข้อเสียร่วม กันสื่อเข้า ชี้ชัดเป็นการสอดไส้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมหารือกับ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.)นำโดย นายมานพ เกื้อรัตน์ เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ และ นายสาวิทย์ แก้วหวาน ที่ปรึกษาสหภาพฯ
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ โดยเฉพาะโครงการ ทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck Expressway) ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในกว่า 21 โครงการของการทางพิเศษที่อยู่ในแผนการแก้ไขปัญหาการจราจรบนโครงข่ายทางพิเศษทั่งระบบ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไดัมีมติรับทราบผลการศึกษาตามติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่ิอวันที่ 5 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา
นายพิพัฒน์กล่าวต่อว่า ได้ย้ำแนวทางการพิจารณาโครงการใด ๆว่าหลักสำคัญคือ ผู้ใช้งานจริงต้องได้ประโยชน์ รัฐต้องไม่เสียประโยชน์ องค์กรต้องอยู่ได้ และเอกชนต้องไม่เอาเปรียบเกินไป โดยรัฐบาลมีแนวทางลดภาระค่าครองชีพ โดยหาแนวทางเพื่อจัดทำมาตรการสนับสนุน เช่น รถไฟฟ้า 40 บาท ทางด่วน 50 บาท แต่ทุกอย่างต้องทำด้วยความรอบคอบ โปร่งใส และไม่เพิ่มภาระหนี้สาธารณะของประเทศ
นายพิพัฒน์ยังระบุว่า การลดค่าทางด่วนให้มองในภาพรวมและผลที่จะได้รับ ซึ่งไม่ใช่เรื่องของรายได้ลดลงเพียงด้านเดียว เพราะหากบริหารจัดการอย่างเหมาะสม จะเพิ่มปริมาณผู้ใช้บริการและสร้างสมดุลระหว่างรัฐ เอกชน และผู้บริโภค พร้อมกล่าวขอบคุณสหภาพแรงงานฯ ที่นำข้อมูลมาชี้แจงและแสดงจุดยืนเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ รัฐมนตรีฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องนำข้อเสนอและเอกสารจากสหภาพแรงงานฯ ไปศึกษาต่อในรายละเอียด โดยจะหารือร่วมกับปลัดกระทรวงคมนาคม การทางพิเศษฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงรายงานต่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอย่างรอบด้านก่อนดำเนินการ

@ค้านสร้างด่วน 2 ชั้น อัดแฝงขยายสัมปทาน
ด้านนายบัณฑิต พรึงลำภู ประธานสหภาพสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า จากการเข้าพบนายพิพัฒน์ สหภาพฯเสนอให้รัฐมนตรียกเลิกแนวคิดการก่อสร้างทางด่วน 2 ชั้นนี้ เนื่องจากรัฐจะเสียหายและประชาชนจะถูกหลอกโดยทางสหภาพฯได้นำเรียนข้อมูลให้ทราบถึงโครงการอื่นๆที่มีความจำเป็นมากกว่า โครงการทางด่วน 2 ชั้น ได้แก่ โครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ซึ่งประกอบด้วย 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ ช่วงอุโมค์ทางด่วน N1 จากทางด่วนศรีรัช - แยกลาดปลาเค้า - แยกสุคนธสวัสดิ์, N2 ช่วงแยกสุคนธสวัสดิ์-ฉลองรัช-แยกนวมินทร์-วงแวนรอบนอกกรุงเทพตะวันออก และ N3 ช่วงนวมินทร์-ศรีนครินทร์
แต่สำหรับโครงการทางด่วน 2 ชั้น ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจราจรตามที่กล่าวอ้าง เป็นเพียงการก่อสร้างทางยกระดับอีกขั้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งรถทุกคันก็จะไปกองรวมกันที่แถวพระราม 9 และรถก็จะติดอยู่ดี แถมความปลอดภัยในการก่อสร้างก็จะควบคุมยาก เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากเป็นการก่อสร้างทางยกระดับคล่อมทางด่วนอีกชั้นหนึ่ง คล้ายกับโครงกรก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ที่เป็นประเด็น โดยตามแผนงานจะใช้เวลาก่อสร้างถึง 4 ปี อีกทั้งการทำโครงการนี้ก็เพื่อขยายสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน เพราะหลังจากที่มีการทำสัมปทานเพื่อเคลียร์ข้อพิพาทต่างๆเมื่อปี 2563 ซึ่งมีผลไปเมื่อวันที่ 1 มี.ค.2563 และจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 31 ต.ค.2578 โดยจะเหลือเวลาอีกแค่ 9 ปีเท่านั้น เมื่อหมดสัมปทานแล้ว กทพ.ก็จะสามารถกำหนดค่าผ่านทางที่มีราคาถูกลงได้เอง
นอกจากนี้ ประธานสร.กทพ.ยังระบุด้วยว่า สัญญาฉบับใหม่ที่กำลังผลักดันกันนั้น ไม่เคยมีการเปิดเผยให้สาธารณชนรับทรามาก่อน อ้างแต่ว่า จะมีการปรับค่าผ่านทางให้เหลือ 50 บาท ทั้งๆที่ในสัญญาบอกไว้ว่า จะมีการขึ้นค่าผ่านทางรวม 3 ครั้ง ได้แก่ ปี 2571 ขึ้น 10 บาท, ปี 2581 อีก 10 บาท และปี 2591 อีก 10 บาท จึงเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมและผู้เกี่ยวข้องเอาสัญญามาเปิดเผยกับประชาชนให้ทราบ
@หยั่งท่าที คมนาคมไม่เลิก แต่โปรยยาหอมชวนทำ Work Shop
“หลังจากที่ได้มีข้อเสนอไป ทางกระทรวงไม่ได้มีท่าที่ในการทบทวนโครงการแต่อย่างใด แต่ชวนสหภาพฯให้มาตั้งวอร์รูมเพื่อทำ Work Shop ร่วมกัน แล้วจะเอาสัญญามากาง เพื่อดูร่วมกันว่า สหภาพฯมีประเด็นอะไรที่ยังติดขัด ท่านรัฐมนตรีบอกว่าให้มาคุยกันใหม่ คงเป็นหน้าที่ของสหภาพฯที่ต้องทวงถามไปเป็นระยะๆ ซึ่งรูปแบบ Work Shop ก็ยังไม่ชัดว่าจะจัดแบบไหน เพียงแต่จะชวนคุยข้อดี-ข้อเสียของโครงการ ซึ่งรูปแบบการ Work Shop นี้จะไม่มีสื่อมวลชนเกี่ยวข้อง เป็นการทำกันระหว่างกระทรวง,สหภาพฯและกทพ.” นายบัณฑิตกล่าว
ประธานสหภาพฯกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ จะเดินทางไปยื่นหนังสือกับนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.พรรคประชาชนที่รัฐสภาในวันที่ 13 พ.ย.นี้

บัณฑิต พรึงลำภู ประธานสหภาพสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.)

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา