
‘พรรคภูมิใจไทย’ คึกคักวันรับสมัคร สส.วันแรก ‘เอกนัฎ-ศุภมาส’ลุยกทม.ยืนยัน ‘เอกนิติ-ศุภจี’เตรียมช่วยหาเสียง แต่ยังอุบเป้าเมืองหลวง ‘วราวุธ’จูงมือผู้สมัครสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยืนยันอยู่พรรคอื่นแต่ยังเลือดสุพรรณ ขณะที่ ‘อนุทิน’ ลงพื้นที่อยุธยาช่วยบ้านใหญ่พันธ์เจริญวรกุล เผยขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ประเทศชนะทุกสิ่ง อ้อนประชาชนเลือกกลับมาทำคนละครึ่งพลัสเฟส 2
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า วันที่ 27 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดรับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ทั่วประเทศ จำนวน 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 27-31 ธ.ค. 2568 ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.นั้น
ในส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1-33 กรุงเทพฯนั้น นางสาวศุภมาศ อิสระภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีม กทม.พร้อมด้วยนายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ หัวหน้าทีมผู้สมัครกทม.ได้นำผู้สมัคร สส.กทม.มาถึงเป็นพรรคแรก เมื่อเวลา 06.27 น.
@เอกนิติ-ศุภจี ช่วยหาเสียงแน่ ยังไม่ตั้งเป้า สส.กทม.จะได้เท่าไหร่
นายเอกนัฏ ให้สัมภาษณ์ว่า มั่นใจในตัวผู้สมัครสส.กทม.ของพรรคทุกคนที่เลือกมา พรรคมีนโยบายที่นำเสนอ ไม่ใช่ทำแค่นโยบาย แต่บอกด้วยว่าจะทำอะไร ทำอย่างไร และเอาใครมาทำ เราถึงใช้คำว่าพูดแล้วทำพลัส ดังนั้น หากเรามีโอกาสในพื้นที่กทม. เราจะทำเต็มที่ เราไม่อ้อมค้อม ทั้งนี้ภายหลังจับเบอร์ผู้สมัครแล้วเสร็จ จะนำทีมผู้สมัครสส.กทม.ของพรรคไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในข่วงเวลาสั้นๆ และจะกระจายกันลงพื้นที่เพื่อหาเสียงประชาสัมพันธ์นโยบายของพรรคภูมิใจไทยได้เลย
“นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำเสนอนโยบายต่อผู้สมัครทุกคน และได้บอกชัดเจนว่าจะเอาใครมาทำงาน ตอนนี้ถ้าใครคิดถึงภูมิใจไทย ก็ต้องคิดถึงคนที่มีความรู้ความสามารถอย่าง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว มาทำงานคู่กับท่านนายกฯ นำพาประเทศไปสู่จุดที่ทำให้คนไทยกลับมาภูมิใจอีกครั้งหนึ่ง และผมในฐานะคนกรุงเทพฯ คนกรุงเทพฯจะต้องแบกภาระทั้งหมดของประเทศ ผมคิดว่ารัฐบาลต่อจากนี้ ต้องมาช่วยคนกรุงเทพฯแบกภาระนี้ไว้ สิ่งที่สำคัญคือความหวัง ผมเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์นิดๆ แต่ถ้าได้กลับมาอยู่อีก4ปี เชื่อว่าความหวังที่เรามีตลอดเวลาจะกลับมาเป็นความจริง” นายเอกนัฏกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งเป้าสส.ในพื้นที่กทม.จะได้กี่ที่นั่ง นางสาวศุภมาส กล่าวว่า ทุกคนมีการตั้งเป้า แต่คงพูดวันนี้ไม่ได้ ต้องขอเวลาให้ผู้สมัครลงพื้นที่ นำเสนอนโยบายต่างๆก่อน จึงจะมาประเมินอีกครั้ง แต่แน่นอนว่าเราตั้งเป้าเอาไว้
เมื่อถามว่า ในช่วงหาเสียง จะได้เห็นนางศุภจี และนายเอกนิติ มาช่วยหาเสียงหรือไม่ นางสาวศุภมาส กล่าวว่า เห็นแน่นอน เพราะทั้ง 2 คนเป็นผู้ช่วยหาเสียงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

เอกนัฎ พร้อมพันธ์ (ยืนกลาง) ในฐานะหัวหน้าทีมผู้สมัครสส.กรุงเทพฯ, นายเกรียงยศ สุดลาภา ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย (ยืนซ้าย) และนางสาวศุภมาส อิศรภักดี หัวหน้าทีม กทม. (ยืนขวา)
@อยู่ภูมิใจไทย แต่ยังเป็นลูกหลานคนสุพรรณฯ
ขณะที่จังหวัดสุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา ผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย สมาชิกพรรคภูมิใจไทยในฐานะว่าที่ผู้สมัคร สส. ทั้ง 5 เขต ของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ นายสรชัด สุจิตต์ ผู้สมัครเขต 1 นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ผู้สมัครเขต 2 นายนพดล มาตรศรี ผู้สมัครเขต 3 นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ผู้สมัครเขต 4 และนายประภัตร โพธสุธน ผู้สมัครเขต 5 ร่วมกันเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองสุพรรณบุรี เป็นการเอาฤกษ์เอาชัย และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนไปสมัครรับเลือกตั้งพร้อมกันที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี
นายวราวุธ ให้สัมภาษณ์ว่า ขอเรียนพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีว่าวันนี้เราใส่เสื้อพรรคภูมิใจไทย แต่เรายังเป็นลูกหลานคนสุพรรณบุรี เป็นลูกหลานของนายบรรหาร เป็นทีมงานของพ่อบรรหาร และเพื่อความก้าวหน้า เพื่อความที่พวกเราทั้ง 6 คน จะสามารถดูแลพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีได้อย่างต่อเนื่อง ดั่งที่เคยทำมาหลาย สิบปี วันนี้เรามาขอโอกาสและขอความเมตตาจากชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเดินทางร่วมกับพวกเราเพื่อให้ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรีได้อย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม บ้านเราคือจังหวัดสุพรรณบุรี ดังนั้นสิ่งที่ในอยู่ในเลือดเนื้อของเราคือ เลือดสุพรรณ เราไม่ได้หนีไปไหนเราอยู่พรรคภูมิใจไทย และจะมาช่วยกันทำให้จังหวัดสุพรรณบุรีก้าวหน้า มีความเจริญรุ่งเรือง และจะทำเช่นนั้นได้ก็ต้องขอโอกาสจากพี่น้องชาวจังหวัดสุพรรณบุรี พวกเราทั้ง 6 คน เพื่อความก้าวหน้าและความมั่นคงที่จะทำงานให้กับพี่น้องจังหวัดสุพรรณบุรีเราจึงมาทำงานร่วมกับพรรคภูมิใจไทย ขอให้คำมั่นว่าจะกลับมาพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรีให้ดียิ่งยิ่งขึ้น

@’อนุทิน’ โผล่ ‘อยุธยา’
ส่วนความเคลื่อนไหวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เช้าวันนี้เดินทางไปที่สนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางสาวธนนนท์ นิรามิษ ภรรยา เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยในการจับเบอร์ ทั้ง 5 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายทรงพล สุขสมบูรณ์, เขต 2 นายนพ ชีวานันท์, เขต 3 น.ส.พิมพฤดา ตันจรารักษ์, เขต 4 นายคงกฤช รามศักดิ์ และเขต 5 นายประดิษฐ์ สังขจาย โดยมี นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รองหัวหน้าพรรคฯ, นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร อดีตรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และอดีต ส.ส.พระนครศรีอยุธยา รอต้อนรับ
นายอนุทินให้สัมภาษณ์ว่า ความมั่นใจในสนามเลือกตั้งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาต้องขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน แต่ตลอดช่วงที่ผ่านมา ส.ส.พรรคภูมิใจไทยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ทำหน้าที่รับใช้พี่น้องชาวอยุธยาอย่างเต็มที่ และได้ให้นายสุรศักดิ์ เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน ซึ่งนายสุรศักดิ์ถือว่าเป็นหัวหน้าทีมที่นำผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ทั้ง 5 คน มานำเสนอให้พี่น้องชาวอยุธยาได้พิจารณา
ส่วนหวังว่าจะได้ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ครบทั้ง 5 เขตเลยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า เราตั้งความหวังไว้ทุกคน แต่เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน และนอกจากคาดหวังเราต้องทำประโยชน์นำนโยบายที่เป็นที่เชื่อมั่นว่าเราจะทำได้ ถ้าเขามั่นใจว่าเราทำได้แน่ๆ ก็คงจะเลือกเรา
เมื่อถามว่า ครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยคาดหวังว่าจะได้รับใช้ประชาชนในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราเสนอตัวที่จะทำผลงานให้ประชาชนด้วยความตั้งใจ ตอนเลือกตั้งเรากำหนดอะไรเองไม่ได้นอกจากนำเสนอนโยบาย และทำให้ได้ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัสคิดว่าเป็นที่พึงพอใจ และเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนว่ารัฐบาลพรรคภูมิใจไทยทำได้ เราได้พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วว่าเราได้ยกระดับในทุกๆ เฟส ถ้าไม่ยุบสภา ป่านนี้คงจะได้คนละครึ่งพลัสเฟส 2 เรียบร้อยแล้ว ก็ขอโอกาสให้พรรคภูมิใจไทยได้กลับมาบริหารบ้านเมืองอีก เราจะทำคนละครึ่งเฟส 2 ต่อ ซึ่งไม่ได้เป็นนโยบายที่เป็นประชานิยม แต่เป็นนโยบายที่ประชาชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และวินวินกับทุกฝ่าย
นายอนุทิน ยังเปิดเผยว่า การขอพรที่ศาลหลักเมืองวันนี้ เป็นการขอพรให้ประเทศไทยมีชัยชนะในทุกๆ สิ่ง ประชาชนพ้นความทุกข์ มีความสุขสบาย และความมั่นคง ส่วนการขอพรเรื่องการเลือกตั้งนั้นขึ้นอยู่กับตัวเราเอง ขอพรให้เราสุขภาพแข็งแรงอย่าย่อท้อต่อการทำงาน เรื่องการชนะเลือกตั้งอยู่ที่ตัวเราขอเทวดาไม่ได้
ที่มาภาพปก: Facebook Phra Nakhon News

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา