
‘บิ๊กก้อง’ เปิดงานสอบสวนกลาง AI เชื่อใช้ AI จะลดภาระงานเจ้าหน้าที่ได้ถึง 80% ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานรวดเร็ว มีเวลาตามจับคนร้ายมากขึ้น
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่าเมื่อวันที่ 25 กันยายน พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำนายตำรวจระดับสูงเปิดงาน “CIB AI DAY 2025” ซึ่งจัดขึ้นที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง CIB โดยกล่าวว่า สถานการณ์อาชญากรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง CIB ได้ให้ความสำคัญของ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในฐานะเครื่องมือทรงประสิทธิภาพที่ทั้งผู้กระทำผิดและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างก็ต้องนำมาใช้เพื่อก้าวให้ทันกัน และเพื่อเป็นการติดอาวุธให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ CIB
โดยได้มีการพบกับ นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกลุ่มบริษัท กสิกร บิสซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี AI เข้ามาจัดการอบรมและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมจัดงานนำเสนอโครงการที่นำ AI มาประยุกต์ใช้ในงานสืบสวนสอบสวนและงานธุรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับการให้บริการประชาชน
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า การนำ AI มาใช้จะช่วยลดภาระการทำงานได้มากถึง 70-80% ทำให้เจ้าหน้าที่มีเวลาไปทำภารกิจอื่น ๆ และลดความเครียดจากการทำงานหนักได้ โดยมองว่า AI เปรียบเสมือนอาวุธที่ทั้งมิจฉาชีพ และเจ้าหน้าที่ต่างก็ใช้ หากใครใช้ได้เก่งกว่าก็จะได้เปรียบมากกว่า
ทั้งนี้ CIB ยังคงมุ่งเน้นความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพื่อนำ AI มาปรับใช้ในการสืบสวนสอบสวนให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น
“CIB มุ่งมั่นพัฒนาองค์กรในทุกมิติ โดยเฉพาะการนำ AI มาเป็นเครื่องมือสำคัญ ซึ่งตนเชื่อว่า AI ไม่ได้ทำให้คนตกงาน แต่คนที่ใช้ AI ไม่เป็นต่างหากที่จะตกงาน และตนยังมองว่า AI เป็นอาวุธสำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม” พล.ต.ท.จิรภพ กล่าว
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวต่อว่า CIB ได้วางแผนการพัฒนาการทำงานโดยใช้ AI ไว้ 3 เฟส เฟสแรก คือมุ่งสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของ AI, เฟสที่สอง ให้เจ้าหน้าที่ได้เรียนรู้ ได้ทดลองใช้แอปพลิเคชัน AI ต่างๆ และเฟสที่สาม คือการนำ AI มาประยุกต์ใช้กับงานจริง ซึ่งเห็นผลเป็นรูปธรรมแล้วในวันนี้ โดยเป้าหมายต่อไปคือการพัฒนาระบบที่ช่วยลดงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้คน เพื่อให้บุคลากรสามารถไปทุ่มเทกับงานสืบสวนที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ด้าน นายเรืองโรจน์ พูนผล กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจในผลงานการใช้ AI ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะนำ AI มาใช้แล้ว ยังสามารถประยุกต์ให้เข้ากับระบบการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยดึงศักยภาพของ AI ออกมาได้สูงสุด นอกจากนี้ยังมองว่า AI เป็นเสมือนดาบสองคม ยิ่งมิจฉาชีพใช้งานเก่งเท่าไหร่ ตัวตรวจจับก็จะยิ่งต้องพัฒนาให้เก่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำเทคโนโลยีมาใช้ได้เร็วกว่า
นายเรืองโรจน์ กล่าวต่อว่า ในฐานะประชาชนทั่วไปก็ได้ติดตามข่าวสารและตรวจสอบความเรื่องอันตรายของ AI จากเพจ CIB ซึ่งเป็นเพจที่แจ้งเตือนข่าวสารได้รวดเร็ว ถูกต้อง และเชื่อถือได้ อีกทั้ง CIB ก็ยังมีการทำงานและมุมมองแบบครบทุกมิติ ในเรื่องการป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากเพจ CIB เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันตนเองจากอาชญากรรมทางออนไลน์
มีรายงานว่า สำหรับไฮไลต์สำคัญของงานคือการนำเสนอผลงาน “Prompt สำเร็จรูป” หรือชุดคำสั่ง AI ที่สร้างขึ้นเพื่อลดขั้นตอนการทำงาน ซึ่งมาจากการประกวดไอเดียของเจ้าหน้าที่ตำรวจ CIB 82 นาย พบว่าผลงานที่โดดเด่นสามารถลดขั้นตอนการทำงานได้ถึง 60.58% และลดเวลาทำงานได้มากถึง 85.81% โดยผลงานเหล่านี้จะถูกรวบรวมเป็นคลังความรู้กลางในระบบ e-Learning ให้เจ้าหน้าที่ทุกคนเข้าถึงและนำไปปรับใช้ได้จริง
นอกจากนี้ CIB ยังได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ AI ที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อตอบโจทย์การทำงานเฉพาะทาง เช่น 'iJustice Chatbot' แชตบอตที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือและพูดคุยกับผู้เสียหายในคดีทางเพศอย่างละเอียดอ่อน, 'Detective Assistant' แชตบอตที่ทำหน้าที่รวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลงานสืบสวน เพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ในการวิเคราะห์คดี และ 'CIB Little Cop AI' เครื่องมือสำหรับสร้างสื่อการ์ตูนเพื่อเตือนภัยและให้ความรู้แก่ประชาชน.

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา