
กสม.แนะรัฐบาลพิจารณาแนวทางบริหารฝุ่นละอองหลังสถานการณ์เริ่มทุเลา ยกเชียงใหม่โมเดลให้ทุกฝ่ายมีส่วนในการบริหารจัดการเชื้อเพลิง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.30 น. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และนางสาวหรรษา หอมหวล เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แถลงข่าวเด่นประจำสัปดาห์ครั้งที่ 8/2568 ในประเด็นที่ กสม. มีความเห็นกรณีการบริหารจัดการปัญหาฝุ่นละออง เสนอรัฐบาลพิจารณาแนวทางการบริหารจัดการเชื้อเพลิงตามประกาศจังหวัดเชียงใหม่โดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม
โดยนายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เรื่อง ยกระดับมาตรการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ลงวันที่ 30 มกราคม 2568 โดยมีข้อสั่งการเกี่ยวกับการบริหารจัดการไฟป่า การบริหารจัดการเชื้อเพลิง โดยกำหนดมาตรการป้องกันปราบปรามและบังคับใช้กฎหมายเพื่อควบคุมการเผาอย่างเด็ดขาด และให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดใช้ระบบการบริหารจัดการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) สั่งการหน่วยงานยกระดับการดำเนินงานอย่างเข้มข้นในทุกมาตรการ ถือเป็นมาตรการเร่งด่วนที่ตอบสนองต่อปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเพื่อบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในภาพรวม
เมื่อสถานการณ์ฝุ่นละอองคลี่คลายลงบ้างแล้ว กสม. ขอให้รัฐบาลได้พิจารณารูปแบบการบริหารจัดการไฟป่าและเชื้อเพลิงเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองรูปแบบอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น กรณีประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง กำหนดเขตการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและเขตควบคุมการเผาของจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งมีหลักการสำคัญคือให้ทุกพื้นที่กำหนดเขตการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เพื่อบริหารจัดการเชื้อเพลิงทางการเกษตรที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งและพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า รวมทั้งพื้นที่ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการหยุดยั้งการลุกลามของไฟตามหลักวิชาการ โดยทำแผนการบริหารจัดการเชื้อเพลิงและแจ้งดำเนินการจัดการเชื้อเพลิงผ่านระบบ Fire-D ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพื้นที่นั้น ๆ เพื่อให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองระดับอำเภอหรือตำบล พิจารณาอนุญาตก่อนดำเนินการ อันเป็นแนวทางการบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย คือ ประชาชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานในระดับพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 กสม. ได้มีข้อเสนอแนะถึงนายกรัฐมนตรีในการแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยได้เน้นย้ำให้การแก้ไขปัญหาสอดคล้องกับสถานการณ์เชิงพื้นที่ และควรสนับสนุนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานทั้งในระดับจังหวัดและระหว่างจังหวัด โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนและสิทธิในสิ่งแวดล้อมที่สะอาด ดีต่อสุขภาพ และยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมให้ภาคส่วนต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลและข้อเสนอเกี่ยวกับแนวทางดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งสอดคล้องตามประกาศของจังหวัดเชียงใหม่ข้างต้น ซึ่งจะเป็นอีกรูปแบบวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองจากการเผาโดยการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา