
ขอสินเชื่อ SME อย่างไรให้ธนาคาติ๊กถูกทุกข้อ มีเงินมาหมุนในธุรกิจ?
สำหรับผู้ประกอบการ SME การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตและขยายกิจการได้ การขอสินเชื่อกับธนาคารจึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้ประกอบการมักเลือกใช้ แต่หลายคนก็อาจประสบปัญหาถูกปฏิเสธเพราะขาดความพร้อมในการขอสินเชื่อ บทความนี้จะมาช่วยให้คุณเตรียมความพร้อมเพื่อขอสินเชื่อและได้การอนุมัติอย่างที่ตั้งใจ ทั้งเรื่องการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน และกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้คุณก้าวสู่การได้รับอนุมัติสินเชื่อ SME ได้อย่างมั่นใจ
คุณสมบัติที่ธนาคารใช้พิจารณาการขอสินเชื่อ SME
ก่อนที่จะมองหาธนาคารที่ใช่ ผู้ขอสินเชื่อ SME ต้องสำรวจตัวเองก่อนว่ามีคุณสมบัติตรงตามที่สถาบันการเงินต้องการหรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว การพิจารณาจะครอบคลุมทั้งตัวบุคคลและตัวธุรกิจ
1. คุณสมบัติส่วนบุคคล
- ประวัติทางการเงินที่น่าเชื่อถือ: เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด โดยธนาคารจะตรวจสอบประวัติเครดิตบูโร (Credit Bureau) ของคุณ หากมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้สินเชื่อประเภทอื่น โอกาสในการอนุมัติจะสูงขึ้นมาก
- ประสบการณ์ในธุรกิจ: ธนาคารมักให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในธุรกิจของตนเองมาแล้วในระดับหนึ่ง โดยส่วนใหญ่จะกำหนดให้ดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1-3 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงในระดับหนึ่งของธุรกิจ
2. คุณสมบัติของธุรกิจ
- การจดทะเบียนและสถานะธุรกิจ: ธุรกิจต้องมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล (บริษัท/ห้างหุ้นส่วน) รวมถึงต้องไม่มีประวัติล้มละลายหรือถูกดำเนินคดี
- ความสามารถในการสร้างรายได้: ในการขอสินเชื่อ SME ธุรกิจต้องมี กระแสเงินสดและรายได้ที่มั่นคง และสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าเพียงพอต่อการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในแต่ละเดือนหรือแต่ละงวด โดยธนาคารอาจพิจารณารายได้ย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือนถึง 1 ปี
เอกสารที่ต้องจัดเตรียม: สร้างความน่าเชื่อถือด้วยหลักฐานที่เป็นรูปธรรม
การเตรียมเอกสารในการขอสินเชื่อ SME ที่ครบถ้วนและเป็นระเบียบจะช่วยให้การพิจารณารวดเร็วขึ้นและสร้างความประทับใจที่ดีให้กับเจ้าหน้าที่สินเชื่อ โดยเอกสารสามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. เอกสารส่วนบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี)
- สมุดบัญชีธนาคารย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อแสดงความเคลื่อนไหวทางการเงินส่วนตัว
2. เอกสารทางธุรกิจ
- เอกสารการจดทะเบียนธุรกิจ
--สำหรับบุคคลธรรมดา: ทะเบียนการค้า หรือเอกสารยืนยันการดำเนินธุรกิจ
--สำหรับนิติบุคคล: หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท (ไม่เกิน 3 เดือน), บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (บอจ.5), และข้อบังคับบริษัท
- เอกสารทางการเงิน
--งบการเงิน: สำหรับนิติบุคคล ต้องมีงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต (Audit Report) อย่างน้อย 1-3 ปีล่าสุด
--รายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30): สำหรับธุรกิจที่จดทะเบียน VAT
--สำเนาสมุดบัญชีธนาคารของธุรกิจ: อย่างน้อย 6-12 เดือน เพื่อให้เห็นรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจน
--เอกสารประกอบรายได้: เช่น ใบแจ้งหนี้, ใบเสร็จรับเงิน, สัญญาซื้อขายสินค้าหรือบริการ
- เอกสารหลักประกัน
--โฉนดที่ดิน หรือเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในสินทรัพย์ที่จะใช้เป็นหลักประกัน (กรณีขอสินเชื่อแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน)
เคล็ดลับเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ SME
การเตรียมตัวที่ดีไม่ได้จำกัดแค่การรวบรวมเอกสาร แต่ยังรวมถึงการสร้างความพร้อมรอบด้าน ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความน่าเชื่อถือและตอบคำถามของเจ้าหน้าที่สินเชื่อได้อย่างมั่นใจ
1. จัดทำแผนธุรกิจ (Business Plan) ให้ชัดเจน: แผนธุรกิจที่ดีจะช่วยให้ธนาคารเห็นภาพรวมของธุรกิจคุณอย่างชัดเจน ควรระบุ วัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ อย่างเจาะจง เช่น เพื่อซื้อเครื่องจักรใหม่, ขยายสาขา, หรือเพิ่มสภาพคล่อง รวมถึงแสดงให้เห็น วิธีการสร้างรายได้ และ แผนการชำระคืนหนี้ อย่างเป็นรูปธรรม
2. สร้างวินัยทางการเงิน: แยกบัญชีส่วนตัวออกจากบัญชีธุรกิจอย่างเด็ดขาด เพราะจะช่วยให้ธนาคารตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายของธุรกิจได้ง่ายและน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น อีกทั้งควรรักษาวินัยในการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
3. สร้างความสัมพันธ์กับธนาคาร: การเป็นลูกค้าประจำและมีธุรกรรมกับธนาคารที่ต้องการขอสินเชื่ออยู่แล้ว จะช่วยให้ธนาคารมีข้อมูลประวัติทางการเงินของคุณมากขึ้น ลองเข้าไปพูดคุยและปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
การขอสินเชื่อ SME ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด หากผู้ประกอบการเข้าใจหลักเกณฑ์และเตรียมตัวมาอย่างดี การมีข้อมูลที่ครบถ้วนและแผนธุรกิจที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จำเป็นและผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนได้

Isranews Agency | สำนักข่าวอิศรา