
สภาทนายความแจงกรณีอบรมทำบัตรผู้ช่วยทนายความ อาจถูกนำไปหลอกประชาชน เป็นประเด็นการเมือง ยันช่วยสนับสนุนทนายตัวจริงทำคดีซับซ้อน
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค. 2568 นางสาววิรัลพัชร เวธทาวริทธิ์ธร อุปนายกฝ่ายวิชาการผู้รับผิดชอบโครงการการอบรมผู้ช่วยทนายความ ชี้แจงเรื่องการออกบัตรผู้ช่วยทนายของสภาทนายความที่ถูกโจมตีว่าจะเป็นการสร้างสถานะบุคคลที่เป็นความคลุมเครืออันตราย อาจถูกนำไปแอบอ้างหลอกลวงประชาชน
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นมาจากปัญหาที่ว่า งานทนายความ หากรับคดีใหญ่ๆที่มีความสลับซับซ้อน จะมีเอกสารในคดีจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องมีผู้ช่วยทนายมาซัพพอร์ต ซึ่งเดิมก็จะเป็นเสมียนทนายความ เราก็เปลี่ยนจากคำนี้มาเป็นผู้ช่วยทนายความ เพื่อความเป็นทางการในการแนะนำตัว และจัดอบรมให้คนที่มาสมัครได้มีความรู้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ บุคลิกภาพ ทักษะการสื่อสารติดต่อหน่วยงานราชการ ครบขั้นตอนโดยมีวิทยากรที่เชี่ยวชาญมาสอน
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า สำหรับคุณสมบัติผู้สมัครเราจะเปิดกว้างมีทั้งจบนิติศาสตร์และสาขาอื่น เราจัดอบรมมาตั้งแต่ปี 2566 เป็นรุ่นที่ 1 และ 2567 เป็นรุ่นที่ 2 มีผู้อบรมรวม74กว่าคนมีค่าสมัครคนละ13,500 บาท อบรม 6 วันรวม 3 สัปดาห์ ก็จะได้ใบประกาศณียบัตรเหมือนผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรอื่นของสภาทนาย ส่วนบัตรประจำตัวถ้าผู้สมัครต้องการ เราก็ออกให้ บัตรนี้ไม่ใช่ใบอนุญาต เป็นบัตรประจำตัวผู้ผ่านการอบรมหลักสูตรผู้ช่วยทนายความ ก็เหมือนใบประกาศที่เราออกให้อยู่แล้ว เพียงแต่มาทำเป็นบัตรพกพาได้ง่าย ซึ่งก็มีคนมาขอบัตรแค่ 22 คน บัตรนี้ดูภายนอกก็รู้จะแตกต่างจากบัตรทนายความโดยสิ้นเชิง
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า ที่มีการโจมตีกัน ถ้ามองด้วยใจที่เป็นกลาง ถ้ามีการออกบัตรให้แล้ว มีการนำไปโชว์กับคนอื่นหรือเอบอ้าง ชาวบ้านเมื่ออ่านจากบัตรก็เข้าใจได้ว่าเป็นบัตรผู้ผ่านการอบรมเพราะข้อความเขียนไว้ชัด อย่างในต่างจังหวัด กำนันยังมีผู้ช่วยกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ช่วยพยาบาลก็ยังมี คนที่จะแอบอ้างคงไม่ลงทุนเสียค่าสมัคร 13,500 บาท เพื่อมาอบรม แต่ไปใช้วีธีทำบัตรทนายปลอมไปเลยน่าจะง่ายกว่า ตรงนี้มันไม่มีทางเลยที่จะไปแย่งงานอาชีพทนายความ
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า ตนเองเข้ามาดูตั้งแต่อบรมปี 2567 ไม่เคยมีข่าวคนไปแอบอ้าง มีแต่คนชื่นชมว่ามีการซัพพอร์ตอาชีพทนายว่าได้สร้างผู้ช่วยทนายดีๆให้กับทนายความ แต่พอมีการเลือกตั้งนายกทนายความก็มีการโจมตีเรื่องนี้อย่างหนักหน่วง ส่วนจะมีการอบรมต่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับบอร์ดสภาทนายความจะพิจารณา ซึ่งเห็นว่ายังเป็นหลักสูตรที่ดีที่เป็นการยกระดับวิชาชีพทนายความ การที่ทนายมีผู้ช่วยจะทำให้ทำงานที่ซับซ้อนและโฟกัสเรื่องยาก ๆได้ดีขึ้น
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้ ผลสัมฤทธิ์ที่เห็นได้ชัด คือคนที่อยู่ระหว่างที่จะสอบใบอนุญาตว่าความ เเละเป็นผู้ช่วยทนายความประจำสำนักงานทนายความ เมื่อได้เข้ามาอบรมได้เรียนรู้ระบบ ทำให้เข้าใจงานมากขึ้นและสอบใบอนุญาตว่าความได้ ที่ผ่านมามีจำนวนหลายคนที่สอบได้เเล้วยังมีการขอบคุณที่เปิดหลักสูตรนี้ จึงทำให้พวกเขาได้เข้าใจภาพรวมและสอบใบอนุญาตว่าความได้
"เรื่องนี้มันไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่เคยมีประเด็นขึ้นมาก่อน เพราะเป็นเรื่องวิชาการที่ทำมาแล้ว ส่วนใหญ่ทุกเรื่องได้รับการตอบรับที่ดีมากๆ ส่วนที่มีการบอกกันว่าทำไมถึงเเนะนำโปรโมตเเต่โครงการทนายผู้ช่วย แล้วทนายใหม่จะไปฝึกงานที่ไหน" นางสาววิรัลพัชร กล่าว
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า ต้องทราบว่าความจริงเเล้วนอกจากโครงการนี้ก็ยังมีโครงการทนายพี่เลี้ยงที่เป็นสถาบันการเรียนรู้ของทนายความใหม่ เรียกว่าถ้าได้ใบอนุญาตว่าความมา เราก็มีการเปิดหลักสูตร ทนายความพี่เลี้ยงมารองรับให้เลย ซึ่งเปิดมาแล้ว30 กว่ารุ่นก็เป็นการสนับสนุนทนายใหม่ โดยที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเลยเพราะถือเป็นวิชาชีพ ก็พยามผลักดันให้เป็นสวัสดิการให้ทนายความ
นางสาววิรัลพัชร กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเป็นประเด็นเลยจนมามีการหาเสียงเลือกตั้ง ทั้งที่โครงการต่างๆต่างมีระเบียบกฎหมายรองรับ ไม่ใช่ว่านึกอยากจะทำก็ทำ เราทำตามทั้งระเบียบและวัตถุประสงค์ อย่างไรก็ตามการดำเนินงานของสภาทนายความเป็นไปในรูปแบบของคณะกรรมการ หากมีการประเมินแล้ว ได้ไม่คุ้มเสียก็สามารถที่จะยกเลิกโครงการต่างๆได้
"ส่วนปัญหาทนายความปลอมหรือทะแนะ ถ้ามีการ ไปหลอกลวงชาวบ้าน สภาทนายความเอาจริงเอาจังในเรื่องดังกล่าวหากพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหาย สภาทนายความยินดีให้การช่วยเหลือตามกฎหมายฟรี เพื่อเอาคนผิดมาลงโทษให้ถึงที่สุด" นางสาววิรัลพัชร กล่าว

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา