
'ประเสริฐ' ให้ปากคำ DSI คดีสแกมม่านตา Worldcoin โยง MOU บ.สิงคโปร์-กระทรวดีอี 27 มี.ค.67-ขอไม่เปิดข้อมูล อ้างเป็นความลับ เชื่อคดีนี้เอี่ยวการเมือง ด้าน DSI รวบรวมข้อมูลสแกนม่านตา 1.2 ล้านคน จ่อเรียกตัวผู้อยู่เบื้องหลัง MOU สอบเพิ่ม
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ณ ห้องสำนักงานรองอธิบดีดีเอสไอ ชั้น 8 ศูนย์ราชการฯ อาคารบี ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และอดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและนายวัลลภ รุจิรากร อดีต เลขานุการ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 148/2568 กรณีธุรกิจสแกนม่านตาแลกเหรียญคริปโตเคอเรนซี ภายใต้โครงการ Worldcoin ผ่านการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี จากประเทศสิงคโปร์ (Prime Opportunity Fund VCC Singapore) เมื่อวันที่ 27 มี.ค.67
นายประเสริฐได้ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนในประเด็นเรื่องการดำเนินการ MOU เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจนกระทั่งถึงเวลา 16.30 น.นายประเสริฐ ได้เปิดเผยว่า ตนขออนุญาตว่าข้อมูลที่ให้ดีเอสไอถือเป็นความลับ ขอไม่เปิดเผย ส่วนจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่นั้น ก็มองได้
เมื่อถามว่า MOU ฉบับดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2567 แต่เพิ่งมาเกิดประเด็นในตอนนี้ นายประเสริฐ กล่าวว่า ก็มองได้ว่าเป็นประเด็นทางการเมือง ส่วนจะเป็นเหมือนการดิสเครดิตก่อนการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่นั้น นายประเสริฐ ตอบว่า ครับ
เมื่อถามว่า MOU ดังกล่าวเพื่อมุ่งหวังพัฒนาการเงินและเศรษฐกิจของไทย หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายและมั่นใจว่าไม่มีประเด็นปัญหาใด ส่วนเรื่องการสแกนม่านตา จะมีผลระยะยาวใดหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบเลย
และเมื่อถามว่าใน MOU ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ไม่ได้มีการระบุถึงเรื่องการสแกนม่านตาเลยใช่หรือไม่ ปรากฏว่านายประเสริฐ ได้ยกมือไหว้ขอบคุณสื่อมวลชน ก่อนเข้าลิฟต์ลงจากศูนย์ราชการฯ อาคารบี กลับออกไป
ด้าน ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า นายประเสริฐ มาให้ปากคำในฐานะพยานในเรื่องการทำเอ็มโอยูฉบับดังกล่าวว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับที่มีการสแกนม่านตาคนไทย จำนวน 1.2 ล้านคน ว่าเอาไปเพื่ออะไร โดยนายประเสริฐ ให้การว่าไม่ทราบเรื่องการสแกนม่านตาว่ามีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
มีรายงานว่านายประเสริฐ ได้ให้การยืนยันกับคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ว่า มีคนหนึ่งในรูปภาพรวมหมู่ที่ปรากฏในเหตุการณ์การบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กับบริษัทไพรม์ ออพ พอร์ทูนิตี้ ฟันด์ วิซีซี จากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง MOU ฉบับดังกล่าว ซึ่งดีเอสไอจะได้เชิญมาสอบปากคำในฐานะพยานต่อไป
อ่านประกอบ:
- คำถามถึงประธาน ก.ล.ต. ลงนาม MOU-บ.สิงคโปร์ เคียงข้าง 'เบน สมิธ'
- เปิดภาพพิธีลงนามMOUกระทรวง DE-บ.สิงคโปร์ 'ธรรมนัส-เบน-นฤมล' ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน
- ‘ไชยชนก’ สั่งยกเลิก MOU บ.สิงคโปร์ หลังพบพิรุธเพียบ รับอาจเอี่ยวบุคคลโดนสหรัฐฯคว่ำบาตร
- เปิดเอกสารเต็ม MOU กระทรวง DE-บ.สิงคโปร์ หาผู้เชี่ยวชาญ IT 500 คน ทำศูนย์การเงินดิจิทัล

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา