
‘OR’ ปูพรมแคมเปญ ‘Café Amazon for Chance’ เปิดโอกาสบุคคลด้อยโอกาส 3 กลุ่ม ‘พิการทางการได้ยิน-ผู้สูงวัย-ผู้พิการที่เป็นทหารผ่านศึก’ สร้างงานสร้างอาชีพ ก่อนขยายผลไปต่างประเทศ และกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ‘ผู้ป่วยออทิสติก-กลุ่มคนไร้ที่พึ่ง’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 กรกฎาคม 2565 Café Amazon for Chance จัดตั้งขึ้นโดยได้นำความสำเร็จของธุรกิจคาเฟ่ อเมซอนที่มีมากกว่า 4,000 สาขาทั้งในและต่างประเทศในขณะนั้น มาสร้างคุณค่าให้สังคม ด้วยการพัฒนาทักษะการทำงานให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินให้สามารถเรียนรู้และฝึกปฏิบัติการเป็นบาริสต้าตามมาตรฐานของร้านคาเฟ่ อเมซอน ตามสโลแกนที่ว่า “Café Amazon for Chance สร้างโอกาส สร้างงาน อย่างยั่งยืนให้แก่ผู้พิการไทย”
โออาร์ นำจุดแข็งของธุรกิจมาช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะทำให้สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมได้อย่างยั่งยืน เพื่อดำเนินงานทางด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยมุ่งเน้นพัฒนาสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ให้เป็นสังคมแห่งการเกื้อกูล เป็นสังคมแห่งความสุขร่วมกัน
โดย Café Amazon for Chance เป็นอีกหนึ่งในโครงการวิสาหกิจชุมชนที่ได้นำความสำเร็จของธุรกิจคาเฟ่ อเมซอนมาสร้างคุณค่าให้สังคม โดยปัจจุบันมีรูปแบบการให้บริการ 3 รูปแบบสำคัญ เริ่มจากการพัฒนาทักษะการทำงานให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินเป็นกลุ่มแรก ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้พิการที่มีมากเป็นอันดับ 2 รองจากผู้พิการทางร่างกาย และมักได้รับการจ้างงานต่ำกว่าวุฒิการศึกษา รวมทั้งไม่มีการอบรมพัฒนาความสามารถในสายอาชีพนี้อีกด้วย
คิกออฟผู้พิการทางการได้ยิน
ซึ่งเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2561เปิดบริการ Café Amazon for Chance สาขาแรกที่สาขา สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อผู้พิการด้านการได้ยิน เพื่อเปิดโอกาสในการพัฒนาความสามารถ สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้พิการทางการได้ยินที่จบการศึกษาจากวิทยาลัยราชสุดา มหาวิทยาลัยมหิดล
ความพิเศษของ Café Amazon for Chance สาขาที่ดำเนินการโดยผู้พิการทางการได้ยิน จะใช้เครื่องบดกาแฟแบบดิจิทัลที่ลดภาระการตวงกาแฟทำให้รสชาติของกาแฟมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น เป็นการลดปัญหาความคลาดเคลื่อนในการเตรียมเครื่องดื่ม และทำให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะแต่ก่อน พนักงานบาริสต้าผู้พิการนั้นจะเตรียมเครื่องดื่มช้ากว่าคนปกติเนื่องจากต้องเสียเวลาเพื่อใช้ในการสื่อสาร
โดยเครื่องบดนี้จะชดเชยเวลาที่เสียไปให้สามารถเตรียมเครื่องดื่มได้รวดเร็วเท่ากับร้านปกติและการสั่งเครื่องดื่มโดยใช้เครื่องชำระเงินระบบ 2 หน้าจอ (Duo Screen POS) เป็นการลดความผิดพลาดของการสั่งสินค้า เพราะทางลูกค้าสามารถตรวจสอบรายการของตนเองได้ทันที
ปัจจุบัน ข้อมูล ณ เดือน พ.ค. 2565 ร้าน Café Amazon for Chance ที่ดำเนินการโดยผู้พิการทางการได้ยิน มีทั้งสิ้น 10 สาขา จำนวนผู้พิการทางการได้ยิน 24 คน เช่น สาขาสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล, หอศิลป์ ณ บ้านเจ้าพระยา (ติดป้อมพระสุเมรุ), สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต สนามบินสุวรรณภูมิ เป็นต้น

ขยายผล ผู้สูงวัย-ทหารผ่านศึก
กลุ่มที่ 2 ผู้สูงวัย ในปี 2563 บมจ. ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ผู้ดำเนินธุรกิจร้าน Café Amazon ขยายโอกาสในกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในกลุ่มผู้สูงวัย ซึ่งมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุและมีผู้สูงอายุอีกมาก ที่ขาดโอกาสในการทำงานเนื่องจากวัยที่มากขึ้น
ดังนั้น OR จึงร่วมกับ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จัดตั้งร้าน Café Amazon for Chance สาขาแรกที่ดำเนินการโดยบาริสต้าสูงวัยขึ้น ณ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 และขยายสาขาที่ดำเนินการโดยบาริสต้าผู้สูงวัยไปยัง ที่สาขา รัชดา 17
สำหรับรูปแบบบของร้าน Café Amazon for Chance ที่ดำเนินการโดยบาริสต้าผู้สูงวัย จะเป็นการจ้างงานผู้สูงอายุระหว่างอายุ 60-65 ปี ที่สามารถเป็นบาริสต้าร้านกาแฟได้ โดยออกแบบร้านให้เหมาะสมกับการทำงานของผู้สูงอายุ เช่น มีการคัดเลือกเมนูเครื่องดื่มเฉพาะเมนูขายดี มีใช้เครื่องชงอัตโนมัติเพื่อรสชาติที่เป็นมาตรฐานของร้าน, กำหนดความสูงของชั้นวางวัตถุดิบที่เหมาะสม และอุปกรณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน ซึ่งปัจจุบันสาขากรมพัฒน์ มีการจ้างงานผู้สูงอายุ จำนวน 6 คน ที่ผ่านการเรียนรู้ระบบและการดำเนินงานในร้านคาเฟ่ อเมซอนแล้ว โดยผ่านการอบรมโดยทีมพัฒนามาตรฐานและอบรมคาเฟ่อเมซอนเช่นเดียวกับบาริสต้า คาเฟ่ อเมซอนทั่วไป
ปัจจุบันร้าน Café Amazon for Chance ที่ดำเนินการโดยผู้สูงวัย มีทั้งสิ้น 29 สาขา ดำเนินการโดยบาริสต้าผู้สูงวัย จำนวน 60 คน เช่น สาขากรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, อุทยาน 100 ปี จุฬาฯ, คณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น(อาคารเวชวิชชาคาร) และอาคารศูนย์การเรียนรู้ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นต้น
และกลุ่มที่ 3 ผู้พิการทหารผ่านศึกและครอบครัว ซึ่งในวันที่ 17 สิงหาคม 2563 จัดตั้งร้าน Café Amazon for Chance สาขาแรกที่จ้างงานบาริสต้าผู้พิการทหารผ่านศึกและครอบครัว ที่ศูนย์บัญชาการนาวิกโยธิน หาดเตยงามจังหวัด ชลบุรี
รูปแบบการดำเนินการแบบสวัสดิการ โดยจะปันผลกําไรหลังหักต้นทุนค่าดําเนินการส่วนหนึ่ง และกําหนดค่าใช้สถานที่มอบให้ทางสวัสดิการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินนําไปใช้ประโยชน์เพื่อสังคมตามความเหมาะสม เช่น ใช้ในการบรรเทาความทุกข์ร้อนของกลุ่มทหารผ่านศึก ใช้ในกิจกรรม ที่เป็นสาธารณะประโยชน์ต่อชุมชนหรือสังคมของสวัสดิการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธินเป็นต้นและ มอบส่วนลดของเครื่องดื่มกาแฟภายในร้านให้แก่ข้าราชการทหารเรือ
โดยจะนำรายได้ส่วนหนึ่งไปขยายโครงการและสนับสนุนศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ ปัจจุบันร้าน Café Amazon for Chance ที่ดำเนินการโดยผู้พิการทหารผ่านศึกและครอบครัว มีทั้งสิ้น 1 สาขา คือ สาขา นาวิกโยธิน เตยงาม และมีบาริสต้าพิการทหารผ่านศึกและครอบครัว จำนวน 3 คน
นอกจากนั้น ในวันที่ 27 ตุลาคม 2563 เปิดร้าน Café Amazon for Chance สาขา The Office@Central World โดยสาขานี้ดำเนินการโดยบาริสต้าผู้พิการทางการได้ยิน และยังขยายโอกาสไปสู่กลุ่มคนอื่นๆ ทั้งกลุ่มผู้ป่วยออทิสติก ที่สาขาสนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต และกลุ่มคนไร้ที่พึ่ง ที่บ้านธัญญพร

ขยายโอกาสต่างประเทศ-เพิ่มเติม ‘ออทิสติก-คนไร้ที่พึ่ง’
ทั้งนี้ ร้าน Café Amazon for Chance ยังขยายโอกาสไปสู่ต่างประเทศด้วย โดยสาขาแกที่ได้รับโอกาสคือ ประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ที่ถนนพระสีหนุ เมืองพนมเปญ ซึ่งให้บริการโดยบาริสต้าผู้พิการทางการได้ยิน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต สร้างโอกาส สร้างอาชีพและสร้างความสุข ให้เกิดขึ้นแก่สังคมและชุมชนอย่างยั่งยืนในประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นประเทศที่โออาร์เข้าไปดำเนินธุรกิจ
ปัจจุบัน Café Amazon for Chance เปิดให้บริการแล้ว 40 สาขา สามารถสร้างอาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคมกลุ่มต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องแล้วกว่า 83 คน ประกอบด้วย ผู้พิการทางการได้ยิน 24 คน ผู้พิการทางการเรียนรู้ 2 คน ผู้สูงวัย 60 คน ทหารผ่านศึกที่พิการและครอบครัว 2 คน คนไร้ที่พึ่ง 2 คน รวมทั้งสิ้น 83 คน


Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา